วิธีฟังเพลงเพื่อพัฒนางานทำเพลง! เปิด 8 เคล็ดลับการฟังเชิงลึก

วิธีฟังเพลงเพื่อพัฒนางานทำเพลง! เปิด 8 เคล็ดลับการฟังเชิงลึก

Share via:

Krissaka Tankritwong

วิธีฟังเพลงเพื่อพัฒนางานทำเพลง! เปิด 8 เคล็ดลับการฟังเชิงลึก

อยากทำเพลงให้เก่ง ต้องฟังเพลงให้เยอะ ประโยคนี้ไม่ได้มีอะไรผิด แต่ว่าหลายคนมักจะฟังเพลงแค่เพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งถ้าอยากพัฒนางานทำเพลงต้องฟังเพลงให้ลึกขึ้น ให้ต่างจากที่เคยฟัง และมันต้องฟังยังไง วันนี้ Verycat จะมาเปิด 8 เคล็ดลับการฟังเชิงลึกเพื่อพัฒนางานทำเพลงกัน รู้แล้วไอเดียทำเพลงพุ่งแน่นอน

เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะชอบฟังเพลงกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยากจะก้าวไปสู่สายอาชีพดนตรีหรือการทำเพลง ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเราอาจจะต้องแบ่งเวลามาฟังเพลงเพื่อการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะในสายอาชีพนี้ด้วย ซึ่งมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ เลยข้อสรุปออกมาเป็น 8 เคล็ดลับการฟังเพลงเชิงลึก

  1. ฟังความหมายของเพลง

ให้เราฟังและหาความหมายของเพลง ว่ามันหมายถึงอะไร บางเพลงเหมือนจะเข้าใจง่ายแต่มีความหมายซ่อนอยู่ เราฟังแค่ท่อนฮุกอาจจะเข้าใจแบบนี้ แต่ถ้าฟังทั้งเพลงก็จะเข้าใจไปอีกอย่าง มันเป็นชั้นเชิงของผู้แต่ง ซึ่งถ้าฟังให้ลึกไปอีกก็คือให้ลองวิเคราะห์ว่า ทำไมเขาแต่งแบบนี้ ในขณะที่แต่งเขาน่าจะกำลังคิดอะไร ต้องการสื่อสารอะไร ยิ่งเราวิเคราะห์ได้เยอะ ก็จะเป็นไอเดียที่ต่อยอดให้เราหาความหมายในเพลงของเราได้

  1. ฟังไอเดีย เนื้อร้อง ภาษา

เป็นคนละเรื่องกับการฟังความหมาย ไอเดีย เนื้อร้อง ภาษาในที่นี้ ถ้าให้พูดง่าย ๆ เหมือนว่ามีอยู่สองเพลงที่พูดถึงเพลงรักเหมือนกัน บอกรักเหมือนกัน แต่เขามีวิธีเล่าไม่เหมือนกัน เพลงแรกอาจจะใช้ดอกไม้แทนคำว่ารัก อีกเพลงอาจใช้สิ่งอื่นมาสื่อได้ ในส่วนของภาษานั้นหมายถึงว่าเป็นภาษาแบบใด เป็นทางการหรือภาษาพูด มีคำคล้องจองมากน้อยแค่ไหน ลองวิเคราะห์ได้ว่าเพลงแบบนี้มันมาจากบริบทแบบไหน เราสามารถเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นไอเดียที่เหมาะสมกับเรื่องของเราได้

  1. ฟังเจาะไลน์ดนตรี

ฟังรายละเอียดดนตรีทุกเม็ด ลองฟังให้ออกว่ามันมีเสียงเครื่องดนตรีอะไรบ้าง รวมไปถึงเสียงอื่น ๆ นอกจากเสียงเครื่องดนตรีด้วย โดยให้ฟังว่าแต่ละเครื่องดนตรีมีลูกเล่นท่าทางยังไง เราอาจจะฟังหลาย ๆ รอบ แต่ละรอบก็ให้เลือกฟังเฉพาะเครื่องดนตรีชิ้นนั้น ๆ ไปเลย ซึ่งการฟังแบบนี้เป็นเหมือนกับการฟังของนักดนตรีมืออาชีพ ที่ถ้าใครเล่นเครื่องดนตรีชิ้นไหน ก็จะฟังและแกะเฉพาะเครื่องดนตรีชิ้นนั้นมา ยิ่งถ้าเราได้ลองแกะเล่นด้วย เราจะจำท่าของเครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้ และพอฟังเพลงเยอะ ๆ ก็จะรู้ว่าเพลงนี้ใช้ท่าแบบนี้ คล้าย ๆ กับท่าของเพลงนี้ และเมื่อเราคล่องขึ้น เวลาคิดไลน์ดนตรีก็จะออกมาได้เร็วขึ้น เพราะเรามีไอเดียหรือสกิลการเล่นท่าเครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้เยอะ

  1. ฟังและสังเกตลักษณะเสียงหรือ timbre

มันเป็นคนละอย่างกับไลน์ดนตรี อันนี้คือให้ฟังลักษณะเสียงว่าเป็นแบบไหน เช่น ถ้าฟังกีตาร์ก็ให้ลองฟังว่าเป็นเสียงกีตาร์โปร่ หรือไฟฟ้า ใช้เอฟเฟกต์ตัวไหน มี reverb delay ด้วยไหม ปรับแต่ละเสียงอย่างไร บางคนที่ฟังละเอียดมาก ๆ อาจจะบอกได้เล่ยว่าเป็นยี่ห้ออะไรรุ่นไหน อันนี้ต้องมาจากประสบการณ์ฟังเยอะจริง ๆ ซึ่งประโยชน์ของการฟังแบบนี้จะได้ในเชิงเทสหรือรสนิยม เราจะรู้สึกได้ว่าเพลงที่ฟังดูเท่ เก๋ มีลูกเล่น มีรสนิยม มักจะใช้เสียงแบบนี้ ซึ่งเวลาเราทำเพลงของเราเอง ก็จะเลือกเสียงได้ทันทีว่าแต่ละเครื่องดนตรีอยากให้มันมีเสียงเป็นอย่างไร

  1. ฟังมิติและคุณภาพเสียง

ข้อนี้ให้เราฟังเสมือนว่าเราอยู่ใจกลางของตัวเพลง หลับตาฟังและสังเกตว่าแต่ละเครื่องดนตรีมันอยู่ทิศทางไหน กีตาร์อยู่ซ้ายหน่อย เบสอยู่กลาง ๆ นะ กลองอยู่ข้างหลัง ในข้างหลัง ฉาบอยู่เยื้อง ๆ ซ้ายหน่อย เสียงร้องดังชัดอยู่ข้างหน้าเลย อะไรแบบนี้เป็นต้น ให้เราฟังจนรู้สึกถึงมิติว่าอันไหนมันอยู่ใกล้ไกลแค่ไหนด้วย หน้าหลัง ซ้ายขวา นอกจากนี้ให้ฟังเสียงโดยรวมด้วยว่า มันแน่นไหม ลงตัวไหม เสียงมีคุณภาพ คล้าย ๆ การฟังแบบ sound engineer หรือฟังการมิกซ์ ถ้าเราฟังได้ เราจะมีไอเดียคร่าว ๆ ว่าอยากมิกซ์เพลงของเราให้เป็นแบบไหน ให้เสียงเครื่องดนตรีแต่ละเครื่องอยู่ทิศทางไหน

  1. ฟังไอเดียในการเรียบเรียง

ให้เน้นการฟังเรียบเรียง ว่าแต่ละท่อนมีการสอดประสานของเครื่องดนตรีอย่างไร เช่น ในขณะที่กีตาร์เล่นลูกนี้ เบสเล่นลูกอะไรมีสอดประสาน ที่มันทำให้เสียงมีการรับส่งได้พอดี หรือเสียงเครื่องดนตรีดับไป จู่ ๆ มีเสียงเอฟเฟกต์ดังขึ้นมาพอดี

เพลงที่เด่น ๆ ดังระดับโลก มักจะมีการเรียบเรียงเสียงประสานที่เด่นจนเราจำได้ หรือในบางท่อนก็ทำให้เราคาดไม่ถึง จนทำให้เราสามารถฟังเพลงนั้นได้เพลินตลอดทั้งเพลง พวกนี้ได้จากการสั่งสม ฟังและสังเกตว่าเขาทำอะไรกับพาร์ทดนตรีบ้าง  เขามีไอเดียว่าแต่ละท่อนถ้าทำแบบนี้ จะสร้างความรู้สึกได้อย่างไร ให้เสียงแข็งแรง หรือกระชาก หรืออื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งถ้าเราฟังมากพอ เราจะมีไอเดียเก็บไว้และเอามาประยุกต์ใช้เป็นแบบของเราเองได้

  1. ฟังโทน อารมณ์ บรรยากาศ

ฟังให้รู้สึกได้ว่าเพลงมันมีอารมณ์ประมาณไหน มีบรรยากาศแบบไหน ให้ฟังจนรู้ว่าบรรยากาศแบบไหนมักจะอยู่ในเพลงแนว ๆ นี้ ซึ่งทั้งความรู้สึกและบรรยากาศมันอาจจะมาจากไลน์เครื่องดนตรี timbre หรืออื่น ๆ หลาย ๆ องค์ประกอบรวม ๆ กันจนทำให้เกิดเป็นบรรยากาศนี้ออกมาได้

  1. ฟังเมโลดี้และ harmony

ข้อนี้เป็นขั้นสุดท้าย คือให้เราฟัง harmony ให้ออก ถ้าใช้คอร์ดแบบนี้ ผสมกับเมโลดี้นี้ คือมันกำลังทำฟังก์ชั่นอะไร เช่น เป็นคู่ 7 หรือคู่ 9 ซึ่งจะสอดคล้องไปกับบรรยากาศในข้อที่แล้วว่า ถ้าเราอยากให้เพลงของเรามีบรรยากาศแบบนี้ ก็ต้องใช้ดนตรีที่มีคู่ 7 หรือ คู่ 9 เป็นต้น 

ในข้อนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ฟังมากพอสมควร ต้องฟังแบบสังเกตจริง ๆ ซึ่งก็มีตัวช่วยบ้าง เช่น การใช้ไฟล MIDI โยนลงใน DAWs หรือใช้โน้ตดนตรี ที่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น 

ปัจจุบันเพลงป๊อบทั่วไป มันอาจจะฟังง่ายก็จริง แต่ในความเรียบง่ายก็มีลูกเล่นอะไรซ่อนอยู่เต็มไปหมด ซึ่งมันอาจจะถูกซ่อนไว้นในกระบวนก่ารทำเพลง องค์ประกอบเล็ก ๆ บางอย่างที่เราคิดว่ามันไม่มีอะไร แต่ทั้งหมดมันทำหน้าที่สร้างให้เพลงออกมาเป็นเพลงป๊อบที่ติดหูได้ ถ้าเราฟังและวิเคราะห์ได้เก่ง ก็จะเจอไอเดียสารพัด ซึ่งหลาย ๆ ไอเดียก็อาจเป็นไอเดียที่คาดไม่ถึงว่ามันสามารถทำแบบนี้ได้ด้วย 

การฟังเป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง เพราะจะช่วยให้เราทั้งวิเคราะห์ได้เร็วและช่วยให้คิดไอเดียได้เร็วขึ้น บางทีเราอาจจะมีเมโลดี้ในหัวอยู่ เราจะสามารถเอามันออกมาได้เร็วถ้าเรามีไอเดียต่าง ๆ เยอะ สามารถเอาออกมาจับคู่กับคอร์ดที่เข้ากันกับเมโลดี้นั้นได้ในทันที อีกอย่างหนึ่งที่อยากแนะนำคือ ให้ฝึกเรื่อง ear training , move do และ solfège ถ้าเราฝึกได้คล่องเท่าไหร่ มันจะให้ประโยชน์กับเราได้มหาศาลกับอาชีพทำเพลง คล้าย ๆ กับการปั่นจักรยาน ที่ถ้าเราฝึกได้เราก็สามารถปั่นจักรยานเป็นตลอดชีวิตครับ

สำหรับใครที่สนใจอยากทำเพลงเป็นอาชีพ หลักสูตร The Real Producer ของเรามีคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่รวบรวมเนื้อหาที่จำเป็นกับการทำเพลงไว้หมดแล้ว ถ้าสนใจสามารถติดต่อเข้ามาได้เลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนครับ

The Real Producer

REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง

ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง

นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer

เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล

สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.