ทำไมราคาเปียโน ตกลงถึง 10 เท่า ใน 10 ปี?

ทำไมราคาเปียโน ตกลงถึง 10 เท่า ใน 10 ปี?

Share via:

Krissaka Tankritwong

วิกฤตเปียโนมือสอง: จาก 2 แสนเหลือ 2 หมื่น… มันเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อ 10-20 ปีก่อน… การมี “เปียโน Upright” มือสองสภาพดี (ที่ไม่ใช่ Grand Piano) ตั้งอยู่ในบ้าน คือ “ความฝัน” และ “มาตรฐาน” ของคนที่ “เอาจริง” กับดนตรี มันคือสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินเก็บ 200,000 – 300,000 บาทเพื่อแลกมา มันคือเครื่องมือเดียวที่นักเรียนดนตรี, นักแต่งเพลง, หรือครอบครัวที่จริงจัง จะสามารถเข้าถึง “สัมผัส” (Touching) และ “เสียง” ที่แท้จริงได้…


…ตัดภาพมาวันนี้
คุณจะเห็นเปียโนเหล่านั้นถูกประกาศขายในราคา 20,000 บาท… และบางครั้งก็ยังขายไม่ออก
มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไม “บัลลังก์” ของเครื่องดนตรีที่เคยศักดิ์สิทธิ์นี้ ถึงได้พังทลายลงในเวลาเพียงสิบกว่าปี?

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเศรษฐศาสตร์ แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือบทเรียนที่ชัดเจนของ Demand (ความต้องการซื้อ) และ Supply (ความต้องการขาย) ที่เดินสวนทางกันอย่างรุนแรง

  1. ภาระที่ไม่มีใครอยากแบก (ทำไม Supply ถึงล้นตลาด?)

    เหตุผลแรกที่ทำให้ราคาดิ่งเหว คือการที่ “ของ” มันล้นตลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (Supply พุ่งสูง) ทำไมคนถึงพร้อมใจกัน “ขายทิ้ง”?

    • ภาระแห่งการบำรุงรักษา: เปียโนอะคูสติก คือเครื่องจักรที่ซับซ้อน มันไม่ใช่แค่ “เฟอร์นิเจอร์” แต่มันคือ “สิ่งมีชีวิต” ที่ต้องดูแล คุณต้องจ่ายเงิน “จูนเสียง” (ตั้งสาย) เป็นประจำทุกปี ไม่เช่นนั้นเสียงก็จะเพี้ยน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแฝงที่คนรุ่นใหม่มองว่าไม่จำเป็น
    • ภาระแห่งพื้นที่และน้ำหนัก: มันคือ “เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่หนักที่สุดในโลก” การขนย้ายแต่ละครั้งคือเรื่องใหญ่และมีค่าใช้จ่ายสูง (หลายพันบาท) ในยุคที่ผู้คนย้ายที่อยู่อาศัยบ่อยขึ้น หรืออาศัยในพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดมิเนียม เปียโน Upright กลายเป็น “ภาระ” ชิ้นใหญ่ทันที
      เมื่อเจ้าของเดิมเริ่มรู้สึกว่าภาระเหล่านี้มันหนักเกินไป และมองเห็น “ทางเลือกใหม่” ที่ดีกว่า พวกเขาจึงเริ่มเทขายเปียโนมือสองเหล่านี้ออกมาพร้อมๆ กัน ตลาดจึง “ท่วม” ไปด้วย Supply ที่ไม่มีใครต้องการ

    2. การแทนที่ที่สมบูรณ์แบบ (ทำไม Demand ถึงหายไป?)

      ในขณะที่ Supply พุ่งสูง… Demand (ความต้องการซื้อ) กลับ “ดิ่งเหว” จนแทบจะเป็นศูนย์
      นี่คือ “ผู้ฆ่า” ตัวจริง: เปียโนไฟฟ้า (Digital Piano) และ MIDI Controller
      ในอดีต คนต้องยอมจ่าย 2 แสน เพื่อแลกกับ “ทัชชิ่งที่สมบูรณ์แบบ” และ “เสียงจริง” แต่ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ฉลาดพอที่จะ “ยอมแลก”

      • The Great Trade-Off: คนรุ่นใหม่ยอมแลกความสมบูรณ์แบบที่จับต้องได้ยาก (เสียงจริง/ทัชชิ่ง) กับ “ความสะดวกสบาย” ที่ชนะขาดลอย
      • ความสะดวกที่ว่าคือ:
        1. ราคา: ถูกลงมหาศาล
        2. ไม่ต้องบำรุงรักษา: ไม่ต้องจูนเสียงตลอดชีวิต
        3. ความเงียบ: สามารถเสียบหูฟังซ้อมตอนตี 3 ได้โดยไม่รบกวนใคร
        4. ขนาด: เบา, ขนย้ายง่าย, ประหยัดพื้นที่
      • “ไม้ตาย” ที่ปิดเกม: เปียโนไฟฟ้าและคีย์บอร์ด Controller สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และ DAWs (Digital Audio Workstations) ได้โดยตรง นี่คือหัวใจของการทำเพลงในยุคปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ไม่ได้ซื้อเปียโนมาเพื่อ “ซ้อม” อย่างเดียว แต่ซื้อมาเพื่อ “สร้าง” เพลง ซึ่งเปียโนไม้แบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เลย
        เมื่อคนรุ่นใหม่ที่ควรจะเป็น “ผู้ซื้อ” รายต่อไป หันไปซื้อเปียโนไฟฟ้ากันทั้งหมด Demand ของ Upright Piano จึงหายไปในทันที

      ข้อยกเว้น: แล้ว Grand Piano ล่ะ?

      ปรากฏการณ์นี้ ไม่นับรวม Grand Piano (เปียโนหลังใหญ่) ครับ
      เพราะ Grand Piano ไม่ได้อยู่ในตลาดเดียวกับ Upright มันคือกลุ่มเป้าหมาย High-End อย่างแท้จริง มันคือเครื่องมือสำหรับ “มืออาชีพ” ระดับสูงสุด, ห้องอัดเสียงมาตรฐานโลก, หรือคลาสสิกฮอลล์ ที่ต้องการ “สิ่งที่ดีที่สุด” โดยไม่ประนีประนอม ตลาดนี้ยังคงมีอยู่และราคาก็ไม่ได้ขยับลงมากนัก

      บทสรุป: “เครื่องมือ” ล้าสมัยได้ แต่ “ความรู้” ไม่มีวัน

      ปรากฏการณ์ Upright Piano คือบทเรียนที่ชัดเจนที่สุดว่า “เครื่องมือ” ที่เคยศักดิ์สิทธิ์และแพงระยับในอดีต สามารถกลายเป็น “ของล้าสมัย” ได้ในพริบตา เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบโจทย์ยุคสมัยได้ดีกว่าเข้ามาแทนที่
      ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ Upright Piano ราคา 2 แสน หรือ Keyboard Controller ราคา 2 พัน…


      สุดท้ายแล้ว “เครื่องมือ” ไม่เคยเป็นตัวตัดสินว่าเพลงของคุณจะ “ดี” หรือ “ไม่ดี” สิ่งเดียวที่ตัดสินคือ “สมอง” และ “ความรู้” ของคนที่อยู่หลังเครื่องมือต่างหาก
      คุณอาจจะมี Software เปียโนที่เสียงดีที่สุดในโลก… แต่ถ้าคุณรู้แค่ 4 คอร์ดวนลูป (C-G-Am-F) เพลงของคุณก็ยัง “ไม่โปร” คุณอาจจะมี DAW ที่แพงที่สุด… แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจศาสตร์แห่งการเรียบเรียง (Arrangement) หรือ ทฤษฎีดนตรีขั้นสูง (Advanced Harmony) คุณก็จะติดอยู่กับการทำเพลงที่ “ตื้นเขิน” และ “คาดเดาได้”


      ถ้าคุณ “เอาจริง” กับเส้นทางนี้ จงหยุดกังวลเรื่อง “เครื่องมือ” และเริ่มลงทุนกับสิ่งที่สำคัญที่สุด… ลงทุนกับ “ความรู้” ที่จะทำให้คุณสามารถควบคุมเครื่องมือทุกชนิด ให้สร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมได้
      และนี่คือเหตุผลที่ VERY CAT ACADEMY ถูกสร้างขึ้นมา… เราไม่ได้ขาย “เครื่องมือ” หรือ “เทคนิคผิวเผิน” เราขาย “แก่น” ที่ลึกและตรงประเด็นที่สุด… ศาสตร์แห่ง Composition, Harmony, และ Arrangement ที่จะทำให้คุณกลายเป็น “นาย” ของเครื่องมือทุกชนิด


      เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
      ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
      หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

      1.
      หลักสูตร The Real Producer
      REAL / DEEP / EXCLUSIVE
      “ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง”
      เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
      เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
      สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
      ► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy
      คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
      ► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
      ► โทร: 085-666-2425

      2.
      VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
      ► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

      ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
      ► LINE: @verycatsound

      #VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #piano #keyboard #synthesizer

      Leave a Comment

      ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.