เรียนทำเพลง Music Marketing

3 ประโยชน์ที่ได้จากการเรียน MUSIC MARKETING

Share via:

Krissaka Tankritwong

การตลาด = ยาขมและทางรอดของคนดนตรี
คนดนตรีส่วนใหญ่แล้ว ไม่ถูกกับวิชาการตลาด
เพราะจิตวิญญาณของคุณที่เกิดมาสร้างงาน มันรักในดนตรีและศิลปะ และหลายๆครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่เรียกว่า การตลาด หรือ ธุรกิจ
ไม่แปลกครับ เพราะที่จริงแล้วผมเองก็เคยเป็นแบบนั้น

มีคนที่เก่งจริงอยู่มากมายในวงการ และมีงานดีๆอีกมาก ที่ไม่ดัง ไม่เป็นที่รู้จัก เช่นเดียวกับหลายๆครั้งที่คุณสร้างผลงานที่ดีออกมาแล้ว แต่ไม่มีคนฟัง หรือไม่สามารถหาเงิน แปรเปลี่ยนมันเป็นรายได้ได้ นั่นจริงๆเพราะสาเหตุเดียวเลยคือ มันขาดการตลาด

โดยมากแล้ว เรามักใช้สมองซีกขวาไปกับจินตนาการ อย่างเรื่องศิลปะหรือดนตรี และใช้สมองซีกซ้ายไปกับการคำนวนต่างๆหรือเรื่องเหตุผล
แต่แท้จริงแล้ว ดนตรีเป็นเรื่องที่ต้องใช้สมองซีกซ้ายด้วยเช่นกัน เพราะมีเรื่องของการคิดคำนวนโน้ต harmony ต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อคุณได้เรียนรู้ดนตรีในระดับที่สูงขึ้น
จึงบอกได้ว่า นักดนตรีหลายคนที่เก่งกาจขนาดเข้าใจ harmony ที่ซับซ้อนได้ ไม่ได้ด้อยเรื่องการคำนวนเรื่องเหตุผลหรือ logical ไปกว่าสายอาชีพอื่นๆเลย
เพียงแต่มันไม่ค่อยถูกใช้ไปกับการคิดเรื่องการตลาดมากกว่า

การตลาดคือทางรอด

คุณจะได้ผลประโยชน์จากการทำดนตรีได้มากขึ้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่อคุณเรียนรู้การทำการตลาด โดยอาจจะไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองไป (หรือที่หลายคนเรียกว่าขายวิญญาณ) ด้วยซ้ำ
อาทิเช่น ยอดวิวเพิ่มขึ้น มียอด subscribe หรือ follower เพิ่มขึ้นไว หรือจนกระทั่งหาเงินจากมันได้
การตลาดไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายเสมอไป มันเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้คุณหาเงินจากสิ่งที่คุณทำได้อยู่แล้วได้ ได้มากขึ้น หรือได้ดีที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้
นี่คือประโยชน์ 3 อย่าง ที่ชัดๆของการตลาด ที่จะทำให้คุณอยู่รอดได้ในเส้นทางดนตรี

1. คนจะรู้จักคุณ และเพลงของคุณ

นักดนตรีส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยชอบ present ตัวเอง โดยเฉพาะคนที่เก่งจริงทั้งหลาย แต่การที่คุณรู้การตลาดจะมีกลยุทธต่างๆที่เป็น chicklist ให้คุณทำ ที่ทำให้คุณสามารถโปรโมทตัวเองได้อย่างถูกวิธี และเข้ากับความเป็นตัวคุณ ที่คุณรับได้ ได้โดยที่ไม่ต้องฝืนมากจนรับไม่ได้ หรือการที่คุณจะปล่อยเพลง จากปกติที่ไม่ค่อยมียอดวิว แต่เพลงคุณจะถูกค้นพบมากขึ้น และทำให้ผู้ฟังได้ฟังเพลงที่ดีมากขึ้น ไม่มีใครหรอกครับที่ทำเพลงมาแล้วจะไม่อยากให้เพลงตัวเองดัง ทุกคนอยากให้ดังกันทั้งนั้น แม้แนวเพลงที่คุณทำ จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันคงดังยาก แต่อย่างน้อยการตลาดก็จะช่วยทำให้เพิ่มจำนวนคนฟังให้มากที่สุดเท่าที่มันจะมากได้ ดีกว่าปล่อยเฉยๆโดยที่ไม่มีการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องเลย

2. คุณจะเพิ่มจำนวนสาวกได้ไวขึ้น

แน่นอนว่าคนที่ชอบเพลงคุณ หรือชอบในสิ่งที่คุณทำ เป็นแฟนเพลงตัวยง หรือที่เรียกว่าสาวก จะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามจำนวนผลงานและวันเวลา แต่ถ้าคุณมีการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คุณจะทำให้มันได้ไวขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คุณเหนื่อยเท่าเดิม แต่ผลลัพธ์มากขึ้น ซึ่งมันเป็นเทคนิคการใช้เครื่องมือหลายๆอย่างทางการตลาดเข้ามาช่วยทำให้เกิดจำนวนผู้ติดตามตัวจริงเพิ่มได้ไวขึ้น การสร้างฐานแฟนอันนี้ เป็นผลดีกับการเป็นศิลปินของคุณในระยะยาว เมื่อฐานแฟนมากพอ คุณจะทำอะไรมันก็ง่ายขึ้นไปหมด คุณจะค่อยๆสร้างไปก็ได้ แต่สมมุติ ฐานแฟน 100,000 คน ถ้าคุณย่นระยะเวลามันจาก 10 ปี ลงมาเหลือสัก 1-2 ปี ได้ มันก็เป็นเรื่องดีกว่ามากใช่ไหมล่ะครับ

3. คุณจะหาเงินจากมันได้ และได้มากขึ้น

ได้ทำดนตรีที่รักแล้วได้เงินด้วย อยู่รอดได้ด้วย ไปจนถึงเป็นอาชีพได้ จนถึงร่ำรวย เป็นใครจะไม่อยากได้ชีวิตแบบนี้จริงไหมครับ? นั่นคือที่สุดแล้วของการเป็นศิลปินหรือคนดนตรี หลายคนยังได้แต่ทำดนตรีเป็นงานอดิเรกโดยไม่สามารถหาเม็ดเงินจากมันได้ หรือที่ได้ก็ได้น้อยจนไม่สามารถคิดเป็นอาชีพหลักได้ ปัญหาพวกนี้มันจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณใช้วิชาการตลาดเข้ามาในอาชีพของคุณจนค่อยๆหาเงินกับมันได้ และได้มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึงคุณทำมันเป็นอาชีพได้ในที่สุด

โลกมันซับซ้อนขึ้น

ปัจจุบันการหาเงินจากดนตรี ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนแต่ก่อน เป็นเพราะอะไรรู้ไหมครับ สาเหตุหลักๆมันมาจาก โลกที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ที่จริงดนตรีมันไม่มีทางตายไปจากโลกนี้หรอกครับ คนเรายังต้องการดนตรี ชอบฟังเพลง ต้องการผ่อนคลาย แต่ปัจจุบันคนไม่ได้จ่ายเงินให้กับดนตรีแบบตรงๆเหมือนเมื่อก่อน ฉะนั้นมันจึงมีความซับซ้อนในการหาเงินมากยิ่งขึ้น เพราะเงินไม่ได้มาจากคนที่ซื้อเพลงคุณตรงๆ อย่างผู้ฟัง ที่ซื้อ เทป ซีดี อีกต่อไป แต่เงินมาจากลูกค้าที่จ้างงานคุณอีกที ซึ่งอาจเป็นแบรนด์สินค้า หรือโปรโมเตอร์ต่างๆ ความซับซ้อนที่เกิดขึ้นในการตลาดทุกสายตอนนี้ เป็นสิ่งที่คนดนตรีต้องปรับตัว ถ้าอยากอยู่รอดในวงการนี้ให้ได้ และแน่นอนว่า มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่คุณจำเป็นต้องรู้การตลาดดนตรี หรือต่อให้คุณไม่รู้การตลาดดนตรีด้วยตัวเอง คุณก็ควรมีผู้ดูแล หรือผู้จัดการศิลปิน หรือค่าย ที่มาดูเรื่องนี้ให้ นั่นก็จะทำให้คุณรอดเหมือนกัน แต่ถ้าคุณเป็นศิลปิน DIY ที่เริ่มๆทำเองแล้วยังไม่มีคนมาช่วยเรื่องเหล่านั้น ถ้าอยากรอดให้ได้ก็เรียนรู้มันเอาไว้เถอะครับ

Music Marketing Course

การตลาดดนตรีเป็นวิชาใหม่ที่เปิดในหลักสูตร The Real Producer หากสนใจเรียนรู้มันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และนำไปใช้แก้ปัญหาของคุณได้จริง แนะนำหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน link นี้

https://verycatsound.com/music-promo/
คอร์สการโปรโมทให้ปัง VCA601

https://verycatsound.com/music-marketing/
คอร์สการตลาดดนตรีเซตเต็มทั้งหมด สำหรับผู้ที่จริงจัง

—————–

VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.