MUSIC FOR BUSINESS

รวม 3 แนวเพลงและดนตรีสำหรับเปิดในคาเฟ่ ให้น่านั่ง

การที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่สักที่จะมีความโดดเด่นจากร้านอื่นๆได้นั้นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ร้านกาแฟไม่ใช่แค่ที่สำหรับซื้อกาแฟ แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถมานั่งพักเงียบๆ ทำงาน หรือผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า และเป็นเหมือนกับที่สถานที่ดีๆไว้นัดพบปะกับกลุ่มเพื่อน บรรยากาศภายในร้านกาแฟจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรใส่ใจ และในการที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจนั่งต่อเพื่อสั่งเครื่องดื่มอีกสักแก้วและดื่มด่ำกับบรรยากาศต่อ ต้องยอมรับเลยว่าบรรยากาศในร้านคาเฟ่นั้น มีความพิเศษมากกว่าสถานที่ต่างๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ใน ปัจจุบัน มีคนมากมายชี่นชอบที่จะไปคาเฟ่ และมีร้านคาเฟ่มากมายเกิดขึ้นหลายแห่ง แล้วหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศของร้านคาเฟ่ทั้งหลายดูพิเศษขึ้นนั้นมาจากอะไร? ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการตกแต่งของร้านทั้งภายในภายนอก แต่สิ่งที่มีความสำคัญอีกอย่างที่บางคน อาจจะมองข้ามนั้นก็คือเพลง เพลงนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างบรรยากาศให้กับสถานที่นั้นๆ ขึ้นอยู่กับแนวเพลงที่ร้านเลือกจะเปิด การเลือกเพลงสำหรับร้านกาแฟเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะเพลงสามมารถบ่งบอกถึงความพิเศษและตัวตนของร้านกาแฟ การเลือกเพลงที่ตรงคอนเซ็ปต์ของร้านและตรงกับกลุ่มเป้าหมายเป็นการเพิ่มสเน่ห์ให้กับร้านคาเฟ่เหล่านั้นได้อย่างดี มาเริ่มต้นที่การสร้างบรรยากาศของร้านด้วย Acoustic เพลงที่คุณเลือกเปิดจะเป็นตัวกำหนดความรู้สึกของลูกค้าตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาภายในร้าน หากเราเปิดเพลง Acoustic จังหวะสบายๆชิวๆ ลูกค้าที่เข้ามาก็จะรู้สึกผ่อนคลาย หรือถ้าเป็นเพลง Acoustic อีกจังหวะที่มีความมสนุกสนานลูกค้าก็จะรู้สึกสดชื่นร่าเริงมากขึ้น เราอาจจะต้องคำนึงถึงลูกค้ามากขึ้นมากเขาเข้ามาทำอะไรในร้านนอกเหนือจากการมาซื้อกาแฟ เช่น ถ้าเราอยากให้ลูกค้าได้นั่งพัก นั่งเอ็นจอยกับสิ่งรอบตัว เพลงที่เลือกเปิดก็ควรเป็นเพลงที่สามารถช่วยให้ลุกค้ารู้สึกผ่อนคลาย อาจจะเป็นเพลงบรรเลงฟังสบายๆ หรือถ้าอยากให้ลูกค้าเข้ามานั่งทำงานในร้าน...

การตลาดผ่านเสียงดนตรีที่ชวนจดจำ

เมื่อเราลองนึกย้อนไปในสมัยเด็กช่วงที่เรานั่งดูการ์ตูนทางทีวีผ่านช่องต่างๆ สิ่งที่ขัดใจมากที่สุดเวลานั่งดูคือช่วงที่การ์ตูนเหล่านั้นตัดเข้าโฆษณา แต่ไม่รู้ทำไมพอย้อนกลับมาตอนนี้กลับคิดถึงเพลงโฆษณาเหล่านั้นเหลือเกินไม่ว่าจะ ปูไทย, เซี่ยงไฮ้, ขนมตราไก่ย่าง หรือแลคตาซอย เรียกได้ว่าแค่เห็นชื่อเหล่าขนมเหล่านี้ ก็ได้ยินเพลงออกมาเป็นทำนองจนร้องออกมาได้โดยที่แทบไม่ต้องนึก แม้โฆษณาเหล่านั้นจะผ่านเวลามานานแล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งข้างต้นที่ว่ามามันก็คือการใช้ Music Marketing นั่นเองเพียงแต่ในยุคนั้นคำคำนี้อาจจะไม่ได้เรียกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในปัจจุบันการทำ Music Marketing ก็ยังคงมีออกมาเรื่อยๆและหลายๆครั้งก็สร้างความน่าจดจำได้ไม่น้อยตัวอย่างเช่น Shopee ที่นำทำนองเพลงฮิตติดหูอย่าง Baby Shark มาใช้ แล้วแต่งเนื้อใส่ไปในเพลงเพื่อนำเสนอจุดขายของแบรนด์เข้าไปเพิ่มอย่าง “ในช้อปปี้ ๆๆๆๆ เสื้อผ้าดี ๆๆๆๆ ทุกอย่างมี ๆๆๆๆ ที่ช้อปปี้” เพียงแค่ได้ยินเสียงดนตรี ก็ทำให้ทุกคนนึกถึงแบรนด์ Shopee ทันที ยังไม่นับที่เอาซุปเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวโปรตุเกส อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาเต้นอีกนะ...

3 เทคนิคสำคัญ ทำเพลงประกอบเกมส์

การแต่งเพลงประกอบเกมส์ แน่นอนว่าพูดถึงเรื่องการแต่งเพลงสิ่งแรกที่คุณต้องทำเป็นคือการแต่งเพลง คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องเล่นเกมเก่งคุณก็อาจจะสามารถแต่งเพลงประกอบเกมส์ที่ดีก็ได้ ส่วนถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าควรจะแต่งเพลงประกอบเกมหนึ่งเกมส์นั้นควรจะมีทิศทางอย่างไร เราจะมาแบ่งปันเทคนิคกัน วันนี้ผมขอแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลักๆสำคัญในการทำเพลงประกอบเกมส์ อย่างแรกคือ ความเข้าใจ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าเกมที่คุณจะแต่งเพลงประกอบให้เป็นเกมส์แนวไหนเกี่ยวกับอะไร หรือทำให้ใครเล่น สิ่งที่สำคัญคือ ความรู้ความเข้าใจในตัวเกมที่เราต้องแต่งเพลงประกอบ ลองดูไปที่ตัวเกมส์ว่ามันมีองค์ประกอบอะไรให้เรานำมาเล่นเป็นกิมมิคในงานเพลงได้บ้าง อย่างsettingของเกมมันอยู่ในช่วงยุคเวลาไหนหรือตั้งอยู่ที่ประเทศอะไร อย่างตะวันออกกลางยุคสมัยโบราณ บางทีคุณอาจจะลองใช้เรื่องmode เข้ามาสร้างสีสันและเพิ่มบรรยากาศให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น ต่อมาพูดถึงไอเดียหรือ ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสารรค์ไม่ใช่การสร้างเมโลดี้หรือทางคอร์ดเจ๋งๆอย่างเดียว บางทีมันก็อาจจะเกี่ยวกับการตีความ อย่างการเลือกใช้แนวดนตรีในการทำเพลงประกอบ มันไม่จำเป็นว่าเกมสักแนวหนึ่งต้องคู่กับเพลงแนวหนึ่งเสมอไป ถ้ามันเป็นเกมแนวแอคชั่นมันก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องใช้ดนตรีแนวร็อคหรือEDM อย่างเดียว มันขึ้นอยู่กับไอเดียและการตีโจทย์ว่าเกมในขณะนั้นต้องการกระตุ้นอารมณ์ของผู้เล่นไปในทิศทางไหน และก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถนำพาผู้เล่นไปได้ไกลมากน้อยแค่ไหน อย่างสุดท้ายคือ ความน่าจดจำ บอกได้เลยว่าถ้าเราไปศึกษาส่วนประกอบเกมที่ประสบความสำเร็จแทบทุกเกมนั้นมีจุดร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง คือมันมีสิ่งที่น่าจดจำ เราอาจจะกำลังพูดถึง งานออกแบบภาพ กราฟฟิค เกมเพลย์ เนื้อเรื้องที่ทำให้ผู้เล่นอิน หรือซีนต่างๆที่ผู้เล่นสามารถจำมันได้ แต่ถ้าเราพูดถึงงานดนตรี...

12 เทคนิคทำเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างมืออาชีพ

ไม่ว่าหนังสักเรื่องหนึ่งจะมาจากคนทำหนังมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น ไม่ว่ามันจะเป็นหนังสั้น 12 นาทีหรือยาวสองชั่วโมง องค์ประกอบหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือดนตรีประกอบ ซึ่งเทคนิคการทำเพลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ ส่วนใหญ่จะเป็นการ ครูพัก ลักจำ ส่งต่อกันมาเป็นรุ่นสู่รุ่นเสียมากกว่า ซึ่งในวันนี้เราก็มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาแบ่งปันกัน สิ่งแรกก่อนที่เราจะเริ่มสร้างงานของเราได้นั้นก็ต้องมีการพูดคุยกับผู้กำกับหรือผู้นำไอเดียเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้าใจในภาพรวมของงานที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และวางแผนนำไอเดียมากมายในหัวนำมาควบแน่นกลายเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเทคนิคแรกที่เราจะพูดถึงเลยนั่นก็คือ 1.หลีกเลี่ยงศัพท์เทคนิค เวลาบรีฟงาน หน้าที่ของเราคือตามการนำของผู้กำกับและสร้างดนตรีออกมาด้วยกัน ถ้าเราไปนั่งคุยศัพท์เทคนิคเยอะแยะหรือเอาแต่พูดถึงเรื่องดนตรี เราอาจจะพลาดข้อมูลสำคัญและความตั้งใจของผู้กำกับในการทำหนังเรื่องนั้นๆ ได้ ตั้งแต่ได้รับงานลองเข้าไปคุยกับผู้กำกับก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ แบบพูดคุยเล่น ไม่ต้องมีเรื่องดนตรีเข้ามาเกี่ยวก็ได้ แล้วอาศัยบทสนทนาจากการพูดคุยนั้น มาช่วยกำหนดทิศทางว่าดนตรีของหนังเรื่องนั้นจะออกมาในรูปแบบไหนและความตั้งใจของผู้กำกับจริงๆแล้วคืออะไร พยายามหลีกเลี่ยง “reality conversation” เพราะมันจะมาทำลายความคิดสร้างสรรค์ของเราหมด ปล่อยหน้าที่นั้นให้เป็นของโปรดิวเซอร์แทน 2.เล่าเรื่อง ในหน้าที่ของคนทำเพลงภาพยนตร์หัวใจหลักคือการเล่าเรื่อง เพราะฉะนั้นให้ยึดมั่นกับเรื่องเล่านั้นๆ ห้ามปล่อยมันเด็ดขาด ให้เขียนเพลง และ พัฒนา (Develop) สกอร์ไปพร้อมๆกับภาพ...

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.