วันนี้จะไปเที่ยว เทศกาลดนตรี คนเพี้ยนๆ ที่ จังหวัด ไซตามะ กัน เจอข้อมูลงานนี้จากวารสารแจกฟรีที่ Tower Records แล้วมาตามหาต่อในเนต ซื้อบัตรที่ lawson เอา เป็นเทศกาลดนตรีลักษณะคล้ายงาน Fat Festival , Big Mountain Music Festival ในไทยอะไรแบบนั้น คือมีคอนเสิร์ตหลายๆวง มีฉายหนัง มีบู๊ทขายของ ฯลฯ สำหรับคนรักดนตรี แน่นอนว่า วงดนตรีที่จะได้พบได้เจอต่อจากนี้ คิดว่าคงน้อยคนจะรู้จัก เพราะผมเองก็ไม่รู้ 555+ เรามาเที่ยวญี่ปุ่นก็เพื่อศึกษาสิ่งที่เค้าเป็น อยากให้ลองเปิดใจ รับรู้อะไรใหม่ๆ ค้นพบโลกใหม่ไปด้วยกันนะครับ
ออกจากบ้านสาย เพราะเมื่อคืนนอนดึก มัวแต่หาวิธีเอารูปลงคอม แล้วไปกินข้าวเช้าก่อนด้วยเลยช้า ไปถึงก็หลงๆนิดหน่อย แถมยังเดินไกลอีก กว่าจะถึงก็ล่อไปครึ่งงานละ
สรุปคือเป็นจังหวัดไซตามะ ไม่ห่างจากโตเกียวมาก สเตเดียมที่เคยจัดบอลโลกปี 2002 ค่าเดินทางค่อนข้างแพงอยู่ (710 เยน) ลงจากสถานีแล้วก็เดินไกลสักนิด ข้างทางโล่งมากๆ แตกต่างกับโตเกียวเลย ได้บรรยากาศต่างจังหวัดอยู่บ้าง
ดูเหมือนว่า theme ของงาน music festival นี้ ไอ้คำว่า “guru guru mawaru” ที่แปลว่า “กลิ้งๆหมุนๆ” นั้นจะเกี่ยวกับความ “เพี้ยนพิลึก” อยู่นะ เพราะนอกจากหลายๆวงดนตรีที่เพี้ยนๆแล้ว.. บู๊ทขายของในงานยังเต็มไปด้วยของขายแปลกๆ แนวคิโมคาวะ? (website ของงาน http://www.gurugurumawaru.net )
อะไรคือ คิโมคาวะ? หลายๆคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินคำนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน นอยเคยอธิบายคำนี้ให้ผมฟังว่า คำว่า คิโมคาวะ นั้นมาจาก Kimoi (คิ-โม่ย) ซึ่งแปลว่า น่าเกลียด หรืออุบาท มาผสมกับคำว่า Kawaii (คา-วา-อิ) ที่แปลว่าน่ารัก กลายเป็น Kimoi-Kawaii ซึ่งก็ถูกเรียกย่อตามสไตล์ญี่ปุ่น เหลือแค่ Kimokawa นั่นเอง ซึ่งเป็นเทรนด์ของความน่ารักแบบนึงในญี่ปุ่นที่กำลังมาแรง ในช่วงปีที่ผ่านมา มันเอาไว้เรียกสิ่งที่ “ดูน่ารักแบบอุบาทๆ” หรือ “น่าเกลียดน่ากลัวแบบน่ารัก” อาจจะนึกภาพยากสักนิด ยกตัวอย่างสิ่งที่ถือเป็น คิโมคาวะ อย่างเช่น ภาพ Kyary Pamyu Pamyu ปากฉีก อะไรแบบนี้
เจอบู๊ทแปลกๆบู๊ทนี้ เป็นเพื่อนกันสองคนเปิดด้วยกัน พอจ่ายเงินให้เขา คุณ Wonder Nicole จะเล่นมายากลให้เราดู ในระหว่างที่ดู คุณ Nanashiro ก็จะวาดรูปเราในสไตล์ Horror ไปด้วย อืม.. เพี้ยนดีนะ เข้าใจแท๊กทีมกันดี เอาตังค์ผมไปเลย 100 เยนเอง (website ของทั้งสองคน ameblo.jp/nanashiro-horror , magica-art.com )
เวทีแบ่งเปนหลาย สัก 7-8 ได้ เวทีละ 5-6 วง รวมๆแล้ว 55 วงได้ เยอะโคตรๆ แต่ละเวทีก็จะมี theme เป็นดนตรีคนละแนว ตามแบบแผนของ music festival ทั่วไป ตอนผมไปเค้าก็เล่นกันไปครึ่งงานละ เสียดายอยู่เหมือนกัน
วงมันเยอะมากกก จนเป็นไปไม่ได้ที่จะดูหมด จริงๆก็ถ่ายวิดิโอมาเยอะมาก แต่ลงได้เฉพาะบางอย่างที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากนะครับ (ให้ชื่อกับ website ไว้เผื่อใครสนใจไปค้นกันต่อเองนะครับ)
เวที Riot Girl (แนว Idol Music)
ไอดอลในที่นี้ คือเป็นสไตล์แบบหนึ่ง นักร้องสาวสวยกับดนตรีงุ้งงิ้งนั่นแหละ แต่ที่มาในงานค่อนข้างจะเป็นไอดอลที่เป็นค่ายอินดี้เล็กๆ มากกว่า (แหงสิ พวกดังๆค่ายใหญ่ คงไม่มาเล่นงานอะไรแบบนี้) จากภาพ ซ้ายไปขวา คือ
– Rhyme Berry (ライムベリー) ออกฮิพฮอพ แปลกดีเหมอืนกัน เพิ่งเคยเห็นไอดอลแนวนี้
– Yorumerumo (ゆるめるモ!) ตอนแรกก็นึกว่าเป็นวงไอดอลใสๆธรรมดาๆ ที่ไม่รู้จุดเด่นคืออะไร แต่หลังจากหาข้อมูลเพิ่ม ผมนี่ถึงกับงง… เพราะมีบางคลิป ก็มีบางคนเล่นกีตาร์ แล้วก็มีการดูดเสียงร้อง (อาจจะเซนเซ่อร์เพราะหยาบคาย) ตกลงมันเป็นวงแบบไหนกันแน่? ใครมีจิตศรัทธาอยากค้นหาต่อ เชิญเลยครับ…
– Bandjanaimon (バンドじゃないもん!) วงนี้ก็แปลกตรง มีคนตีกลองอยู่หนึ่งคน ทั้งๆที่คนอื่นร้อง?
เวที CBX (Alternative , Post Rock)
เวทีนี้ดูจะรวมพวกวงเท่ห์ๆ แบนด์ rock แบบหัวก้าวหน้าหน่อย
– toddle วงที่มีมือเบส และนักร้องเป็นผู้หญิง (น่ารักด้วย) เพลงมีเสน่ห์น่าสนใจ นึกถึงประมาณ yellow fang ของไทย อะไรอย่างงั้น
– ROTH BART BARON โพสต์ร๊อคสัญชาติญี่ปุ่น ที่เพลงเท่ห์มากทีเดียว แนะนำสำหรับสายโพสต์ร๊อคเลยครับ
เวที Stadium (Rock สนุกๆ, Ska-Raggae)
ทันแค่ได้ดูวงสุดท้ายวงเดียว แต่เป็นวงที่มีคนญี่ปุ่นในงานแถวนั้นแนะนำ พอเปิดประตูเข้ามาถึงกับตกใจ! คึกกันจัง 555+
– Guitar Wolf (ギターウルフ) เห็นชื่อตอนแรกไม่นึกว่าจะเป็นแนวสกา นะเนี่ย มีพลังในการเล่นสดแบบ 120%! คึกมาก!
เวที SCUM PARK (แนว???)
อยู่ติดกับเวทีฉายหนังข้างๆ (ชื่อว่า Less than TV ที่ผมไม่ได้เข้าไปดู เพราะรู้อยู่แล้วว่าคงดูไม่รู้เรื่อง) เป็นเวทีแปลกประหลาด ด้านในมีอุปกรณ์ดีเจตั้งอยู่ แต่พอถามเค้าว่าเวทีนี้แนวอะไร เค้าอธิบายเรายากมากเลย สุดท้ายบอกว่า “Dangerous Zone” ? เอ้ะนี่มันยังไงกัน?
– Mc Hoze & DJ Mendosa (MCホセ&DJメンドーサ) สองคนนี้ทำให้ผมยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้นอีกครับ… เพราะนึกว่าจะมาแรพสด อะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่… พอมายืนกลางห้องแล้วก็พูดอะไรกันก็ไม่รู้ เหมือนเล่นตลก มีตีหัวกันด้วยพัดกระดาษ แล้วที่พี๊คคือ สักพัก คนนึงก็หันก้นให้คนดูแล้ว ถอดกางเกง! ถอดหมดทั้งกางเกงในด้วย! แล้วก็ส่ายนกเขาไปมา แต่หันก้นให้คนดู แล้วก็พูดเหมือนยิงมุขอะไรกันไม่รู้ไปเรื่อยๆ คือมันอะไรกัน…
– อีกคนท่ี่ขึ้นมาต่อจากสองคนนั้น ไม่รู้ชื่ออะไร ใส่ชุดยูกาตะ ออกมายืนพูดอะไรไปเรื่อยๆ คงเล่นมุขอีกแล้ว ดูไม่เข้าใจเลยเดินออกดีกว่า…
เวที Moruguru (Hip-hop,Punk)
คนในงานบอกแค่ว่า เวทีนี้ “No-Pop”
– Wasureranneyo (忘れらんねえよ) วงซาวด์แบบ punk สนุกๆ คนโดดกันตรึม
– MOROHA หนึ่งในวงที่ผมยกให้เป็น high light ของผมในวันนี้ เป็นวงฮิพฮอพสองคน คนนึงร้องนำ อีกคนเล่นกีตาร์ มีแค่นี้จริงๆ ซิมเปิ้ลมาก แต่มีพลังมาก ขนาดฟังไม่ออกยังสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด คับแค้นอะไรสักอย่าง เล่นจบคนดูร้องไห้กันเต็ม T-T เจ๋งว่ะ
ชมคลิปการแสดงของ MOROHA เพิ่มเติม ได้ที่ link นี้
เวที Susuki (All-Star)
เวทีสำหรับวงที่รวมตัวกันเฉพาะกิจต่างๆ
– วงแรก ชื่อคันจิยาวมาก อ่านไม่ออก แต่สรุปว่า รวมดาวมาน่ะแหละ… ที่ดูวงนี้ไม่ใช่เพราะมือเบสจริงๆนะ อิอิ
– DQS นี่มันอะไรกันเนี่ย… กลอง 10 ชุด!? สารภาพว่าไม่ได้ดู แต่ลองหาฟังใน youtube แล้ว บ้าดี
เวที youthful (Pop Rock , Country, Folk)
ชื่อเวทีเหมือนจะมีแต่คนหนุ่มๆเล่นนะ แต่เห็นบางวงก็มีแอบอายุเหมือนกัน 555
– Inokashira (井乃頭蓄音団) วงออกคันทรี่ มีคนร้องตามเยอะเลย น่าจะมีชื่อเสียงพอตัว
– Otogivanashi (おとぎ話) ป๊อปร๊อคหล่อๆ ที่มีฝีมือดีด้วย ไม่ใช่แค่แต่งตัว
เวที Guruguru (วงใหญ่ๆ จำพวก Big band , Full Band)
ถ้าผมเดาไม่ผิด เวทีนี้ต้องเป็นเวทีที่เพี้ยนหนักที่สุด สังเกตจากคอสตูมวงนี้ครับ… นี่มันวงดนตรีหรือกุ้งกุลาร้องไห้วะเนี่ย…
– Drowned Shrimp (溺れたエビの検死報告書) เสียดายที่พลาดดูวงนี้ไป น่าจะเพี้ยนแน่นอน… ใครสนใจลองติดตามดู
เวที Tokyo Teleport (แนว Electronic pop , Shibuya-kei)
เวทีหลักของศาสนาผมเอง lol เน้นแนวอิเลคโทรป๊อปมุ้งมิ้ง
– Candles วง electronic pop , house คนนี้ผมลองฟังเพลงอื่นเพิ่มเติมใน youtube ดู พบเพลงที่มีซาวด์คล้าย Yasutaka Nakata จาก Capsule อยู่หลายเพลงเหมือนกันนะ
– Saoriiiii ซาวด์จะนิ่งคูล เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยถ้าเทียบกับวงอื่นๆ
และวงสุดท้ายของงานวันนี้ นั่นคือ
– xxx of WONDER เป็นวงเฉพาะกิจที่มีสมาชิกหลายสายมารวมกันแปลกๆ คนนึงเป็นโปรดิวเซอร์ อีกคนเป็นนักร้อง J-pop น่ารัก อีกคนเป็นนักวาดภาพประกอบ (เกี่ยวอะไร?) มี performance ที่น่าสนใจ นักวาดภาพประกอบที่ลุคหล่อๆคนขวา นั้นทำท่าทางประกอบตลอด มีการเอาพร๊อพที่เป็นสมุดภาพมาเปิดเล่น ทำท่าวาดด้วย… สร้างความมึนงงให้ผมมากว่า มันเกี่ยวอะไรกัน…? lol แต่เพลงเค้าก็เพราะนะ
คลิปการแสดงของ xxx of WONDER เพิ่มเติม 1 , 2 , 3
หลังจบการแสดง และไปซื้อซีดีของวงนี้ที่บู๊ท เลยได้พูดคุยกับตัวศิลปิน โปรดิวเซอร์ที่ทำเพลง (คนใส่แว่น) เขามีชื่อในวงการว่า “Dr.Usui” (มีวงดนตรีส่วนตัวชื่อ Motocompo เป็นวง Shibuya-kei อีกวงหนึ่ง) เขามีเพื่อนที่เป็นศิลปินในไทยเช่นกัน นั่นคือ “Momoko (Futon)” ผมบอกว่า ผมเป็นศิลปินจากไทยเช่นกัน มาที่นี่เพื่อศึกษาวงการดนตรีของญี่ปุ่น และ Shibuya-kei เราเลยได้แลก contact กันก่อนจาก (ซึ่ง Dr.Usui กลายเป็นเพื่อนใหม่ของผม ในวันหลังๆของทริป เราจะบทสัมภาษณ์ของเขาเกี่ยวกับวงการดนตรีญี่ปุ่นหลายๆอย่างมาให้อ่านกันด้วย ใครสนใจ รอติดตามนะครับ)
ปล. ยังมีวงดนตรีที่น่าสนใจอีกมากมายที่ผมไม่ได้ดู และไม่ได้ลงในนี้ มีหลายวงที่เป็นวงที่ดีมาก และมีทุกแนวรองรับทุกรสนิยมทางดนตรีของทุกคน พวกเค้าก็แค่อาจจะไม่ได้ดัง หรือยังไม่ดัง ไม่ได้ออกทีวีออกสื่อให้เห็นกันบ่อยๆ ไม่ได้นักข่าวไทยหรือสื่อไทยเอาไปโปรโมทป้อนเข้าหูเรา เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่มันไม่ได้แปลว่าเพลงเค้าไม่ดีหรือไม่เพราะ รสนิยมทางดนตรีของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าเปิดฟังแต่สิ่งที่อยู่แต่ในทีวี มันก็เจอแค่ไม่กี่วง ไม่กี่แนวซ้ำๆกัน ที่จริงแล้วมีวงดนตรีเยี่ยมๆ อีกมากมายที่รอการค้นพบจากเหล่าคนฟังอยู่ จักรวาลของดนตรีที่ญี่ปุ่นมันกว้างใหญ่ไพศาลกว่าสิ่งที่อยู่แค่ในทีวีมาก เพลงที่เราเลือกจะฟังเองให้ตรงกับรสนิยมของเรา ย่อมดีกว่าการที่มีคนมาป้อนหูเราแล้วบอกว่า “เฮ้ย อันนี้ใครเค้าก็ฟังกัน ฟังอันนี้สิ!” อยู่แล้ว Choices are yours!
ถ้าใครสนใจลองค้นกันเพิ่มเติมจากชื่อศิลปินในหน้า line up ของงานนี้ดูนะครับ Guru Guru Mawaru 2014 Line Up เดี๋ยวนี้มันไม่ยากเลยในยุค youtube ที่มีทุกอย่าง ถ้ามีความพยายามสักหน่อย ขอแค่รู้ชื่อ แค่ copy / paste ชื่อศิลปินไปแปะวาง ก็เจอละครับ หลายๆวงผมก็เพิ่งค้นพบ จากการมานั่ง search ฟังจาก line up นี้เหมือนกัน (ใครค้นพบพบวงอะไรดีๆ ก็มาแชร์กันได้ที่กรุ๊ป Shibuya-kei Thailand ได้นะครับ ^^)
งานจบ ตอนเดินออกมา มี idol สามคนแจกมาใบปลิว เลยรับมา พวกเธอคือ “Kit Cat” มาโปรโมทงาน live ของตัวเอง ที่ชิบุยะ วันที่ 17 ก.ย. นี้ (อีกไม่กี่วัน) น่าสนใจ เอาล่ะ ได้เป้าหมายต่อไปละ!
สิ่งที่ผมสนใจอีกอย่างก็คือ วัฒนธรรมดนตรีของเค้า ไม่ได้มีการแบ่งแยกเหมือนที่ประเทศเราเป็น คือแม้จะเป็นวงอินดี้ แต่ก็มีทุกแนว idol music ก็เป็นอินดี้ มาทำอะไรๆเอง จัดคอนเสิร์ตเอง ทำเพลงกันเอง และแม้แต่ยืนแจกใบปลิว โปรโมทตัวเอง ผมไม่เคยเห็นศิลปินแนวนี้ในไทยทำอะไรแบบนี้เลย ศิลปินพวกนี้ก้อเปนคนธรรมดาๆอย่างเรา ที่พยายามทำอะไรๆด้วยตัวเองโดยไม่รอโชคชะตา ใครชอบแบบนั้นก็พยายามทำแบบนั้น ในทางของตัวเองอย่างจริงจัง คนดูก็รักกันจริง สนับสนุน ร้องได้ เต้นได้ตลอด
วัฒนธรรมการดูคอนเสิดของญี่ปุ่นก็น่าสนใจ มัน unique และมีลักษณะเฉพาะหลายอย่าง อย่างพวกท่าเต้นที่ค่อนข้างซับซ้อน ที่คนเต้นเหมือนๆกัน (ซึ่งไม่รู้เอามาจากไหน ใครเป็นคนเริ่ม) หรือผ้า Towel ที่คนซื้อมาพาดบ่า และยกขึ้นหมุนๆๆ ตอนเพลงสนุก ทั้งหมดนี้มันคือรากเหง้าอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ และที่ไม่รู้สร้างกันมาได้ไง
สรุปงานวันนี้ คือดีอ่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะชอบ กะว่าไม่ชอบจะกลับ เพราะไม่มีวงที่เคยได้ยินชื่อเลย ไปๆมาๆ อยู่จนจบ สนุกมาก ตื่นตาตื่นใจตลอด ในฐานะที่เป็นคนเสพย์ดนตรีอินดี้มายาวนาน ไปงาน Fat Festival ตั้งแต่ครั้งแรกสุด ยันครั้งสุดท้าย ที่มีความรู้สึกต่อการดูดนตรีที่ชินชาแห้งเหี่ยวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวงดนตรีในไทยไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้เราได้อีกต่อไป การได้มาที่นี่ มาลุยดูอะไรแบบนี้ มันเหมือนได้ย้อนความรู้สึกกลับไปอีกครั้ง เหมือนทุกๆวันคือ Fat Festival ครั้งที่ 1 ยังไงอย่างงั้น มีวงดนตรีแปลกๆ แนวแปลกๆ มีเรื่องสนุกๆ รอให้เราค้นหาอีกมากมาย ไอ้นู่นไอ้นี่ไอ้นั่นก็สนใจอยากรู้ไปหมด ใช้เวลาเท่าไรก็คงรู้เห็นไม่หมด ไม่ได้สนุกกับมิวสิคเฟสติวัลขนาดนี้มานานเท่าไรแล้ว มันดีเกินไป ขนาดมาได้ครึ่งทางเองนะ ตอนนี้ ไม่อยากกลับไทยเลยยยยย T___T
คือดีอ่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะชอบ กะว่าไม่ชอบจะกลับ เพราะไม่มีวงที่เคยได้ยินชื่อเลย ไปๆมาๆ อยู่จนจบ เป็นอีกวันที่น่าจดจำ
ถึงเวลาต้องกลับแล้ว บ๊ายบาย ไซตามะ ไม่รู้จะมีโอกาสได้มาอีกรึเปล่านะ ขากลับนั่งรถไฟมาลงที่ ชินจุกุ และถ่ายรูปแหล่งราตรีเล่นนิดหน่อย ก่อนจะนั่งต่อกลับมาที่ฮาราจุกุ
จบวัน ไม่ไหวละ นอนก่อน ขอทิ้งท้ายด้วย “ภาพ(ไม่)เหมือน ของตัวผม ที่วาดในแนว Horror” โดยคุณ Nanashiro ครับ
ตอนหน้าเตรียมพบกับ Day15 : พักยกกันกับ Tokyo Sky Tree (มาได้ครึ่งทางแล้วสินะ)