MODERN POP THEORY 2
ชื่อวิชา : MODERN POP THEORY 2
รหัสวิชา : VCA902
- เน้นความเข้าใจในคอร์ด, สเกล, เมโลดี้, และโครงสร้างดนตรี
- ครอบคลุมหลักการสำคัญที่ใช้ในการสร้างเพลง Modern Pop และเพลงแนวอื่น
- เข้าใจกลไกและรูปแบบทางดนตรีในเพลงที่เป็นกระแส
- สังเกตและถอดรหัสเทคนิคที่ซ่อนอยู่ในเพลงยอดนิยม
- พัฒนาทักษะในการผสมผสานแนวดนตรีที่หลากหลาย เช่น Jazz, Classical, และ Electronic
- เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์เพลงที่ไพเราะและเข้าถึงผู้ฟังในวงกว้าง
- เปลี่ยนความซับซ้อนทางดนตรีให้เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่เข้าถึงได้
- ใช้กระบวนการคิดที่กลั่นกรองมาอย่างดีเพื่อสร้างผลงานที่ฟังง่ายแต่ลึกซึ้ง
- ฝึกปฏิบัติการใช้ทฤษฎีในการแต่งเพลงและเรียบเรียงดนตรี
- สร้างเพลงต้นฉบับที่แสดงถึงศักยภาพและตัวตนของผู้เรียน
- ปลดล็อกศักยภาพทางดนตรีผ่านการเรียนรู้เทคนิคขั้นสูง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างเพลงได้ทุกแนว โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องความซับซ้อน
คอร์สนี้เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานทางดนตรีอยู่บ้างแล้ว อยากต่อยอดในระดับสูง
- ผู้ที่อยากมีความรู้เรื่องกับทฤษฎีดนตรีที่ใช้ในการการประพันธ์ไปจนจบถึงขั้นสูงสุด
- ผู้ที่อยากประพันธ์หรือแต่งเพลงได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนที่ยากแค่ไหน
- ผู้ที่อยากเข้าใจศาสตร์ของการแต่งทำนองเพลง และคอร์ดแบบลึกซึ้ง
- ผู้ที่อยากเป็นเลิศในทางการประพันธ์ดนตรีหรือ การแต่งเพลง
- ผู้ที่อยากประกอบอาชีพคนทำเพลงสายต่างๆ อาทินักแต่งเพลง นักเรียบเรียงดนตรีโปรดิวเซอร์ เป็นต้น
- ผู้ที่อยากเข้าใจและมีความรู้แตกฉานทางด้านดนตรี
- ผู้สนใจดนตรีโดยทั่วไป และอยากมีความรู้ในระดับสูง
คุณสมบัติผู้เรียน
- มีความรู้ความเข้าใจ พื้นฐานทางดนตรีอยู่บ้างแล้ว เข้าใจเรื่อง Major Scale 12 และคอร์ด ในสเกล โดยพื้นฐาน (หากไม่มั่นใจ หรือไม่แม่น สามารถเรียนปรับพื้นฐานก่อนได้)
- แต่งทำนองเพลงและคอร์ดแบบง่ายๆ พื้นฐานเป็น
- ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านโน้ตเป็น แต่ขอให้เคยใช้โปรแกรมทำเพลงอยู่บ้าง
- เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างลึก และจริงจัง ผู้เรียนควรมีใจรักดนตรีมากพอ และอดทนมากพอที่จะทุ่มเทให้สิ่งที่ตัวเองรัก และเอาจริงกับความฝันตัวเอง
ประเภทคอร์ส : Online VDO, Online Private Class
ระยะเวลา : 6 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชม.
Course Outline
รายละเอียดเนื้อหาคอร์ส
– พื้นฐานโครงสร้างและองค์ประกอบของดนตรีแจ๊ส
– การสร้างเมโลดี้และลิคที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์แจ๊ส
– การใช้โน้ต Altered ในคอร์ด Dominant เพื่อสร้างความซับซ้อน
– การเพิ่มเสียง Tension ในคอร์ดเพื่อสร้างความตื่นเต้นในดนตรีแจ๊ส
– การใช้โหมด Minor ในบริบทของแจ๊สเพื่อเพิ่มความหลากหลาย
– การใช้โครงสร้างสมมาตรในคอร์ดและสเกลเพื่อสร้างสีสันเฉพาะตัว
– เทคนิคการปรับเปลี่ยนและขยายความ Dominant Chord
– การปรับเปลี่ยนโน้ตในคอร์ดเพื่อสร้างความแปลกใหม่
– การแทนที่คอร์ดเดิมด้วยคอร์ดใหม่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
- Exotic Scale (Superimposition)
– การใช้สเกลที่แปลกใหม่เพื่อซ้อนเสียงและเพิ่มความซับซ้อน