MODERN POP THEORY
ชื่อวิชา : MODERN POP THEORY
รหัสวิชา : VCA901
- เน้นความเข้าใจในคอร์ด, สเกล, เมโลดี้, และโครงสร้างดนตรี
- ครอบคลุมหลักการสำคัญที่ใช้ในการสร้างเพลง Modern Pop และเพลงแนวอื่น
- เข้าใจกลไกและรูปแบบทางดนตรีในเพลงที่เป็นกระแส
- สังเกตและถอดรหัสเทคนิคที่ซ่อนอยู่ในเพลงยอดนิยม
- พัฒนาทักษะในการผสมผสานแนวดนตรีที่หลากหลาย เช่น Jazz, Classical, และ Electronic
- เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์เพลงที่ไพเราะและเข้าถึงผู้ฟังในวงกว้าง
- เปลี่ยนความซับซ้อนทางดนตรีให้เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่เข้าถึงได้
- ใช้กระบวนการคิดที่กลั่นกรองมาอย่างดีเพื่อสร้างผลงานที่ฟังง่ายแต่ลึกซึ้ง
- ฝึกปฏิบัติการใช้ทฤษฎีในการแต่งเพลงและเรียบเรียงดนตรี
- สร้างเพลงต้นฉบับที่แสดงถึงศักยภาพและตัวตนของผู้เรียน
- ปลดล็อกศักยภาพทางดนตรีผ่านการเรียนรู้เทคนิคขั้นสูง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างเพลงได้ทุกแนว โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องความซับซ้อน
คอร์สนี้เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานทางดนตรีอยู่บ้างแล้ว อยากต่อยอดในระดับสูง
- ผู้ที่อยากมีความรู้เรื่องกับทฤษฎีดนตรีที่ใช้ในการการประพันธ์ไปจนจบถึงขั้นสูงสุด
- ผู้ที่อยากประพันธ์หรือแต่งเพลงได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนที่ยากแค่ไหน
- ผู้ที่อยากเข้าใจศาสตร์ของการแต่งทำนองเพลง และคอร์ดแบบลึกซึ้ง
- ผู้ที่อยากเป็นเลิศในทางการประพันธ์ดนตรีหรือ การแต่งเพลง
- ผู้ที่อยากประกอบอาชีพคนทำเพลงสายต่างๆ อาทินักแต่งเพลง นักเรียบเรียงดนตรีโปรดิวเซอร์ เป็นต้น
- ผู้ที่อยากเข้าใจและมีความรู้แตกฉานทางด้านดนตรี
- ผู้สนใจดนตรีโดยทั่วไป และอยากมีความรู้ในระดับสูง
คุณสมบัติผู้เรียน
- มีความรู้ความเข้าใจ พื้นฐานทางดนตรีอยู่บ้างแล้ว เข้าใจเรื่อง Major Scale 12 และคอร์ด ในสเกล โดยพื้นฐาน (หากไม่มั่นใจ หรือไม่แม่น สามารถเรียนปรับพื้นฐานก่อนได้)
- แต่งทำนองเพลงและคอร์ดแบบง่ายๆ พื้นฐานเป็น
- ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านโน้ตเป็น แต่ขอให้เคยใช้โปรแกรมทำเพลงอยู่บ้าง
- เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างลึก และจริงจัง ผู้เรียนควรมีใจรักดนตรีมากพอ และอดทนมากพอที่จะทุ่มเทให้สิ่งที่ตัวเองรัก และเอาจริงกับความฝันตัวเอง
ประเภทคอร์ส : Online VDO, Online Private Class
ระยะเวลา : 7 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชม.
Course Outline
รายละเอียดเนื้อหาคอร์ส
– ศึกษาระยะห่างระหว่างโน้ตเพื่อสร้างเสียงและอารมณ์ในดนตรี
– การปรับตำแหน่งโน้ตคอร์ดเพื่อสร้างความหลากหลายในเสียงประสาน
– การใช้ Chord On เพื่อเพิ่มมิติในดนตรี
– การเพิ่มเสียง Tension เพื่อสร้างความลึกและอารมณ์ในคอร์ด
– การสร้างเมโลดี้ที่ติดหูและเชื่อมโยงกับเนื้อเพลง
– การใช้จังหวะ เพื่อเพิ่มพลังในเพลง
– โครงสร้างบลูส์และการผสมผสานในเพลงป๊อปร่วมสมัย
– การใช้ Minor Scales เพื่อสร้างอารมณ์ที่หลากหลายในดนตรี
– ฝึกฝนเทคนิคพื้นฐานแจ๊สที่นำไปปรับใช้ในเพลงป๊อปได้
– การใช้โน้ตและคอร์ดที่อยู่นอก Key เพื่อสร้างสีสันใหม่
– การใช้ Modes เพื่อสร้างอารมณ์และสีสันที่หลากหลายในเพลง
– การวิเคราะห์และใช้ Modes ในบริบทดนตรีแจ๊ส