แชร์ประสบการณ์ ทำยังไงกว่าจะมาเป็นอาชีพ producer
หลายคนอาจสงสัย อยากเป็น producer ต้องทำยังไง? เรียนอะไรบ้าง? ผ่านอะไรมาก่อนบ้าง? producer แต่ละคนก็มีเส้นทางที่ไม่เหมือนกัน แต่วันนี้ผมเองในฐานะ producer คนหนึ่ง จะมาเล่ามุมมองของตัวเองว่า ทำยังไงกว่าจะมาเป็นอาขีพ producer ได้ และแชร์ประสบการณ์ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากเป็น producer ครับ
ผมเองก็เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้สนับสนุกดนตรีขนาดนั้น แต่รู้ตัวว่าชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งก็น่าจะเหมือนกับใครหลายคน พื้นฐานคือชอบดนตรีก็จริง แต่ถ้าตอนเด็กเลยก็คือชอบการร้องเพลงเป็นหลัก แทบทุกเพลงเชื่อว่าน่าจะร้องได้หมด
พอโตขึ้นช่วงมัธยม เสียงเริ่มแตกหนุ่มก็เริ่มไม่ค่อยอยากร้องเพลงแล้ว เพราะเสียงสูงที่เคยร้องได้ก็ร้องไม่ถึงแล้ว แต่ว่าชีวิตก็ยังวนเวียนกับดนตรี ที่เห็นเพื่อน ๆ เล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ เล่นกีตาร์ เบส กลองได้แล้วรู้สึกว่ามันเท่ รวมถึงยังได้ฟังเพลงอินดี้ เพลงต่างประเทศจากพี่สาวอีก ทำให้ชอบดนตรี
แต่การที่มาเริ่มฝึกดนตรีตอนนี้แล้วหวังจะให้เก่งทันเพื่อน ๆ ก็เป็นเรื่องยาก ตอนนั้นเริ่มหมดกำลังใจในการเล่นดนตรี แต่อีกทางก็คือเริ่มหลงไหลในฝั่งของการแต่งเพลง และคิดว่าเราอาจไม่ต้องเล่นเก่งแบบนั้นก็ได้ และพยายามหาเรียนอื่น ๆ ซึ่งพอคิดว่าไม่ต้องเก่ง เราก็เรียนมั่วซั่วไปหมด ฝึกเปียโน ฝึกกีตาร์เองแบบที่ไม่ได้เรียนในระบบ
ตอนนั้นเคยได้เข้าโครงการเกี่ยวกับการแต่งเพลงของค่าย bakery เราก็ได้ฝึกฝนการแต่งเพลงจากศิลปินดัง ๆ ในค่าย แต่ว่าด้านหนึ่งคือก็ได้สกิลการแต่งเพลงมาก็จริง แต่อีกด้านก็คือเราก็แต่งเพลงได้จำกัดแค่ในสกิลการเล่นดนตรีตอนนั้น เราเล่นได้แค่กีตาร์ ก็แต่งเพลงได้จากการตีคอร์ดสับ ๆ ไปเรื่อย แต่จริง ๆ เราฟังเพลงต่างประเทศมา โดยเฉพาะเพลงญี่ปุ่น ซึ่งก็รู้ว่าเพลงมันไม่ใช่แบบที่แต่งเลย มีเครื่องดนตรี มีเสียงอะไรมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
จากนั้นก็พยายามหาเรียนหลาย ๆ ที่อีก คอร์สย่อย ๆ ที่ไหนมีเปิดก็ไปหมด โดยที่ไม่รู้ว่าคอร์สนั้นมันสอนให้เราทำดนตรีแบบที่เราอยากทำได้ไหม ซึ่งไม่มีที่ไหนสอนได้เลย ครั้งหนึ่งเคยเรียน DJ เพราะคิดว่ามันเป็นพวกเสียงอิเล็กทรอนิกส์เหมือนกัน แต่จริง ๆ มันเป็นการมิกซ์ การเอาเสียงลูปมาใส่วน ๆ ไป ซึ่งมันไม่ใช่แบบที่ต้องการ
ตอนเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลือกเข้านิเทศศาสตร์ เพราะที่บ้านก็ไม่ได้สนับสนุนทางดนตรี เลยคิดว่าเดี๋ยวหาเรียนดนตรีเอาจากข้างนอกเหมือนเดิม ซึ่งไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง ขนาดที่ตอนนั้นก็มีโอกาสได้ทำ DJ ก็เป็นงานในสายอาชีพดนตรีรูปแบบหนึ่ง แต่มันเป็นงานที่แค่เอาเสียงมาแปะ ๆ ต่อกัน ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมแต่ละเสียงได้เลย พออยากทำให้ละเอียดขึ้นแบบเพลงที่เราเคย ๆ ฟังมาก็ทำไม่ได้
จุดเปลี่ยนสำคัญหนึ่ง คือ มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์งานที่หนึ่ง ซึ่งพอเขารู้ว่าอยากเป็นนักแต่งเพลง นักทำดนตรี แต่ในตอนนั้นเรายังไม่มีสกิลที่ดี เขาก็ไล่ให้ไปเรียนก่อน แต่ก็บอกว่า เราอาจจะเริ่มช้าก็จริง จบปริญญามาแล้วก็จริง แต่ 4-5 ปีที่เอาไปเรียนหลังจากนี้ ถ้าจบได้ ก็ยังเหลือเวลาให้อยู่กับดนตรีได้อีกตั้งเยอะ อยู่ได้ทั้งชีวิต เราคิดไปเองรึเปล่าว่าจบปริญญามาแล้วจะไปเรียนดนตรีเพิ่มไม่ได้
ทำให้ในที่สุดก็รู้ว่าเราเดินผิดทางมาตลอด เรามัวแต่หาทางลัด ทางที่ไม่ต้องฝึกต้องเรียนเยอะ ไม่เคยเรียนดนตรีตามระบบอย่างจริงจัง ทางลัดพวกนั้นก็ทำได้แค่ให้ดนตรียังเป็นเรื่องที่วนเวียนอยู่กับเรา แต่เรากลับเอามันมาใช้จริง ๆ ไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยอีกรอบหนึ่ง
พอตัดสินใจได้แล้ว ก็เข้าเรียนสถาบันสอนดนตรีเลย ซ้อมเปียโนอย่างจริงจัง ฝึก ear training ไปเลย 1 ปีเต็ม จนได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย ทำให้รู้ว่าการซ้อมดนตรีวันละ 4-8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเรื่องปกติของคนเรียนดนตรี แต่สายคอมโพสเซอร์ก็อาจจะน้อยลงหน่อย เพราะต้องเอาเวลาไปฝึกทำเพลงด้วย
ในระหว่างเรียนก็มีโอกาสเล่นดนตรีกับเพื่อน สอนเปียโนไปด้วย จริง ๆ เด็กสายดนตรีแทบทุกคนจะมีโอกาสได้ทำงานระหว่างเรียนกันหมด มีให้ไปเล่นแทนบ้าง ไปสอนแทนบ้าง รายได้ก็ไม่แย่ ชั่วโมงละ 500-1000 ได้เลย แต่กว่าจะได้ขนาดนี้ก็แลกมากับการเรียนและฝึกซ้อมจริงจัง นอกจากนี้ เพื่อที่เคยเรียนนิเทศด้วยกัน ก็เป็นผู้กำกับโฆษณา และจ้างให้ทำเพลงประกอบโฆษณา ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ลองทำ หรือต่อให้ได้ลองทำก็อาจจะทำไม่ได้ รวมถึงตอนทำธีสิสก็เลือกทำเรื่องเพลงประกอบเกม ทำให้มีความรู้เรื่องคอร์ดหรือโน๊ตต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการทำเพลงประกอบเกม ซึ่งพอมีงานที่เกี่ยวกับเกมมาก็ทำให้เราสามารถทำเพลงแนวนี้ได้
ชีวิตเปลี่ยนสายไปสมบูรณ์ พอเรียนจบก็เริ่มทำงานเป็นโปรดิวเซอร์เลย และก็ทำมาเรื่อย ๆ ทำวงอินดี้ ทำค่ายไอดอล ทำเพลงส่งประกวดได้รางวัลต่าง ๆ เรียกว่าได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาจนหมดแล้ว จนปัจจุบันก็มาทำ verycat ที่รับทำและสอนทำนเพลง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่กว่าจะเป็น producer ได้ ต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่ก็ยังดีที่รู้ตัวและกลับลำทันเวลา จนทำเป็นอาชีพได้สำเร็จ
producer บางคนอาจจะไมได้มีเส้นทางแบบเดียวกันก็จริง แต่ผมก็อยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นหนึ่งในตัวอย่างสำหรับคนที่อยากเป็น producer และไม่อยากให้พลาดแบบที่ผมเคยพลาด ถ้าใครรู้ตัวเร็วว่าอยากเป็น producer ก็ให้รีบเรียนดนตรีจริงจังเลย ดนตรีเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่อยากแนะนำให้หาเรียนเอง เราจะอ่านไม่รู้เรื่องเลย หรือต่อให้อ่านรู้เรื่อง ก็ไม่รู้ว่าสิ่งไหนเราควรฝึกก่อนฝึกหลัง เพราะเราขาดคนแนะนำเส้นทางที่ถูกต้อง และดนตรีเป็นสิ่งหนึ่งที่เรียนหนัก บางคนเขาว่าเรียนหนักแบบหมอเลย ซึ่งผมไม่ขอคอนเฟิร์มไปถึงขั้นนั้น แต่ถ้าเทียบกับนิเทศศาสตร์ที่เรียนมา ดนตรีเรียนหนักกว่ามากจริง ๆ ครับ
สำหรับใครที่อยากเป็น producer อยากรู้ลึกรู้จริง และทำเพลงเป็นอาชีพได้ verycat มีหลักสูตร The Real Producer ที่รวบรวมสิ่งที่จำเป็นกับการทำเพลงไว้หมดแล้ว ให้คุณได้เรียน ได้ฝึก และทำเพลงตามที่ฝันได้แน่นอน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ
The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound
Tel. : 0856662425