ชื่อวิชา : Commercial Music ( การทำเพลงเพื่อการพาณิชย์ )
รหัสวิชา : VCA504
“มุ่งเน้นการผลิตดนตรีเพื่องานโฆษณาและการค้า เรียนรู้การตีโจทย์ ‘บรีฟ’ (Brief) จากลูกค้า การสร้างแบรนด์ด้วยเสียง (Sonic Branding) และเทคนิคการทำจิงเกิ้ล (Jingle) ให้ติดหูและตอบโจทย์การตลาด”
ภาพรวมหลักสูตร: หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างนักทำเพลงเชิงพาณิชย์มืออาชีพที่สามารถตอบสนองต่อโจทย์อันหลากหลายของโลกธุรกิจ การค้า และโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์ดนตรีที่มีเนื้อร้องสำหรับโฆษณา, การทำจิงเกิ้ลและโลโก้เสียงที่ติดหู, การสร้างดนตรีสำหรับองค์กร, ไปจนถึงการออกแบบดนตรีบรรยากาศสำหรับพื้นที่และอีเว้นท์ต่างๆ โดยหัวใจสำคัญของหลักสูตรคือการผสมผสานทักษะการประพันธ์เข้ากับความเข้าใจในกระบวนการทำงานร่วมกับลูกค้า, ฝ่ายการตลาด และการนำเสนอผลงานอย่างมืออาชีพ
โครงสร้างการเรียนการสอน (10 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง):
ครั้งที่ 1: Introduction to Commercial Music & The Creative Brief (โลกดนตรีเชิงพาณิชย์และหัวใจสำคัญที่เรียกว่า “บรีฟ”)
- หัวข้อ: ความแตกต่างระหว่างดนตรีเชิงศิลปะและดนตรีเชิงพาณิชย์ และการตีความโจทย์จากลูกค้า
- เนื้อหา:
- หน้าที่ของดนตรีในการสื่อสารแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย
- การถอดรหัส Creative Brief: Target Audience, Brand Values, Key Message, Call to Action
- Professional Skill: การตั้งคำถามที่ถูกต้องกับลูกค้าหรือเอเจนซี่เพื่อให้ทำงานได้ตรงเป้าหมายที่สุด
ครั้งที่ 2: The Power of a Jingle & Sonic Branding (พลังของจิงเกิ้ลและการสร้างแบรนด์ด้วยเสียง)
- หัวข้อ: ศิลปะการสร้างอัตลักษณ์ทางเสียงที่สั้น กระชับ และน่าจดจำ
- เนื้อหา:
- จิตวิทยาเบื้องหลังเพลงที่ติดหู (Earworms)
- เทคนิคการประพันธ์เมโลดี้ง่ายๆ ที่แข็งแรงและสื่อสารได้ในไม่กี่วินาที
- Workshop: สร้างโลโก้เสียง (Sonic Logo) ความยาว 3-5 วินาที สำหรับแบรนด์สมมติ
ครั้งที่ 3: Ad Music I – The Positive Pop Anthem (เพลงโฆษณาภาค 1: เพลงป๊อปสดใสสไตล์ Product Hero)
- หัวข้อ: เจาะลึกการทำเพลงโฆษณาแบบมีเนื้อร้องที่พบบ่อยที่สุด
- เนื้อหา:
- โครงสร้างเพลงสำหรับโฆษณา (ความยาว 15, 30, 60 วินาที)
- คอร์ดและสไตล์ดนตรีที่เป็นที่นิยมในงานที่เน้นความสดใสและพลังบวก
- Professional Skill: เทคนิคการเขียนเนื้อร้องที่สอดแทรก Key Message และชื่อแบรนด์อย่างเป็นธรรมชาติ
- Workshop: รับบรีฟสินค้า (เช่น เครื่องดื่ม) และทดลองแต่งท่อนฮุคพร้อมเนื้อร้อง
ครั้งที่ 4: Ad Music II – Targeted Styles & Genres (เพลงโฆษณาภาค 2: การทำเพลงสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ)
- หัวข้อ: การเลือกใช้แนวเพลงเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
- เนื้อหา:
- เพลงเด็ก: การใช้เมโลดี้ง่ายๆ และเครื่องดนตรีที่สดใส
- เพลงธีมล้ำสมัย (Modern/Trendy): การจับเทรนด์ดนตรี Pop/Electronic ในปัจจุบันมาปรับใช้
- เพลงธีมชนบท (Rural/Folk): การใช้เครื่องดนตรีอะคูสติกเพื่อสร้างความรู้สึกจริงใจและอบอุ่น
- Case Study: วิเคราะห์เพลงโฆษณาจริงจากสินค้าแต่ละประเภท
ครั้งที่ 5: The Business Side – Pitching & Presentation (ศาสตร์และศิลป์ของการขายงาน)
- หัวข้อ: การนำเสนอไอเดียและผลงานเพลงให้ “ชนะใจ” ลูกค้า
- เนื้อหา:
- ระดับของงานนำเสนอ: Sketch (ไอเดียคร่าวๆ), Demo (ต้นแบบที่เห็นภาพชัด), และ Final Track
- Professional Skill: จำลองการ “Pitching” งานให้ลูกค้า ฟังและอธิบายดนตรีของตนเองในภาษามาร์เก็ตติ้ง (เช่น “ซาวด์นี้ให้ความรู้สึกมั่นใจและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่”)
ครั้งที่ 6: Music for Corporates & Campaigns (ดนตรีสำหรับองค์กรและการรณรงค์)
- หัวข้อ: การประพันธ์เพลงเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะขององค์กร
- เนื้อหา:
- เพลงองค์กร (Corporate Anthem): ดนตรีที่สะท้อนคุณค่าและวิสัยทัศน์ขององค์กร
- เพลงรณรงค์ (Campaign Song): ดนตรีที่สร้างอารมณ์ร่วม, ปลุกใจ, หรือสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
- Genre Study: เพลงมาร์ช (Marching) – การวิเคราะห์โครงสร้างและโอกาสในการใช้งาน
ครั้งที่ 7: Atmospheric Music – BGM for Spaces & Events (ดนตรีบรรยากาศสำหรับพื้นที่และอีเว้นท์)
- หัวข้อ: การสร้างสรรค์ดนตรีที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศโดยไม่รบกวน
- เนื้อหา:
- ความแตกต่างระหว่างดนตรีเบื้องหน้า (Foreground) และดนตรีเบื้องหลัง (Background)
- เทคนิคการทำดนตรีบรรยากาศ (Ambient/BGM) สำหรับร้านค้า, โรงแรม, หรืออีเว้นท์เปิดตัวสินค้า
- Workshop: สร้าง BGM Loop ความยาว 5-10 นาที สำหรับร้านกาแฟสมมติ
ครั้งที่ 8: Full Campaign Workshop I – Modern Workflow from Brief to Demo (AI-Assisted Creativity)
- หัวข้อ: จำลองกระบวนการทำงานจริงด้วยเวิร์คโฟลว์สมัยใหม่ ตั้งแต่รับบรีฟจนได้เดโม่แรก
- เนื้อหา:
- ผู้เรียนจะได้รับโจทย์โฆษณาเสมือนจริง (เช่น โฆษณารถยนต์, ประกันชีวิต)
- Professional Skill: ลงมือวิเคราะห์บรีฟ, ระดมสมอง, เขียนเนื้อร้อง, และประพันธ์ดนตรีเดโม่แรก
- Leveraging Modern Technology (เพิ่มใหม่):
- การประยุกต์ใช้ AI: แนะนำเครื่องมือ AI ที่ช่วยในกระบวนการสร้างสรรค์ เช่น การระดมไอเดียคอร์ด, การสร้างเมโลดี้ตั้งต้น, หรือการหาแนวทางดนตรีอ้างอิง (Reference) จาก Keywords ในบรีฟ
- Accelerated Workflow: เรียนรู้วิธีใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Mockup หรือ Demo หลายๆ แบบได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำเสนอทางเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น
- Maintaining Quality: การใช้ AI เป็น “ผู้ช่วย” เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ โดยที่นักประพันธ์ยังคงเป็นผู้ควบคุมคุณภาพและทิศทางของผลงานทั้งหมด
ครั้งที่ 9: Full Campaign Workshop II – Revisions & Client Feedback (ปฏิบัติการโปรเจกต์ใหญ่ ภาค 2: การรับ Feedback และแก้ไขงาน)
- หัวข้อ: การรับมือกับความคิดเห็นของลูกค้าและการแก้ไขงานอย่างมืออาชีพ
- เนื้อหา:
- ผู้สอนจะสวมบทบาทเป็น “ลูกค้า/เอเจนซี่” และให้ Feedback/คอมเมนต์กับเดโม่จากครั้งที่แล้ว
- Professional Skill: ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการปรับแก้ผลงานของตนเอง เพื่อให้ตอบโจทย์เชิงพาณิชย์ได้ดียิ่งขึ้น โดยยังคงคุณภาพทางดนตรีไว้ (อาจใช้ AI ช่วยในการสร้าง Variations ของท่อนที่ต้องแก้ไข เพื่อนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว)
ครั้งที่ 10: Final Presentation & Industry Insights (นำเสนอผลงานและเจาะลึกการทำงานในวงการ)
- หัวข้อ: การนำเสนอผลงานฉบับสมบูรณ์ และเตรียมความพร้อมสู่การทำงานจริง
- เนื้อหา:
- นำเสนอผลงานเพลงโฆษณาฉบับแก้ไขสมบูรณ์ พร้อมอธิบายว่าดนตรีที่ทำมานั้นตอบโจทย์บรีฟได้อย่างไร
• • ถาม-ตอบ เกี่ยวกับการสร้าง Portfolio, การหาลูกค้า, การคิดราคา, และภาพรวมของวงการดนตรีเพื่อการโฆษณาในยุคที่มีเทคโนโลยี AI เข้ามาเกี่ยวข้อง