ไม่นานมานี้มีนักเรียนคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องการเรียนทำเพลง ซึ่งเป็นเคสที่แปลกกว่าคนอื่นๆ เค้าจบเอกด้าน Music Composition จากวิทยาลัยดนตรีชื่อดังมา ผมก็เลยค่อนข้างแปลกใจว่า จะมีอะไรที่ผมจะสอนเค้าได้อีกเหรอ แต่ปรากฏว่าปัญหาของเค้าคือ “ผมทำเพลงได้ แต่อยู่บนกระดาษบรรทัดห้าเส้น แต่ตอนนี้มาทำงาน สิ่งที่เค้าต้องการคือเพลงที่สำเร็จแล้วเป็นไฟล์เสียงหนึ่งไฟล์” ผมเลยแนะนำคอร์สที่เป็นกระบวนการผลิตดนตรีสมัยใหม่ หรือ Modern Music Production ให้เค้าไป
ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับเค้า ทำให้เพิ่งได้รู้ว่า มันมีปัญหานี้อยู่ในประเทศเรา คือยังมีการเรียนดนตรีในมหาวิทยาลัยบางคณะ บางสาขา ที่สอนในรูปแบบอนุรักษ์นิยมอยู่ ซึ่งจริงๆไม่ได้เรื่องที่ผิด หรือไม่ดี เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะนักศึกษาจะได้ความรู้ทางดนตรีแบบลึกๆ เต็มๆ ของจริง ที่ไม่สามารถหาได้ทั่วไป เป็นความรู้ที่หายาก และต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน จริงอยู่ว่ามันทำให้ผู้เรียนรู้ลึกรู้จริงกับดนตรี สามารถประพันธ์และเรียบเรียงดนตรีได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง สวยงามซับซ้อน แต่ข้อเสียคือ ลำพังแค่ความรู้ทางดนตรีอย่างเดียวมันยังไม่พอที่จะอยู่รอดในยุคนี้ แต่มันยังขาดทักษะหรือความรู้อีกหลายส่วน ที่จำเป็นต่อการอยู่รอดในยุคปัจจุบันนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันในโพสต์นี้ครับ
มันก็คือความรู้ทางด้าน Sound Engineer เบื้องต้น เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมทำเพลง การบันทึกเสียง , Edit เสียง , การ Mix , Master ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำเพลงในยุคปัจจุบัน
การทำงานกับตัวโน้ตบนกระดาษ อาจเป็นสิ่งที่ดีต่อการศึกษาดนตรี แต่ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พอทำงานดนตรีในยุคปัจจุบันที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างโปรแกรมทำเพลง หรือ DAWs ต่างๆแล้ว ความจำเป็นในการเขียนโน้ตก็น้อยลงไปทุกที ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าที่จะเรียนรู้วิถีในแบบปัจจุบันอย่างการเขียน Piano Roll การจัดการ Track การใช้ Plug-in หรือ Effect ต่างๆ เพื่อให้งานออกมาเป็นไฟล์เสียงสำเร็จ ไม่ใช่เป็นแค่กระดาษโน้ตที่ไม่สามารถสื่อสารกับลูกค้าหรือคนทั่วไปได้
นี่เป็นปัญหาที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านระหว่างคนทำเพลงยุคที่แล้วกับยุคนี้ คนทำเพลงที่มาจากรุ่นก่อนหลายคนที่อยากปรับตัวมาทำเพลงในยุคปัจจุบันก็ต้องผ่านด่านนี้คือการเรียนรู้ Modern Music Production เช่นกันครับ
สถานการณ์ทางตลาดดนตรีนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งสัมพันธ์กับวิธีการสร้างรายได้ของคนทำเพลง ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้เรื่องกฏหมายลิขสิทธิ์ รวมถึงกฏหมายเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายเบื้องต้นไว้ เพื่อไม่ตกเป็นผู้เสียเปรียบในการจ้างงานต่างๆ เป็นอีกความรู้ที่จำเป็นต่อการอยู่รอด ไปจนถึงการสร้างเม็ดเงินไปจนร่ำรวยเช่นกัน
นอกจากการทำดนตรีแล้ว ที่จริงในชีวิตคนทำเพลง ไม่ว่าจะนักแต่งเพลง Composer , Arranger , Producer ต่างๆ ยังจำเป็นที่จะต้องทำอะไรๆเองอีกหลายอย่างตามแต่โอกาสที่มี อาจจะเพื่อการโปรโมทตัวเอง หรือการทำการตลาดหาลูกค้า อาทิ การถ่ายภาพ การตัดต่อวิดิโอ การแต่งภาพ การทำภาพกราฟฟิค การทำคอนเท้นท์ การใช้ Social Media ฯลฯ พวกนี้คือทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในยุคนี้และยุคอนาคต ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันนั้นก้าวไปไกลมากจนมีเครื่องมือหลายอย่างที่ใช้งานสะดวกจนทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้เรียนสายงานเหล่านั้นมาสามารถใช้งานได้ อาทิ App ทำกราฟฟิค ตัดต่อต่างๆ
มันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องหมุนตามโลกให้ทัน และปรับตัว ด้วยการรู้จักเรียนรู้การใช้งาน Tools ของยุคใหม่เหล่านี้ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบเหนือกว่าคนอื่น และเป็นประโยชน์ต่ออาชีพที่ทำ ไม่ว่าอาชีพอะไร
สิ่งที่ใหม่กว่า Digital Tools ต่างๆที่ว่าไปในข้อ 3 และมาแรงมากๆจนอาจเปลี่ยนโลกได้ นั่นคือ AI คิดว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินกันมาแล้ว ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ที่ช่วยทำงานหลายๆอย่างให้เราได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งมีข้อถกเถียงกันมากมายว่ามันจะมาทำงานหลายๆอย่างแทนมนุษย์ได้จริงหรือ แต่สิ่งที่แน่นอนอย่างหนึ่งก็คือ “งานบางอย่างมันอาจไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่ผู้ที่ใช้ AI เป็นต่างหาก ที่จะได้เปรียบผู้ที่ใช้ไม่เป็น”
คำกล่าวนี้ไม่เกินเลย ที่จริงแล้วในวงการ Music Production ก็มีคนสร้างเครื่องมือในการ Generate สิ่งต่างๆที่เป็นทางลัดในการทำเพลงออกมาสารพัด ไม่ว่าจะเป็น สร้าง MIDI , melody , chord , scale ต่างๆ ซึ่งหากผู้ใช้งานรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆพวกนี้อยู่แล้ว บางทีก็สามารถได้ประโยชน์อย่างมันอย่างเต็มที่ โดยสร้างงานที่ดีและประหยัดเวลาไปได้เยอะ แต่หากผู้ใช้งานไม่มีความเข้าใจในดนตรี ใช้งานแบบงูๆปลาๆ ผลลัพธ์ก็อาจจะไม่ได้ออกมาดีลงตัวแบบนั้น เป็นสิ่งที่ไม่แนะนำเท่าไร ในการใช้งาน AI ก็เช่นกัน คนที่มัก Generate งานด้วย AI ออกมาช่วยงานได้ดี มักเป็นคนที่เข้าใจศาสตร์ของสิ่งนั้นๆดีอยู่แล้ว จนสามารถสั่งงาน AI ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และนำมันมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมี AI ที่ออกมาสารพัดวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการดนตรี การรีบรู้จักและเรียนรู้มันให้ได้ก่อนคนอื่นๆ เพื่อนำมันมาใช้งาน จึงเป็นข้อได้เปรียบ เป็นสิ่งที่ควรตื่นตัวในยุคนี้
ที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะทำงานสายไหน ล้วนขาดความรู้ด้านการตลาดเบื้องต้นไม่ได้แล้วในยุคนี้ ไม่ว่าจะวาดรูป ทำหนัง ทำภาพ ทำเพลง เพราะทุกคนที่ทำงานออกมาล้วนต้องการมีงาน และมีรายได้เข้ามา คุณอาจเป็นคนที่เป็น Composer / Producer ที่เก่งชนิดหาตัวจับยาก แต่ดันไม่เก่งเรื่องการตลาด คิดแต่ว่ารอให้ผลงานมันพิสูจน์ตัวเอง มันก็อาจจะได้ เพียงแต่มันช้าครับ พอไม่ดัง ลูกค้าไม่เข้า ไม่เป็นที่รู้จัก พอทำแล้วไม่สามารถหารายได้มากพอที่จะอยู่รอดได้ อาจต้องเปลี่ยนเส้นทางไปทำอย่างอื่นอย่างน่าเสียดาย
ในทางกลับกัน คุณคงไม่อยากให้ คนที่ไม่ได้รู้เรื่องตัวโน้ตหรือคอร์ดสักตัว แต่โปรโมทตัวเองเก่ง ได้งานดีๆ ราคาสูงๆไป แล้วพอมาฟังงานที่เค้าทำแล้วปวดใจว่า แบบนี้เราทำได้ดีกว่าหลายเท่า แต่ทำไมไม่จ้างเรา ใช่ไหมล่ะครับ
เรียนรู้การตลาดตั้งแต่วันนี้เถอะครับ เพื่อตัวคุณเอง โดยเฉพาะการตลาดดนตรี เพื่อการโปรโมทผลงานตัวเอง การสร้างฐานแฟน และการสร้างรายได้จากการทำดนตรี
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
Music Marketing จึงเป็นอีกวิชาที่หลายๆคนให้ความสนใจ และเป็นความรู้ที่สำคัญมาก เพื่อสร้างการเติบโตในสายอาชีพ และเพิ่มรายได้อย่างมั่นคงในอุตสาหกรรมดนตรี
ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากจะมีเส้นทางที่มั่นคงกับสิ่งที่ตัวเองรัก วิชานี้จึงเหมาะสมอย่างมากกับคนที่ชอบสายดนตรี และอยากเรียนรู้ที่จะต่อยอดให้กลายเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ อย่างรอช้าเพราะวิชานี้เกิดมาเพื่อสำหรับสายดนตรีทุกคน หากใครสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน link นี้ หรือติดต่อแอดมินทางไลน์ได้เลยครับ
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Music Marketing ได้ที่นี่เลยครับ
—————————
VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
โทร. 0856662425