21 ลักษณะเสียง Synth ที่คนทำเพลงควรรู้ Hard

21 ลักษณะเสียง Synth ที่คนทำเพลงควรรู้

Share via:

Krissaka Tankritwong

21 ลักษณะเสียง Synth ที่คนทำเพลงควรรู้

หลายคนเป็นแบบนี้แน่อนน เปิด DAWs มาเจอซาวด์ต่าง ๆ เต็มไปหมด โดยเฉพาะเสียง Synth ที่มีชื่อเรียกแปลก ๆ เพียบ จนไม่รู้ว่าเสียงไหนคืออะไร และจะหาเสียงที่ต้องการยังไงดี? เรามาเคลียร์ปัญหานั้นด้วยกับกับ 21 ลักษณะเสียง Synth ที่คนทำเพลงควรรู้

เช่นเคย เรามาดูกันที่ Logic Pro แต่จริง ๆ ทุก DAWs ก็มีเสียง Synth ต่าง ๆ และมีชื่อเรียกที่เหมือน ๆ กันด้วย 21 เสียงที่เอามานี้ เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานที่เอาไปเสิชเสียงต่าง ๆ ต่อได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 หมวดคือ เสียงทีเป็นเครื่องดนตรี และเสียงที่เป็น sound effect

เสียงที่เป็นเครื่องดนตรี

  1. Lead 

เสียงจะพุ่ง ๆ ฟังเป็น lead หรือตัวนำ มักใช้เป็นเมโลดี้หลักของเพลง หรือสิ่งที่อยากให้เป็นจุดเด่น ให้คนจำได้ ใน DAWs ก็จะมี Lead มากมายเต็มไปหมด หลากสไตล์ให้เลือกใช้

  1. Plucked

เสียงจะสั้น ๆ เบา ๆ เหมือนเล่นโน้ตลักษณะ pizzicato ใช้เป็นส่วนประกอบดนตรีต่าง ๆ 

  1. Pad

เสียงฟุ้ง ๆ ลากยาว ๆ บางทีเล่นตัวเดียว บางทีเล่นเป็นคอร์ด หรือ unison กัน ขึ้นอยู่ว่าอยากให้เสียงเต็มแค่ไหน หลัก ๆ คือเอาไว้ใช้เป็น Background รองพื้นไว้ ไม่นิยมใช้เป็นเมโลดี้หลักเท่าไหร่

  1. Brass

เสียงใกล้เคียง Pad แต่เสียงจะใกล้เคียงกับเสียงเครื่องเป่า มีความพุ่งกว่า Pad แต่ก็ไม่เด่นเท่า Lead เอาไปประยุกต์เป็นเมโลดี้หรือคอร์ดก็ได้

  1. String

จำลองเสียงเครื่องสายต่าง ๆ เล่นเป็นเมโลดี้หรือคอร์ดก็ได้

  1. Bell

เสียงระฆัง เสียงจะมีความกรุ๊งกริ๊ง เสียงสูง ๆ หน่อย ๆ บางทีก็ตกแต่งให้เหนือจริงไปเลย โดยส่วนมากจะไว้ใช้เป็นส่วนตกแต่งในเพลง

  1. Bass

เสียงเบส หรือเสียงต่ำ ๆ เหมาะใช้ในส่วนต่ำ ๆ แต่ก็เอาไปใช้เสียงสูง ๆ แบบ Lead ก็ได้ แต่เมื่อเทียบกันก็ไม่ได้พุ่งเท่า Lead ซะทีเดียว เสียงจะมีความหลบ ๆ หัวเสียงไม่ได้คม ๆ เลยเหมาะเป็นเบสมากกว่า

  1. Growling

เป็นเสียงเบส แต่ว่าจะมีความดุดัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว่าเสียงเบส ผสม texture บางอย่าง เหมือนมีเสียงแตกหรือเสียงคำรามอยู่ในเนื้อเสียงด้วย

  1. Wobble

เสียงจะมีความแกว่ง หรือสั่น นิยมใช้เป็นเสียง bass พวกแนว Dubstep หรือ Drum and Bass จะนิยมใช้ แต่จริง ๆ ก็เอาประยุกต์ใช้เป็นเสียงสูงก็ได้

  1. Sub Bass

เสียงย่าน Bass ที่ต่ำมาก ๆ เอาไว้รองพื้น Bass ช่วงที่อยากให้เสียงลึกเข้าไปอีก

  1. Stab

เสียงจะมีความเสียบเข้าไป มีหลายรูปแบบ บางทีก็สั้นกระชับ บางทีก็มีความกังวาล แต่ก็ลักษณะหัวเสียงจะมีความรู้สึกเหมือนกำลังเสียบเข้าไป

  1. VOX

ย่อมาจาก Vocal เป็นเสียงที่เลียนแบบจากเสียงมนุษย์ บางทีเล่นเป็นคอร์ด ใช้เป็นพื้นหลัง เติมให้เพลงดูยิ่งใหญ่ขึ้น

  1. Drone

เสียงที่ขยับน้อย ๆ เล่นซ้ำตัวเดิมบ่อย ๆ หรือถ้าเปลี่ยนโน้ตก็น้อยมาก ให้ความรู้สึกนิ่ง ๆ ลอย ๆ หรือลึก กดดัน

  1. Chord

ซินธ์ที่เล่นเป็นคอร์ด บางทีมีแบบที่เรากดโน้ตตัวเดียวแล้วออกมาเป็นคอร์ดเลย หรือบางทีก็มีที่เราต้องกดคอร์ดเองถึงจะได้เสียงที่มีความสวยงาม เสียงแบบนี้อาจจะใช้ยาก เพราะกดปุ่มเดียวมันอาจจะได้คอร์ดที่เราไม่ต้องการเช่น ได้เสียง major แต่เราอยากได้ฟีลเสียงเป็น minor

  1. ARP ย่อมาจาก Arpeggiator

ซินธ์ที่ช่วยให้เรากดปุ่มเดียวแล้วได้โน้ตออกมาเป็นแพทเทิร์น หรือถ้าเรากดเป็นคอร์ดก็จะเล่นเป็นแพทเทิร์นของคอร์ดนั้นเลย เหมือนเล่นเป็น Broken Chord ซึ่งมันมักจะมีตัวควบคุมที่ช่วยให้เราปรับแพทเทิร์นต่าง ๆ ได้

  1. Ambient / Landscape / Atmosphere

เสียงบรรยากาศ บางตัวกดแค่ปุ่มเดียวก็มาเรื่อย ๆ ลึก ๆ ทำให้เกิดบรรยากาศ เกิดพื้นที่ มันจะใกล้เคียงกับ Pad แต่เสียงจะลึกกว่า แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่เสียงจะถูกปรับมาจนเป็นสำเร็จรูปให้ใช้

เสียงในลักษณะ Sound Effect

  1. Noise

เสียงซ่า ๆ แต่ก็มีหลายรูปแบบ มีทั้งเสียงสั้นยาว หนาบาง เป็นเสียง Wave ที่เราคาดเดารูปแบบไม่ได้

  1. Riser

เสียงที่มีลักษณะค่อย ๆ ไต่ขึ้น เพลงอิเล็กทรอนิกส์นิยมใช้ ในท่อนที่มีการบิลต์หรือค่อย ๆ ไต่ขึ้น จนไประเบิดในท่อนถัดไป บางทีก็มี plug in ให้เรามากดเป็น midi หรือหาเป็น loop มาแปะได้เหมือนกัน

  1. Reverse

เสียงย้อนกลับ จะให้ลักษณะเหมือนเสียงที่กำลังดูด มักใช้ในช่วง Transition ใช้คู่กับ Riser ได้เหมือนกัน

  1. Hit

เสียงกระแทก ใกล้เคียงกับ Tom แต่ก็กว้าง เหมือนเสียงอะไรก็ได้ที่

  1. Impact

ใกล้เคียง Hit ที่จะมีความกระจาย กังวาล ยิ่งใหญ่กว่า

เสียงซินธ์พวกนี้ เราอาจเจอได้ในหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ให้เรากดเองผ่าน MIDI หรือเป็น loop/audio file ที่มาเป็น .wav พร้อมใช้ในโปรเจกต์ แต่ไม่ว่าจะมาแบบไหน การเข้าใจศัพท์ของเสียงซินธ์แต่ละประเภท จะช่วยให้เรารู้ว่าเสียงนั้นคืออะไร ใช้ยังไง เหมาะกับส่วนไหนของเพลง รวมถึงประหยัดเวลาหาเสียง ไม่ต้องนั่งฟังทีละอันให้เสียเวลา หรือสามารถเสิชหาเสียงต่าง ๆ ได้เองเลยครับ

ในคอร์ส VCA404  Electronic Music Study ที่กำลังจะเปิดสอน จะเกี่ยวกับ Sound Design ในพาร์ทแรก และพาร์ทที่สองจะสอนเกี่ยวกับแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้งสองส่วนมีเนื้อหาครบถ้วน ช่วยให้คุณเข้าใจเอาไปใช้ทำเพลงได้อย่างเป็นระบบ และสามารถดูคอร์สอื่น ๆ เพิ่มเติมสำหรับการเรียนทำเพลง ทั้งหมดนี้อยู่ในหลักสูตร The Real Producer หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

The Real Producer

REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง

ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง

นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer

เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล

สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.