ผมเห็นปัญหาอย่างหนึ่งของคนที่เรียนการทำเพลง ทำดนตรี จากการบ้านที่นักเรียนในคลาส The Real Producer ส่งมา คือเวลาทำดนตรีแล้ว ใส่เครื่องดนตรี “เยอะ” เกินไป แล้วเกิดอาการ “ตีกัน”
ที่จริงแล้วการใส่เครื่องดนตรีเยอะชิ้นสามารถทำได้ครับ เพียงแต่ว่ามันจะยากกว่าการทำเครื่องดนตรีน้อยชิ้น ตรงที่ต้องคอยระวังควบคุมดีๆไม่ให้มันเกิดอาการตีกัน เพราะยิ่งเครื่องเยอะก็จะยิ่งยากขึ้น เพราะมี element หรือองค์ประกอบที่ต้องคอยควบคุมใส่ใจมากขึ้นตาม ทำยังไงไม่ให้รก ไม่ให้ตีกัน ไม่ให้แย่งหน้าที่กัน ฯลฯ
ก่อนอื่นเลย การที่จะทำเพลงเครื่องดนตรีเยอะชิ้นได้นั้น ผมขอให้เริ่มจากการทำจากเครื่องน้อยๆให้ได้ก่อน พอทำแบบเครื่องน้อยได้จนลงตัวทั้งเพลงแล้ว เพลงต่อๆไปค่อยๆเพิ่มขนาดของวงดนตรีให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆทีละนิด ฉะนั้นวันนี้จึงมาแนะนำลำดับการเรียนรู้การทำดนตรีจากวงเล็กไปจนถึงใหญ่กันนะครับ
ต่อไปนี้จะเป็น Step ของการเรียนรู้ ว่าควรเริ่มจากวงแบบไหนบ้างนะครับ
เริ่มต้นสุดเลย คุณควรทำเพลงที่มีแค่สองอย่างนี้ให้ได้ก่อน นั่นคือ
แค่นี้พอเลยครับ ซึ่งสองไลน์แค่นี้นั่นแหละคือ Core หลักของเพลง เป็นเสมือนโครงสร้างที่เราต้องออกแบบมาให้แข็งแรงซะก่อน ก่อนจะไปทำอย่างอื่น พูดง่ายๆก็เหมือนแค่เราใช้กีตาร์ตีคอร์ด แล้วร้องเมโลดี้+เนื้อร้องออกมา หรือใช้เปียโนตัวเดียว เป็นคอร์ดกับเมโลดี้ แค่นี้ให้ได้เพลงที่มีเค้าโครงที่ฟังดูดีซะก่อน ที่จริงแล้วมันก็คือขั้นตอนเดียวกับสิ่งที่เรียกว่า Song Writing หรือ Composing นั่นแหละครับ คือเป็นแค่ Lead Sheet ที่มีเขียนเฉพาะเมโลดี้กับคอร์ด เชื่อว่าหลายๆคนอาจทำสิ่งนี้ได้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครยังทำไม่ได้ ขอให้เริ่มจากทำเพลงรูปแบบแค่นี้ให้ได้ซะก่อนนะครับ ก่อนไปจะสเตปต่อไป
พอเราทำแค่สองไลน์แบบแรกเป็นแล้ว ทีนี้ลองเขยิบมาเรียบเรียงเป็นวงดนตรีเล็กๆ โดยเพิ่มไลน์เป็น 3-4 ไลน์ ได้แก่
สเตปนี้จะมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมา คือการออกแบบ ไลน์เบส และเครื่องให้จังหวะอย่างกลอง แล้วอาจจะต้องออกแบบการเล่นของเครื่องคอร์ดด้วย ว่าจะเล่นลีลาแบบไหน เช่นเกลาคอร์ด เป็น broken chord ในบางจุดบ้าง อะไรแบบนี้ กับมีไลน์กลองให้ลองฝึกหัดทำดู
สเตปนี้จะเริ่มมีความยากเพิ่มขึ้น เพราะจะต้องเริ่มคิดให้เครื่องดนตรีหลายชิ้นมีความสอดคล้อง สอดประสานกัน และจะเริ่มมีไลน์ที่เป็นรายละเอียดของเพลงที่น่าสนใจมากขึ้น โดย ไลน์ ที่ควรมี 6-7 ไลน์ จะทำหน้าที่แบบนี้
การทำเพลงที่มีรูปแบบวงประมาณนี้ ถ้ามือใหม่ที่ยังไม่คล่อง อาจจะเจอปัญหาบ่อยๆคือการคิดไลน์เครื่องดนตรีต่างๆ เพราะเมื่อรายละเอียดมันเริ่มมากขึ้นมันจะเริ่มงง เราเริ่มจะต้องลงลึกในแต่ละเครื่อง และรู้จัก “ท่า” หรือลีลาต่างๆที่แต่ละเครื่องทำได้ โดยจุดนี้จะขึ้นอยู่กับความชำนาญหรือความรู้ทางดนตรีของแต่ละคน ซึ่งอาจจะมาจากประสบการณ์ทางดนตรีที่เล่นดนตรีมานานจนคุ้นชิ้น แต่ส่วนนี้ถ้าใครที่ยังทำไม่ได้อาจจะต้องเรียนเรื่องการเรียบเรียงดนตรีโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นทางตรงที่สุด (มีอยู่ในวิชา VCA201-202 Music Designer ของหลักสูตร The Real Producer)
สเตปนี้จะเริ่มยากขึ้นอีกในเชิงการกระจายหน้าที่ให้แต่ละเครื่อง เพราะจะเห็นได้ว่าที่จริงแล้วหน้าที่ในวงมันครบหมดแล้ว การเพิ่มเครื่องดนตรีเข้ามาเป็นสีสันเพิ่มอีกจริงๆก็ยังทำได้ แต่อาจจะต้องมีการจัดการที่ละเอียดขึ้นเป็นพิเศษ โดยคราวนี้จะไม่ได้ตายตัวว่าเครื่องไหนทำหน้าที่อะไร เพราะที่จริงสามารถสลับจัดกลุ่มได้อิสระขึ้น แต่จะแบ่งไลน์เป็นหน้าที่ต่างๆออกเป็นคร่าวๆ 8 หมวดดังนี้
อย่างที่บอกว่า ถ้าเครื่องดนตรีเยอะถึงจุดนึง มันมักจะไม่ค่อยตายตัวแล้วว่าชิ้นไหนจะทำหน้าที่อะไร อิสระมากขึ้น แต่ก็ตามมาด้วยความรู้ความชำนาญในการจัดการตัวโน้ตที่ต้องมากขึ้นตาม และมีหลายอย่างที่ถ้าไม่ได้เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของตัวโน้ตโดยละเอียด จะทำให้เกิดอาการงง และธาตุไฟเข้าแทรก จนเพลงออกมาตีกัน ไม่ลงตัวได้
โดยมากแล้ว ถ้าเป็นวงดนตรีสด วงใหญ่สุดๆน่าจะไม่เกิน 15-20 ชิ้น แต่ถ้าเป็นดนตรี Electronic บางทีการจะมีไลน์มากถึง 50 – 100 ไลน์ ไม่ใช่เรื่องแปลก (SFX เยอะ และหลายๆไลน์นั้นซ่อนไว้ ไม่ได้ยินโดดเด่น หรือมาเพียงนิดเดียวแล้วไป) หรือกรณีในแนวดนตรีแบบ Full Band Orchestra การใช้เครื่องดนตรีคนเล่นตั้งแต่ 100-300 เครื่อง/คน นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่แน่นอนว่าเป็นความอลังการที่จัดการยากแน่นอน
ด้วยความยุ่งยากในการจัดการวงดนตรีที่ใหญ่แบบ Full Band แบบนี้ โดยเฉพาะในส่วนของ Section Chord ที่อาจต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง ฉะนั้นผู้เรียบเรียงควรมีความรู้ทางดนตรีมากพอสมควร หรือสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการเรียนการเรียบเรียงดนตรีขั้นสูง หรือการเรียนสิ่งที่เรียกว่า Orchestration – การเรียบเรียงเครื่องดนตรีออร์เคสตรา (ตรงกับวิชา VCA303 ของทางหลักสูตร The Real Producer)
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า ยิ่งเครื่องดนตรีมากชิ้น ยิ่งต้องการความรู้ ความชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปกติคนที่ทำออกมาได้ดี มักจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ทางดนตรีคลุกคลีอยู่ยาวนาน เช่นอาจเล่นวงดนตรีหลากหลายเครื่องมาถึงสิบปี แต่กระนั้นการใช้เวลาไม่นานแต่สามารถทำได้ก็ยังมีทางอยู่เช่นกัน โดยทางตรงที่สุดคือการเรียนรู้ศาสตร์ของการเรียบเรียงดนตรีโดยเฉพาะ
โดยผู้สนใจสามารถศึกษาได้วิชาจำพวก Music Arranging แบบต่างๆ ซึ่งตรงกับวิชา VCA201 Basic Music Designer , VCA202 Adv. Music Designer , VCA303 Orchestration และ VCA402 Root Music Study ได้ในหลักสูตร The Real Producer หากสนใจติดต่อ Admin ที่ไลน์ @verycatacademy ได้ครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
ขออภัยด้วย ถ้าหากมีศัพท์เฉพาะที่ไม่เข้าใจ สามารถเรียนรู้ได้เพิ่มเติมจากคอร์สหรือ Content อื่นๆของทาง VERYCAT นะครับ
https://verycatsound.com/academy/level2/vca201-basic-music-designer/
https://verycatsound.com/academy/level2/vca202-advance-music-designer/
https://verycatsound.com/academy/level3/vca303-basic-orchestration/
https://verycatsound.com/academy/level4/vca402-music-genre-analysis/
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound
Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound