ปัญหาที่เป็นกันทั่ว ในหมู่คนทำเพลง ไม่ว่าจะมือเก่ามือใหม่ หนึ่งในนั้นคือการที่ทำเพลงไม่จบซะที เพราะไม่รู้ว่าควรจะจำกัดขอบเขตมันไว้ที่ไหน ในเมื่อไอเดียใหม่ๆมันไหลเข้ามาเรื่อยๆ หรือคิดอะไรใหม่ได้เรื่อยๆ เลยแก้ไม่จบไม่สิ้นซะที ใครที่เป็นแบบนี้ ไม่ต้องกลัวครับ เพราะผมก็เป็น (อ้าว 555)
ที่จริงแล้วมันไม่เป็นผลดีเท่าไร เวลาที่เราทำเพลงไม่เสร็จซะที เพราะทำให้ไม่ได้มีผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอันมาก พอมองย้อนกลับไปเราจะพบว่า ผลงานที่เสร็จสิ้นเป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นงานประกวด งานลูกค้า หรืองานที่ทำให้คนอื่นซะเยอะมากกว่างานเพลงศิลปินของตัวเอง นั่นเพราะว่างานคนอื่นมันมี Deadline ครับ
เมื่องานของเราเองมันไม่มี Deadline ยึดเอาตามความพอใจเราเป็นหลัก มันไม่มีโจทย์หรืออะไรมายึดเกาะให้เราทำตามนั้น ประกอบกับตัวเราเองที่ Perfectionism เกินไป และอยากให้งานมันออกมาเป็น Masterpiece ผลลัพธ์มันเลยกลายเป็น ไม่เสร็จซะที จากเพลงที่จะได้ปล่อย กลับไม่ได้ปล่อยเป็นปีๆ เป็นหมันไปซะยังงั้น
วันนี้เลยอยากมาแชร์วิธีการแก้ปัญหา หรือ Mindset ที่จะมาทำให้งานเสร็จครับ เอาไว้ย้ำเตือนให้ตัวเองอ่านด้วย ให้และแชร์ให้ทุกคนอ่านกันด้วย
เคยได้ยินไหมครับว่า แรงบันดาลใจที่ดีที่สุดคือ Deadline อย่างที่ได้กล่าวไป ถ้าไม่มี Deadline มันก็ไม่เสร็จหรอกครับ คุณต้องตั้งเงื่อนไขขอบเขตเวลาให้กับตัวเองว่า ต้องทำเพลงให้ได้กี่เพลงภายในเวลาเท่าไร หรือต้องจบเพลงภายในวันไหน อาทิเช่น คุณไปดีลกับนักร้องมาแล้ว มาเจอกันอีกสองสัปดาห์ แสดงว่าคุณเหลือเวลาเท่านั้น ต้องทำให้เสร็จก่อนให้นักร้องเอาไปร้องในห้องอัด แบบนี้ถึงจะมีแววเสร็จครับ เพราะเป็นการรบกวนเวลาคนอื่น ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณคนเดียวจนเลื่อนลอยเกินไป จำไว้เลยครับว่า ถ้าไม่มีการตั้ง Deadline อย่าหวังเลยว่ามันจะเสร็จง่ายๆ
ถ้าคิดอะไรใหม่ออกเรื่อยๆ ไม่ต้องใส่ในเพลงเดียวทั้งหมดหรอกครับ เก็บไอเดียไว้ใช้กับเพลงหน้าดีกว่า หรือคิดท่อนอะไรได้ แต่มันไม่ต้องอยู่ในเพลงนี้หรอก เก็บไว้ก่อน ไว้ประกอบเพลงหน้า เพลงๆนึงควรจะ Simple มีไอเดียที่โดดเด่นไม่กี่ไอเดียพอ ถ้าเราใส่มากเกินไปมันจะกลายเป็นไม่ลงตัวไปซะอีกครับ
การแก้เพื่อให้เพลงเข้าที่เข้าทางขึ้นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ขอให้อย่าแก้เยอะเกินไปจนถึงขนาดรื้อดีกว่า เอาให้มีขอบเขต ถ้ามันไม่ใช่งานที่มีโจทย์คือคนอื่น แต่คือเพื่อตัวคุณเอง อาจจะใช้เรื่อง Deadline เข้ามาช่วย ว่ามีเวลาแค่นี้นะ ให้แก้ได้ถึงแค่นี้ หรือแก้แค่บางส่วนที่เรากำหนดไว้พอ แล้วทำให้โอเคที่สุดใน Deadline หรือขอบเขตที่คุณตั้งไว้ให้ได้ เช่น อาจจะแก้แค่เนื้อ แต่ดนตรีไม่แก้แล้ว
ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่มันจะสมบูรณ์แบบ 100% โดยไม่มีข้อบกพร่องหรอกครับ บางทีเพลงที่เราอาจเห็นว่ามันสมบูรณ์แบบ ตัวผู้สร้างงานเองเค้าอาจจะเป็นคนเดียวที่มองเห็นว่ามันยังไม่สมบูรณ์ มีจุดโน้นจุดนั้นต้องปรับปรุงอีกเยอะ เป็นปกติครับ เพราะการเป็นคนทำ มันไม่เหมือนในฐานะคนฟัง มันรู้ทุกส่วนของเพลงอย่างละเอียดเกินไปจนทำให้มองเห็นแต่จุดผิดพลาดเต็มไปหมด และถ้าคุณมัวแต่ติดความเป็น perfectionism เกินไป จนไม่ได้ทำให้เสร็จซะที มันจะกลายเป็นว่าคุณย่ำอยู่กับที่แทน ผมคิดว่า เอาให้ได้สัก 90-95% ก็พอแล้วครับ ให้จบเพลงได้เลย แล้ว move on ก้าวต่อไป ไปทำเพลงใหม่ มุกใหม่ ไอเดียใหม่ๆ ที่ยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อยๆ อย่ามัวหมกมุ่นอยู่กับ 5% ที่เหลือที่อาจจะกินเวลามากกว่า 95% ที่ผ่านมา หลายเท่าตัว ยิ่งคุณปล่อยวางได้เก่งเท่าไร คุณยิ่งทำผลงานได้เยอะ ได้ไว และยิ่งทำผลงานได้เยอะ คุณจะยิ่งเก่งขึ้นๆ และเพลงใหม่ๆที่คุณทำ จะยิ่งตกผลึก และดีกว่าเพลงแรกๆอย่างแน่นอน
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
Tel. : 0856662425
Website : verycatsound