หลายๆคนที่อยู่ในวงการดนตรีจะคุ้นหูกับชื่อนี้เป็นอย่างดี Korg บริษัทที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ที่ก่อตั้งมา
ยาวนานกว่า 50 ปี เรียกได้เลยครับว่า Korg นั่นเปรียบเสมือนคนคอยผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ให้อุสาหกรรมดนตรีพัฒนาอยู่เสมอ แต่ยังคงความคลาสสิกไว้ด้วย
ปรัชญาของ Korg นั้นคือ “คงความดั้งเดิมไว้ แต่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เข้าถึงความต้องการของนักดนตรีให้มากที่สุด” ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดใน Synth ของเขาที่มีหลายรุ่นเป็นที่นิยม และมีความคลาสสิคในแบบฉบับของ Korg
Korg มีที่มายังไงเรามาดูประวัติแบบคร่าวๆกันครับ
คาโต้ สึโทมุ ผู้ก่อนตั้งบริษัท Korg (Keio Electronic Laboratories) ได้ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ 1926 ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญึ่ปุ่น หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลายในปีค.ศ 1943 เขาก็ได้เข้าร่วมกับกองทัพเรือญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รบในฐานะนักดำน้ำ ร่วมกันขับเรือดำน้ำไปรบ คาโต้ได้แต่ตั้งคำถามกับชีวิตว่าเขาอยู่เพื่ออะไรมาตลอดหลังเข้าร่วมกองทัพ งานเต็มไปด้วยความเครียด และความกดดัน ก่อนที่หลังจากนั้น เขาจะได้เห็นลูกระเบิดนิวเคลียร์จากระยะไกล ระเบิดบนเกาะฮิโรชิม่ากับตาของเขา นั่นจึงทำให้คาโต้ ปลดจากการเป็นทหารและได้เปลี่ยนความคิดของเขา
ปีต่อมาหลังจากจุดจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 คาโต้ ก็อายุได้ 20 ปี เขาได้ย้ายไปที่เมืองโตเกียว
และทำงานที่บริษัทรถไฟญี่ปุ่น ก่อนที่ต่อมาอายุได้ 40 ปีเขาก็ได้สร้างไนท์คลับ ของตัวเองขึ้นมาในต้นปีค.ศ 1960 และได้รู้จักกับ โอซาไน ทาดาชิ เด็กหนุ่มที่จบวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาลัยโตเกียว ซึ่งพวกเขาก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่จะนำเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาติดไว้ที่ไนท์คลับของคาโต้
ซึ่งคาโต้ก็เห็นด้วยและได้ร่วมมือกับโอซาไน โดยคาโต้นั้นจะสนับสนุนด้านการเงินให้โอซาไน และมีลูกทีมอีก 4 คน ในการสร้างขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สร้างเครื่องเล่นดนตรีเองชินแรกของโลกที่ชื่อ Donca Matic DA-20 ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆมันก็มีความคล้ายกับ Midi คีย์บอร์ดที่เราเล่นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยชื่อ Donca มาจากเสียงที่เล่นและคาโต้ก็ได้หยิบมาตั้งชื่อ
โดยมันสามารถกดปุ่มเล่นกลองได้ และเล่นคีย์บอร์ดได้ ณ ตอนนี้เป็นอะไรที่ว้าวมาก จนหลังจากนั้นคาโต้ก็ได้ก่อนตั้งบริษัทขึ้นมาในชื่อ Keio Electronic Laboratories ในปีค.ศ 1963 และได้นำเจ้าเครื่องดนตรีนี้มาวางขายเป็นชิ้นแรกของบริษัท สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการดนตรีในญึ่ปุ่นอย่างมาก
หลังจากความสำเร็จของ Donca Matic DA-20 และมีอีกหลายๆรุ่นที่ได้ผลิตต่อมา
ในปีค.ศ 1967 ก็ได้เริ่มอยากที่จะต่อยอดอุสาหกรรมดนตรี และได้ชักจูง มิเอดะ ฟูมิโอะ
ชายที่ใฝ่ฝันอยากสร้างเครื่องดนตรีไฟฟ้าของตัวเอง พวกเขาร่วมมือกัน และได้สร้างออร์แกนไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งมันก็คือ Synthesizer ตัวแรกของประเทศญึ่ปุ่น โดยคาโต้ก็คิดชื่อใหม่ที่จะตั้งให้กับ Synth ตัวนี้ได้ โดยนำตัวอักษรตัวแรกของชื่อของเขา Katoh (K) และชื่อของโอซาไน (O)
โดยตัว O นั้นออกเสียงว่า Orgue ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลในภาษาอังกฤษว่า Organ รวมเป็น KORGUE
และได้วางจำหน่ายสู่ท้องตลาด และขายดีเทน้ำเทท่าย สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการดนตรีญี่ปุ่นอีกครั้งและได้มีหลายๆวงนำมาใช้สร้างบทเพลงของพวกเขากัน
หลังจากนั้นปีค.ศ 1973 คาโต้ สึโทมุ ก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น KORG inc. โดยการตัด UE ของ ชื่อคีย์บอร์ด KORGUE ของเขา และคิดจะเจาะตลาด Synth หลังจากเห็นความสำเร็จของ Moog และได้สร้าง Korg miniKORG ขึ้นมา สร้างตำนานให้กับวงการ Synthesizer ขึ้นแท่นเป็น Synthesizer ที่ขายดีที่สุดตลอดการ ทั้งคุณภาพที่เจ๋ง มี vocoder หลายหลากมากมายที่สามารถสร้างเสียงใหม่ๆที่มีเอกลักษณ์ได้
ในปีค.ศ 1975 Korg ก็ได้สร้างที่จูนเสียงกีต้าห์ที่สามารถพกพาได้ตัวแรกของโลกในชื่อ WT-10
ซึ่ง ณ ตอนนั้นใครที่เล่นกีต้าห์ก็ต้องพกเจ้าตัวนี้ไว้ในการจูนสาย
คาโต้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากจากทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ จนทำให้คาโต้ต้องการจะทำเครื่องดนตรีที่เข้าถึงทุกคน
และ Korg ก็ได้สร้างในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยในยุคนั้นไม่มีใครสามารถที่จะนำ Synth และตัวเสียงเปียโน หรือเสียงอื่นๆมารวมกันได้ นั่นจึงทำให้คาโต้เกิดไอเดียที่จะนำเสียงทั้ง 2 นี้มารวมกัน
จนในปีค.ศ 1988 คีย์บอร์ดที่ชื่อ Korg M1 Workstation ได้ถือกำเนิดขึ้น
M1 ได้สร้างตำนานขึ้น เป็น Synthesizer ตัวเทพที่เขย่าวงการดนตรีให้ลุกไปไฟ
ขึ้นแท่นเป็น Synthesizer ที่ขายดีที่สุดตลอดการ ทุกวันนี้ M1 ก็ยังมีให้ใช้งานจนถึงปัจจุบัน ด้วยคุณภาพที่สุดยอด เข้าถึงง่าย มีฟีเจอร์ที่ครบทุกอย่าง สามารถนำไปเล่นที่ไหนก็ได้ และสามารถนำ sample มาใส่ได้ Loop ได้ มีเสียง synth ที่หลากหลายมาก เรียกได้ว่ามันผลักดันดนตรีไปอีกขั้น
คาโต้ สึโทมุ เสียชีวิตอย่างสงบในปี ค.ศ 2011 ด้วยอายุ 85 ปี
ในบทสัมภาษณ์ของคาโต้นั้น เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่คิดว่าบริษัทของผมควรจะยึดมั่นในความคิดปรัชญาไปตลอด ปรัชญาคือความคิดที่ไม่เปลี่ยนแปลง และหากคุณพยายามยังคงความดั้งเดิมไว้แต่ไม่เปลี่ยนแปลง คุณจะกลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ในขณะที่โลกรอบตัวคุณเปลี่ยนไป เราต้องมีความว่องไวและยืดหยุ่นที่จะปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป”
ซึ่งก็จริง คาโต้ สึโทมุ ได้พยายามเปลี่ยนแปลงและผลักดันวงการดนตรี คอยสนับสนุนและคอยช่วยเหลือเหล่าศิลปินด้วยกันอยู่เสมอมาตลอดหลายปี หลายๆคนจึงรักใน Korg ที่คอยอยู่เคียงข้างและสร้างเครื่องดนตรีที่มีคุณภาพมากมายนับไม่ถ้วนผลักดันให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่ามีไอเดียในการสร้างบทเพลงใหม่ๆอยู่เสมอ
ก่อนจากกันไปปกติผมจะแนะนำเครื่องดนตรีของแต่ละตัวที่ทำประวัติให้ แต่ Korg นั้นผลิตเครื่องดนตรี, gadget, และอุปกรณ์เสริม ออกมามากมายมหาศาลที่ดีมาก จนผมไม่สามารถแนะนำได้หมด งั้นผมจะขอพูดถึง Korg 5 ตัวที่ผมชอบละกัน
1. Korg M1 หนึ่งใน Synthesizer ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล คุณภาพขั้นเทพ ครบทุกวงจร จนปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นใช้งานกันอยู่!
2. MicroKrog สุดยอด Synthesizer หนึ่งใน Synthesizer ที่ดีที่สุดในโลก ที่ดีไซน์เท่! ใช้งานง่าย แต่จะให้เก่งก็ยากนะ และหลายๆคนต้องมีไว้!
3. Korg Wavestation ร่วมจับมือกับ Roland ยกระดับคุณภาพของ M1 ไปอีกขั้น ด้วยคุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติ สามารถสร้างเสียงต่างๆระดับ Advanced ได้เยอะขึ้น!
4.Korg KRONOS สรรพคุณครอบจักรวาล มีทุกอย่างที่คุณต้องการ สร้างเพลงดีๆได้เพียงแค่ตัวเดียว!
5.Korg MS-20 kit จิ๋วแต่แจ๋ว มี Mod ครบทุกวงจร สามารถสร้างเสียงต่างๆในเครื่องได้เลย!
[ บทความจากเว็บไซต์ https://verycatsound.com/blog-korg ]
VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
อ่านบทความเก่าๆได้ในเว็บ
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy