เบื้องหลังการทำเพลงองค์กรแบบมืออาชีพให้บริษัทชั้นนำ

ถ้าเราพูดถึง “เพลงองค์กร” หลายคนอาจนึกถึงเพลงที่เปิดตอนเช้า หรือเพลงที่พนักงานร้องในวันประชุมใหญ่

แต่จริง ๆ แล้ว เพลงองค์กรที่ดีสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นมากครับ

พวกเราเคยมีโอกาสทำเพลงให้กับทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ไปจนถึงบริษัทระดับประเทศ

และสิ่งที่ค้นพบคือ…

เพลงองค์กรไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเครื่องมือวัฒนธรรมองค์กร ที่ทรงพลังมากกว่าที่หลายคนคิด

วันนี้เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่า เบื้องหลังของการทำเพลงองค์กรแบบมืออาชีพ เขาทำอะไรกันบ้าง?

และทำไมแบรนด์ใหญ่ ๆ ถึงลงทุนกับ “เสียง” ที่ฟังแล้วอาจยาวไม่เกิน 3 นาทีนี้อย่างจริงจัง

1. เริ่มต้นจาก “ใจกลางขององค์กร”

การทำเพลงองค์กรไม่ได้เริ่มจากดนตรีครับ

แต่มันเริ่มจากคำถามที่ว่า…

“หัวใจขององค์กรเราคืออะไร?”

เรามักใช้เวลาสัมภาษณ์ทีมผู้บริหาร หัวหน้าทีม และพนักงานในระดับต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจแก่นของวัฒนธรรมองค์กรนั้นจริง ๆ

บางที่เน้นความอบอุ่น บางที่เน้นความกล้าลุย บางที่คือการรวมพลังคนหลาย Generation

สิ่งนี้จะเป็น “แกนกลาง” ของเพลงที่เราจะเขียนในขั้นต่อไป

2. วางภาพรวมก่อนแต่ง

ก่อนจะเขียนทำนองหรือเนื้อร้อง เราจะกำหนดโทนอารมณ์ (Tone) และฟังก์ชันของเพลงให้ชัดเจนก่อน เช่น:

เพลงนี้จะเปิดในวันประชุมใหญ่ หรือใช้ทุกวัน?

ต้องร้องได้ทั้งบริษัท หรือแค่ใช้ในคลิป?

อยากให้รู้สึกฮึกเหิม ซาบซึ้ง หรือเป็นกันเอง?

ยกตัวอย่าง

บริษัทหนึ่งในสายพลังงานต้องการเพลงสำหรับเปิดทุกเช้า

เราวางภาพให้เพลงนี้มีจังหวะเดินหน้า มีกลองตีเป็นจังหวะเหมือนการเริ่มต้นวันใหม่ และเนื้อร้องเน้นความสามัคคีเป็นทีม

3. เขียนเนื้อเพลงจาก “ภาษาของคนในองค์กร”

แทนที่จะใช้คำหรู ๆ ที่ดูสวยแต่ห่างไกลจากชีวิตจริง

เราพยายามเลือกคำที่ “คนในพูดกันจริง ๆ” เช่น คำประจำแผนก คำขวัญทีม หรือแม้แต่คำล้อกันในวงใน (ถ้าเหมาะสม)

เพราะอะไรที่มาจากตัวตนจริง ๆ มันจะ “ติดหูและติดใจ” ได้ง่ายกว่า

เพลงองค์กรที่ดี ควรร้องแล้วรู้สึกว่า “นี่แหละ เรา”

4. ทำนองที่ “ร้องได้” จริง

นี่เป็นจุดสำคัญมากที่หลายเพลงองค์กรพลาด

เพราะเพลงดีแค่ไหน แต่ถ้าร้องตามไม่ได้ ก็ไม่เกิดพลังร่วม

พวกเราจะเลือกทำนองที่ไม่ซับซ้อนมาก จับคู่กับโครงสร้างแบบง่าย ๆ เช่น

Verse → Hook → Verse → Hook

และให้ท่อนฮุกมี “คำสำคัญขององค์กร” อยู่ในนั้นเสมอ

ยกตัวอย่าง:

องค์กรที่มีคำว่า “ก้าวไปด้วยกัน” เป็นจุดยืน เราจะวางคำนี้ไว้กลางฮุก เพื่อให้ทุกคนร้องซ้ำและจำได้ทุกครั้งที่เพลงเล่น

5. โปรดักชันต้องฟังแล้ว “ภูมิใจ”

ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำดนตรีและอัดเสียง

โดยพวกเราจะเลือกใช้เสียงเครื่องดนตรีให้เหมาะกับภาพลักษณ์องค์กร เช่น:

สายเทคโนโลยี → ใช้ Synth, Pad ที่ดูทันสมัย

สายพลังงาน → ใช้เครื่องสายหนักแน่น มีจังหวะเดินหน้า

สายสุขภาพ → ใช้เปียโน อะคูสติก และเสียงใส ๆ

ที่สำคัญ เสียงร้องต้องฟังแล้ว “รู้สึกเป็นตัวแทนของพวกเรา” ไม่ใช่ร้องโดยนักร้องที่ดูห่างไกลชีวิตพนักงาน

บางองค์กรเราเลือกใช้พนักงานจริงมาร้องร่วมกับนักร้องนำด้วย เพื่อให้รู้สึกมีส่วนร่วมและภูมิใจทุกครั้งที่ได้ยิน

เพลงองค์กรที่ดี ไม่ได้แค่ “ไพเราะ” แต่ต้อง “เป็นพวกเรา”

พวกเราเชื่อว่า เพลงองค์กรที่ดีจะกลายเป็นมากกว่าเพลง

มันจะกลายเป็น วัฒนธรรมที่สัมผัสได้ และทำหน้าที่เป็น “เสียงของเรา” ในวันที่คำพูดอาจไม่พอ

ฟังแล้วภูมิใจ ร้องแล้วรู้สึกว่า “ฉันเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่”

และเมื่อได้ยินที่ไหน ก็รู้ทันทีว่า “นี่แหละ คือบ้านของเรา”

ถ้าคุณกำลังคิดอยากมี “เพลงประจำองค์กร” สักเพลง

ขอให้เริ่มจากคำถามง่าย ๆ:

เราอยากให้คนในรู้สึกยังไงกับที่นี่?

แล้วเพลงแบบไหน… จะพาเขาไปถึงจุดนั้น?

เสียงเพียงไม่กี่นาที อาจกลายเป็นพลังที่สร้างทีม สร้างวัฒนธรรม และสร้างความหมายให้คำว่า “องค์กร” ได้มากกว่าที่คิดครับ

———————

The Real Producer

REAL / DEEP / EXCLUSIVE

.

 VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

.

สร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพระดับสากล

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ 

Line ID : @verycatsound

Tel : 0839192945

——————

#logicpro #apple #musicproduction #jingle #musicforbusiness