เคยเป็นกันไหมครับ เวลาฟังเพลงอะไรแล้วรู้สึกขนลุก เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์นี้
ผมไม่ขอพูดในเชิงวิทยาศาสตร์นะครับ เนื่องจากตัวผมเองเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่จะมายืนยันอะไรได้ แต่เกี่ยวกับกรณีนี้ มีอาจารย์ท่านผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ในวงการยาวนานหลายสิบปีเคยพูดไว้
ท่านบอกว่า เมื่อไรที่เราฟังเพลงอะไรแล้วรู้สึกขนลุก (ถ้ามันไม่เกี่ยวกับแอร์หนาวไป หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายตอนนั้น เช่นปวดท้องอุจจาระ) มันมักจะเข้าข่ายสองข้อต่อไปนี้
ครับ… ต่อจากนั้นนักเรียนทั้งห้องก็ฮากัน แต่ทำเป็นเล่นไป มันคือเรื่องจริงนะครับ และท่านยังบอกอีกว่า และเพลงไหนที่เราขนลุก ต่อให้จะเป็นเพราะเหตุใดก็ตาม ให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่า เพลงๆนั้นแนวโน้ม “มีโอกาสที่จะดัง”
จากนั้น ผมลองมาตั้งข้อสังเกตเพลงที่ฟังแล้วขนลุกหลายๆเพลงก็รู้สึกว่าจริงครับ ในนั้นมันจะมีทั้งเพลงที่ชอบและไม่ชอบ (ปกตินะครับ คนเรามีรสนิยมหลากหลาย ชอบอะไรไม่เหมือนกัน) แต่เพลงที่ฟังแล้วขนลุกแทบเกือบทั้งหมดเป็นเพลงดัง
ผมจึงคิดว่าทฤษฎีนี้ค่อนข้างเชื่อถือได้อยู่
ทีนี้มันสำคัญยังไง ให้เราลองมาย้อนกลับมาดู demo เพลงต่างๆที่เราทำเอาไว้แล้วลองให้คนอื่นฟังดูครับ ลองเปิดใจฟัง Comment จากผู้ฟังคนอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวเราดู และถ้าเราพบว่าเพลงๆไหนที่มีคนขนลุก หรือบอกว่า “โดนว่ะ” หรือ “เสี่ยวว่ะ” แบบนี้อยู่บ่อยๆ แปลว่าเพลงนั้นแหละครับอาจจะคือซิงเกิลที่ทำให้คุณดังไม่รู้เรื่องก็ได้
ผมเข้าใจนะครับเรื่องของศิลปินคนทำเพลงที่อยากจะสร้างงานที่ตัวเองภูมิใจ หลายๆคนน่าจะรู้สึกลบกับคำว่า “เสี่ยว” ที่เป็น Comment จากผู้ฟัง แต่ผมอยากจะบอกความลับอย่างหนึ่งของศิลปินหลายๆท่านให้ครับ (อย่างน้อยๆก็บางคนที่ผมรู้จัก) คือเพลงที่ทำให้พวกเขาดัง มักเป็นเพลงที่พวกเขา “ไม่ชอบ” ครับ
ยกตัวอย่าง Smell Like Teen Spirits ของ Nirvana ก็เป็นเพลงที่เคิร์ทไม่อยากจะเล่นเลย แต่ดันเป็นเพลงดังที่โดนบังคับเล่นทุก Live เพื่อเอาใจแฟนๆนี่สิ (ที่ภายหลังเจ้าตัวเอือมถึงขนาดกวนตีนด้วยการอมไมค์ร้องเพลงนี้ ถ้าใครเคยได้ยินนะ) มันไม่ใช่แค่พี่เคิร์ทคนเดียว เพราะจากประสบการณ์บอกเล่าทั้งทางตรงและทางอ้อมจากศิลปินด้วยกัน มักจะเจอสถานการณ์เดียวกันแบบนี้กันหมด
ทีนี้มันก็อยู่ที่คุณล่ะครับว่า อยากจะบาลานซ์ยังไงระหว่าง เพลงที่ทำออกมาให้ตัวเองชอบ กับเพลงที่ทำออกมาให้แฟนๆชอบ หรือเพื่อให้เกิดความดังให้มีชื่อเสียง ซึ่งผมเข้าใจทั้งสองฝั่งนะ ฝั่งนึงก็เข้าใจหัวอกศิลปินด้วยกัน อีกฝั่งนึงก็เข้าใจว่าคนเรามันต้องกินต้องใช้ บางเรื่องก็ต้องยอม
แต่อย่างที่บอก สาระสำคัญจริงๆของเรื่องนี้คือ อย่ามองข้ามเพลงที่เราฟังแล้วขนลุก หรือแม้กระทั่งรู้สึกเสี่ยวครับ ลองใจกล้าๆหน่อย หยิบเดโมนั้นมาทำซิงเกิลปล่อยดู มันอาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดก็ได้ VERY CAT ACADEMY สถาบันพัฒนาอาชีพโปรดิวเซอร์เอาใจช่วยนะครับ
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound