
สิ่งหนึ่งที่พวกเราสังเกตเห็นชัดเจนจากการทำงานกับหลายแบรนด์ คือ “เสียง” ไม่ใช่แค่ส่วนประกอบเสริมอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ขาดไม่ได้
เสียงของแบรนด์ไม่ว่าจะมาจากโฆษณา เพลงประกอบคอนเทนต์ พอดแคสต์ หรือแม้แต่เสียงสั้น ๆ บน TikTok ล้วนมีพลังมากพอที่จะ “เปลี่ยนความรู้สึกของผู้ฟัง” ได้ในเวลาไม่กี่วินาที แต่เทรนด์เสียงในปีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ
“ความไพเราะ” หรือ “ความไวรัล” เท่านั้น
มันคือเรื่องของ ความเข้าใจคนฟัง และการทำให้เสียงสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น
จากประสบการณ์ของเราในการออกแบบเสียงให้กับหลายธุรกิจ ทั้งองค์กรใหญ่ แบรนด์ SME และ start-up เราขอสรุป 5 เทรนด์เสียงสำคัญในปี 2025 ที่ธุรกิจควรรู้ (และเริ่มทำ) ถ้าอยากอยู่ในใจผู้คนในปีนี้
1. เสียงที่ “จริงใจ” มากกว่า “เป๊ะ”
ปีนี้คนฟังต้องการความรู้สึก “ของจริง” มากกว่าความเนี้ยบจนดูไกลตัว
เสียงที่ฟังแล้วเหมือนมีเพื่อนกำลังพูดด้วย มักได้ผลดีกว่าเสียงพรีเซนต์แบบเป็นทางการ
ธุรกิจควรเลือกเสียงที่มีโทนตรงกับบุคลิกแบรนด์ แต่ยัง “เข้าถึงง่าย” และไม่ประดิษฐ์เกินไป
ไม่ใช่แค่เสียงพูดเท่านั้น เพลงแบรนด์เองก็ต้องสื่อสารอารมณ์ที่คนฟังเชื่อ
2. เพลงที่สะท้อน DNA ของแบรนด์
เพลงประกอบโฆษณาหรือคลิปสั้นต่าง ๆ ต้องเริ่มต้นจาก “ตัวตนของแบรนด์”
เสียงของแบรนด์สุขภาพอาจต้องฟังดูเบาสบาย
แบรนด์เทคโนโลยีอาจต้องการเสียงที่ล้ำสมัย
และแบรนด์ที่เน้นชุมชนหรือไลฟ์สไตล์ ควรใช้ดนตรีที่ทำให้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง
เสียงควรเป็นส่วนขยายของภาพลักษณ์ ไม่ใช่ของตกแต่ง
3. เสียงต้องออกแบบให้ “แพลตฟอร์มเป็นศูนย์กลาง”
TikTok, YouTube Shorts, Instagram Reels ทุกแพลตฟอร์มมีพฤติกรรมการฟังที่ต่างกัน
เสียงบน TikTok ต้องดึงความสนใจใน 3 วินาทีแรก
YouTube Shorts เน้นจังหวะที่เล่าเรื่องชัด
โฆษณา Spotify ต้องฟังแล้วเข้าใจ แม้ไม่เห็นภาพ
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ “เข้าใจว่าแต่ละช่องทาง ต้องออกแบบเสียงอย่างไร”
4. พอดแคสต์และเสียงยาวมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ปี 2025 เป็นปีที่แบรนด์หลายรายหันมาทำพอดแคสต์จริงจัง ไม่ใช่แค่เทรนด์
ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเรื่องในอุตสาหกรรม แชร์เบื้องหลังแบรนด์ หรือสร้างพื้นที่พูดคุยกับลูกค้า
เสียงจึงไม่ใช่แค่ช่วงสั้น ๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นช่องทางสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
เสียงเล่าเรื่องที่ดี จะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำแม้ในวันที่ไม่ได้ยิงโฆษณา
5. มี “เสียงประจำแบรนด์” ไว้ใช้ซ้ำ
หนึ่งในการลงทุนระยะยาวที่หลายธุรกิจเริ่มตื่นตัว คือการมีเสียงประจำแบรนด์ (Sonic Logo)
เสียงสั้น ๆ เพียง 1–2 วินาที ที่กลายเป็นเหมือนโลโก้ในรูปแบบเสียง
เมื่อคนได้ยินซ้ำ ๆ ในโฆษณา วิดีโอสินค้า หรือแม้แต่เสียงแจ้งเตือนในแอป
เขาจะรู้สึกผูกพันกับแบรนด์โดยอัตโนมัติ
เทรนด์นี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และกำลังเริ่มแพร่ในไทยอย่างรวดเร็ว
ในปีที่ทุกคนสามารถผลิตคอนเทนต์ได้ด้วยมือถือ เสียงคือวิธีที่แบรนด์สร้าง “ความแตกต่าง” และ “ความลึก” ได้ดีที่สุด
คำถามสำคัญคือ เสียงที่ธุรกิจของเราใช้ตอนนี้ สื่อถึงแบรนด์ได้ชัดแค่ไหน?
และถ้ายังไม่มีเสียงประจำตัวเลย นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการเริ่มต้น
เพราะในปี 2025 แบรนด์ที่ไม่ใส่ใจ “เสียง” อาจไม่ถูกฟัง
แต่แบรนด์ที่ “รู้ว่าเสียงของตัวเองควรเป็นยังไง” จะอยู่ในใจคนได้นานกว่าคู่แข่ง
———————
The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
.
VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
.
สร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพระดับสากล
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่
Line ID : @verycatsound
Tel : 0839192945
——————
#logicpro #apple #musicproduction #jingle #musicforbusiness