7 ข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้น ตอนปล่อยเพลงครั้งแรก
หลายคนที่ทำเพลงแรก มักรีบปล่อยโดยไม่วางแผนอะไรเลย ผลลัพธ์ก็คือคนฟังน้อย ไม่ค่อยมีใครเห็น ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องปกติมาก แต่ถ้าเราอยากให้เพลงแรกของเราไปได้ไกลกว่านั้น เราควรรู้ข้อผิดพลาดที่มือใหม่ส่วนใหญ่เจอกันก่อน ซึ่ง VERYCATSOUND ได้รวบข้อผิดพลาดที่มักจะเป็นเหมือนกันหมดมา 7 ข้อด้วยกัน ใครคิดจะปล่อยเพลง ลองดูกันก่อนครับ
7 ข้อที่จะพูดนี้ ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ Music Marketing หมดเลย เพราะเพลงที่สำเร็จ คนฟังฮิตติดชาร์ตนั้น ไม่ใช่แค่ทำเพลงเสร็จแล้วปล่อยเลย ต่อให้เพลงดีแค่ไหน ถ้าไม่มีแผน ก็อาจจะเงียบเหงาได้ ยกเว้นว่าเรามีฐานแฟนเยอะอยู่แล้ว หรือมีงบโปรโมท แต่ถ้าไม่ได้มีสิ่งเหล่านี้ ลองมาดู 7 ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงกันครับ
การอัปเพลงขึ้น Streaming Platform อย่างเดียวไม่ได้ทำให้มีคนฟังทันที สิ่งที่ต้องทำคือ วางแผนโปรโมทล่วงหน้า กำหนดไทม์ไลน์ให้ชัด ว่าจะโปรโมทช่องทางไหนบ้าง เช่น Facebook, IG, TikTok หรือกลุ่มต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่เราจะทำการโปรโมทก่อนปล่อยเพลงล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ต้องกำหนดด้วยว่าวันไหนจะลงช่องทางไหนเวลาไหน
อีกอย่างที่สำคัญ คือใน Streaming Platform ต่าง ๆ จะมีให้เราส่งข้อมูลเพลงเพื่อ Pitching เข้า Playlist ก่อนวันปล่อย อย่างเช่นของ Spotify ซึ่งถ้าเพลงของเรามีแผนที่น่าสนใจ โอกาสที่จะถูกเลือกเข้า Playlist แนะนำก็สูงขึ้น ช่วยเพิ่มยอดคนฟังได้มาก
ยุคนี้เพลงอย่างเดียวไม่พอ ต้องมี Visual มาช่วยเล่าเรื่อง เช่น Cover Art, Lyric Video, หรือ MV เต็มรูปแบบ ถ้าไม่มีงบก็เริ่มจาก Lyric Video หรือ Visualizer ง่าย ๆ ก็ยังดี สิ่งเล่านี้นอกจากช่วยเพิ่มการดึงดูดแล้ว ยังเป็นส่วนที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของศิลปิน หรือช่วยทำให้เรื่องราวในเพลงเห็นได้เป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นด้วย
นอกจากนี้ Thumbnail และ Artwork บน YouTube หรือ Social Media สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดให้คนกดเข้ามาฟัง
สมัยนี้เราต้องทำให้ผู้ฟังอยู่ติดกับเพลงของเราได้ตั้งแต่ 10 วินาทีแรก Intro จึงสำคัญมาก ถ้า Intro ยาวเกินไป หรือไม่โดนใจผู้ฟังตั้งแต่แรก ก็มีสิทธิที่เขาจะเปลี่ยนไปฟังเพลงอื่นได้เลย ถ้าให้ดี intro ก็ไม่ควรเกิน 5-10 วินาที หรือจะเปลี่ยนไปเริ่มด้วย hook ก่อนเลย แล้วค่อยเข้าท่อนอื่น และพยายามอย่าทำเพลงยาวเกินไป ถ้าอยู่ในช่วง 2.30-3.30 ก็จะช่วยให้คนฟังซ้ำได้ง่ายขึ้น จริง ๆ เรื่องนี้มีมาในวิทยุตั้งนานแล้ว เพราะในช่วงเวลาที่เขาต้องเปิด ก็ต้องการความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้คนฟังคลื่นของเขาไปเรื่อย ๆ ก็ต้องเลือกเพลงที่น่าสนใจ หรือก็จะมีการตัดหรือหั่นเพลง ในช่วงต้น และเข้าเนื้อเพลงเร็ว ๆ
การทำเพลงตามใจตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ถ้าอยากให้คนอื่นฟัง ต้องรู้ว่าใครคือ กลุ่มเป้าหมาย เช่น วัยรุ่น นักศึกษา หรือสายอินดี้ เมื่อรู้แล้ว จะวางแผนโปรโมทได้ชัดเจนขึ้น ทั้งโทนภาพ ลักษณะ MV ช่องทางที่ใช้ประชาสัมพันธ์ ภาษาที่ใช้สื่อสาร รวมถึงช่วงเวลาที่ควรปล่อยเพลง เราสามารถปรับสิ่งเหล่านี้ตามกลุ่มเป้าหมายที่คิดว่าจะฟังเพลงของเรา เพื่อให้เพลงของเราเข้าถึงพวกเขามากขึ้น
บางคนปล่อยเพลงเงียบ ๆ ไม่ให้ใครฟังเลย ทำให้พลาดโอกาสแก้ไขข้อบกพร่อง เช่น เนื้อร้องบางคำยังไม่ลงตัว เสียงร้องแตก หรือมิกซ์ไม่บาลานซ์ การขอ Feedback จึงสำคัญมาก เพราะทำให้เราไม่พลาดโอกาสในการแก้ไขก่อนปล่อย ซึ่งถ้าเราปล่อยไปแล้วโอกาสแก้ไขก็อาจจะยาก โดยการขอ feedback ควรขอจากคนที่เชื่อถือได้และให้คำแนะนำแบบเป็นกลาง ไม่ใช่แค่ตามรสนิยมส่วนตัว เพราะถ้าเราฟังตาม Feedback ที่มีอคติมากเกินไป ก็อาจทำให้เพลงไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ
มือใหม่มักละเลยการเขียน Description หรือ Story ของเพลง ทำให้ผลงานดูแห้งแล้ง ไม่น่าสนใจ ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เรื่องราวเบื้องหลัง สามารถช่วยสร้าง Emotional Connection ระหว่างเพลงกับคนฟังได้ดีมาก แม้จะเป็นเพียงไม่กี่บรรทัด แต่ถ้าเล่าแรงบันดาลใจหรือความหมายของเพลง ก็จะช่วยให้คนอินและจดจำเพลงของเราได้ง่ายขึ้น หรือบางทีอาจะทำให้เขาคิดว่าเป็นตัวละครในเพลงของเราได้เลย เราอาจจะเคยเห็นศิลปินดังที่ปล่อยเพลงโดยไม่เขียนอะไร นั่นเพราะเขามีฐานแฟนอยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่ ทุกอย่างที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้เพลงของเราติดเข้าไปอยู่ในใจคนฟังได้ง่ายขึ้น
ข้อนี้จะคล้าย ๆ ข้อแรก เมื่อเราปล่อยเพลงออกไปแล้ว เราต้องคอยเลี้ยงกระแสเพลงของเราให้อยู่ได้นานที่สุด เช่น ปล่อยเบื้องหลังของการทำเพลง มีเวอร์ชั่น remix เวอร์ชั่น acoustic โอกาสนี้นอกจากเลี้ยงกระแสเพลงของเรา ยังทำให้คนฟังได้รู้จักตัวตนของเรามากขึ้น
นี่ก็เป็น 7 ข้อที่หลาย ๆ คนพลาดไปตอนปล่อยเพลงครั้งแรก อย่างที่บอกว่าเรื่องพวกนี้มันเป็น music marketing ซึ่งในทุกวงการต้องมีการตลาดมาสนับสนุนให้ product นั้น ๆ ได้เฉิดฉาย ในการทำเพลงก็เหมือนกัน เพลงของเราอย่างเดียวมันไม่พอ มันต้องมีการตลาด ซึ่งถ้าเราอยากทำเพลงให้ได้อย่างเดียว ต้องมีค่ายมีช่วยดูแลเรื่องตรงนี้ แต่บางครั้งก็ต้องเป็นเรานี่แหละ เพราะสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือผู้ฟังไม่ได้รักแค่เพลง แต่พวกเขายังรักในตัวศิลปิน เรื่องราว และสิ่งที่ศิลปินเป็น ดังนั้น หากเราใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้ เพลงของเราก็จะมีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจผู้ฟังได้มากขึ้น
สำหรับใครที่สนใจ ทั้งการทำเพลงและการทำการตลาด เรามีหลักสูตร The Real Producer ที่รวมเนื้อหาการทำเพลง ครอบคลุมทุกแนวเพลง รวมถึงการตลาดที่ช่วยให้คุณโปรโมทเพลงได้อย่างถูกต้อง สามารถติดต่อและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน VERYCATSOUND ได้เลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ
สนใจเรียนทำเพลงอย่างจริงจังกับ VERYCATSOUND?
.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/
.
หลักสูตรเต็ม The Real Producer “ลึกและตรงประเด็น” สำหรับผู้ที่พร้อมจะไปให้สุดทาง สู่การเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพอย่างเต็มตัว
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE: @verycatsound
► โทร: 085-666-2425
#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #โปรดิวเซอร์ #song #music #release