สอนแต่งเพลง 3 เหตุผลที่อยากเรียนดนตรี

3 เหตุผลที่ อยากเรียนดนตรี แต่ไม่ได้เรียน ทำยังไงดี?

Share via:

Krissaka Tankritwong

“อยากเรียนดนตรีมากๆ รู้ตัวว่าชอบดนตรี และอยากเอาดีกับมัน แต่สุดท้ายไม่ได้เรียน? เลือกเรียนอย่างอื่นในมหาวิทยาลัยแทน”
คุณคือคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ผมอยากบอกว่า คุณไม่ได้โดดเดี่ยว แต่มีคนร่วมชะตากรรมอีกเยอะมากในไทย

ปัญหานี้นับเป็นปัญหาคลาสสิค ปัญหาหนึ่งของประเทศเรา และเป็นสิ่งที่ผมเจอบ่อยที่สุดเวลามีคนมาปรึกษาเรื่องการเรียนทำเพลง
คือมีคนจำนวนมากที่สนใจการทำดนตรีมากๆ อยากเป็น Producer , Composer หรือศิลปิน เป็นความใฝ่ฝัน แต่กลับต้องเลือกเส้นทางอื่น
นั่นเป็นเพราะอะไร? ผมวิเคราะห์มาให้ว่า สุดท้ายแล้ว จะไม่พ้น 3 เหตุผลนี้ครับ

3 เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ไม่ได้เรียนดนตรี แม้อยากเรียนแค่ไหนก็ตาม

1. เงิน

ปัจจัยด่านแรกเลยที่ต้องพิจารณา เพราะการเรียนดนตรีค่อนข้างมีราคาสูง นับตั้งแต่ค่าอุปกรณ์ดนตรีต่างๆรวมไปถึงค่าเรียน แล้วยิ่งวิทยาลัยดนตรีชั้นนำ
ในไทย ตกเทอมละ 5-80000 บาท ซึ่งถ้ารวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเข้าไปด้วยก็ร่วม 1 ล้านบาท ต่อหลักสูตร ซึ่งอันนี้ถ้าคิดว่าแพงแล้ว แล้วคิดว่าไปเรียนนอกประเทศดีกว่า นอกประเทศให้คูณ 5 เข้าไปอีกครับ ก็คือใช้ค่าใช้จ่ายอย่างต่ำ 5 ล้าน ซึ่งแน่นอนว่า มันไม่ใช่ตัวเลขที่จะสามารถ support ได้ทุกบ้าน

2. ความมั่นคง

บางบ้านอาจจะมีพอมีฐานะที่ support ไหว แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปคือ อาชีพในอนาคต ถามว่าจริงๆแล้ว ดนตรีเป็นอาชีพได้ไหม ต้องตอบว่าได้ และก็ไม่ได้แย่ แต่ถ้าถามว่ามันรวยได้หรือไม่ ก็ต้องตอบตามตรงว่ายากหน่อย ถ้าเทียบกับอาชีพยอดนิยมอื่นๆ อาทิ หมอ วิศวะ หรือโปรแกรมเมอร์ เป็นต้น ซึ่งทำให้หลายคนตัดสินใจที่จะเลือกที่จะมีปริญญาสายอื่นติดตัวไว้มากกว่า เพื่อความมั่นคงในชีวิต แล้วเลือกที่จะหาความรู้ทางดนตรีข้างนอกมหาวิทยาลัยเอา หรือเลือกที่จะให้ดนตรีเป็นงานอดิเรกเท่านั้น นั่นแปลว่า การจะเลือกเรียนดนตรีมันต้องใช้ความกล้าพอสมควร กล้าที่จะเลือกสิ่งที่เป็นความฝันของตัวเองเหนือสิ่งอื่นๆ กล้าแลกอะไรหลายอย่างในชีวิตเพื่อมัน มันก็พิสูจน์อะไรบางอย่างว่าคุณรักมันมากแค่ไหนจริงๆ

3.ที่บ้านไม่อนุมัติ

แม้ว่าคุณจะพิจารณาแล้วว่า ข้อ 1 กับ ข้อ 2 แล้วคิดว่าไหว แต่นั่นคือคุณคนเดียว ใครที่ที่บ้านไฟเขียว สามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ แต่ก็มีอีกหลายบ้านที่ไม่อนุมัติ ไม่อนุญาต และไม่เห็นด้วยกับการเลือกเรียนดนตรีในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เจอกันเยอะมาก โดยเฉพาะกับบ้านคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศเรา

ปราการ 3 ข้อนี้ ที่คุณต้องผ่านให้ได้ถ้าคุณอยากจะมาสู่เส้นทางสายนี้ ซึ่งไม่ใช่เงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน และในหลายๆครั้งก็ทำให้คุณต้องเลือกเส้นทางอื่น แต่ตัวคุณก็รู้อยู่แก่ใจลึกๆว่า สักวันจะหาทางกลับมาทำความฝันให้สำเร็จให้ได้

ปัญหาคลาสสิคที่เด็กบ้าดนตรีเจอกันกันแทบทุกบ้าน

ปัญหาที่คุณเจอ ก็คือสิ่งเดียวกับที่ผมเจอมาก่อน สมัยก่อนที่จะมาทางดนตรีเต็มตัว ผมก็เป็นเหมือนคนอื่นๆนี่แหละครับ คือเป็นบ้านคนไทยเชื้อสายจีน ชนชั้นกลาง ที่ที่บ้านไม่ได้สนใจในการส่งลูกเรียนดนตรีมาก่อน แล้วพอรู้ตัวว่าเริ่มสนใจดนตรี คือช่วง ม.ต้น ผมเคยเห็นเพื่อนเล่นเปียโนโมสาร์ทในห้องดนตรีแล้วรู้สึกทึ่งมากๆ แล้วก็รู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าอยากเป็น Composer แต่ด้วยความที่พื้นฐานที่บ้านไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับดนตรีเลย มันเลยคิดไปเองว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่พ่อแม่จะส่ง เพราะค่าเปียโนเป็นแสน กับค่าเรียนดนตรี ชม. ละ 500 ที่ไม่รู้ต้องเรียนกี่ร้อย ชั่วโมง ถึงจะเก่งได้อีก ผมก็เลยพับความคิดที่จะขอที่บ้านเรียนสิ่งนี้ไป

แต่ด้วยความคิดของเราเองว่า จะพยายามไปถึงเป้าหมายให้ได้ด้วยวิธีอื่น เลยพยายามหาเรียนคอร์สนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด ระหว่างช่วงมัธยมถึงมหาวิทยาลัย อาทิ ทฤษฎีดนตรี การแต่งเพลง กีตาร์ กลอง คีย์บอร์ด ไปจนถึงการเรียนดีเจ เรียนรีมิกซ์เพลง เรียกว่าเรียนสะเปะสะปะไปหมด และเรียนทุกอย่างที่มีให้เรียนนอกมหาวิทยาลัยตอนนั้น

และพอจะเข้ามหาวิทยาลัยผมก็ตามสูตรสามข้อที่บอกข้างต้นเลยครับ ไม่ได้เลือกเรียนคณะดนตรี แต่ไปเลือกเรียนสิ่งที่คิดว่ามีงานทำ และน่าจะหาทางพลิกมาทางดนตรีได้ (เพราะเชื่อผู้ใหญ่ และคิดไปเองว่าการเรียนนิเทศจะทำให้ได้ทำงานในค่ายเพลง) ในกรณีของผมคือ ข้อแรก เรื่องเงิน ผมคิดไปเองว่าไม่ผ่าน เพราะไม่เคยคุยกับที่บ้าน ข้อ 2 ก็เป็นเรื่องที่ผมดันเชื่อผู้ใหญ่ที่ปลูกฝังมาแบบนี้ และข้อ 3 ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดไปเองอีกว่าที่บ้านน่าจะไม่โอเค และจากการคิดไปเองทั้งหมด ทำให้ผมไม่ได้มองเรื่องการเตรียมตัวเข้าสอบดนตรีเลย และเลือกเส้นทางนี้มา

แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งในชีวิต หลังจากเรียนตรีจบใบแรก และผมได้เรียนดนตรีแบบสะเปะสะปะมาถึงจุดหนึ่งที่ เรียนกี่ที่ๆก็ซ้ำๆกัน และไม่มีอะไรใหม่แล้ว ผมกลับพบทางตันในเรื่องดนตรี คือการเรียนคอร์สเล็กๆพวกนี้ มันไม่สามารถทำให้ผมไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ และคำพูดผู้ใหญ่ที่เค้าเป็นห่วงเรา เลยแนะนำว่าให้เรียนอย่างอื่นแล้วเรียนดนตรีข้างนอก มันอาจจะเหมาะกับคนที่แค่ชอบดนตรีเป็นงานอดิเรก แต่มันไม่ตอบโจทย์ชีวิตเราที่หายใจเข้าออกเป็นดนตรี และมีเป้าหมายอยากเป็น Composer , Producer เพราะผมชอบฟังเพลงต่างประเทศที่ทำยาก และสกิลตอนนั้นทำเพลงอย่างที่ต้องการไม่ได้ซักที และหาทางไม่เจอแล้ว

หลังจากนั้น ผมค่อยๆมาตั้งสติว่า ทำยังไงจะไปถึงเป้าหมายได้ ผมพบว่า สิ่งที่ต้องทำต้องเรียน คือกลับมาลุยตั้งแต่เบสิคนับ 1 ใหม่ ที่เป็นวิชาดนตรีจริงๆ แบบไม่มีทางลัด นั่นคือต้องเริ่มไปฝึกเปียโนเป็นเรื่องเป็นราวใหม่เลย และสอบเข้าไปเรียนในวิทยาลัยดนตรี สาขาที่ตรงกับที่เราสนใจจริงๆ นั่นคือทางตรงที่สุด ผมตัดสินใจได้ตอนนั้นและคุยกับที่บ้านรู้เรื่อง และยังโชคดีที่ท่านเข้าใจและอนุมัติ ซึ่งมันทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า ที่จริงท่าน support ไหว และก็ไม่ได้กีดกันเรื่องดนตรี ที่ผ่านมาผมเลือกผิดเพราะผมเข้าใจไปเองทั้งหมด จากการล่อหลอมของผู้ใหญ่ในสังคม เท่ากับว่าผมเสียเวลาเดินอ้อมไปทำไมไม่รู้ตั้งกว่า 8 ปี…

ผลลัพธ์หลังจากนั้นคือ ผมซ้อมเปียโน 1 ปี เพื่อเข้าสอบวิทยาลัยดนตรีชั้นนำที่หนึ่งติด และเรียนในคณะที่ตรงกับความใฝ่ฝันจริงๆจบในเวลา 4 ปี ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ผมได้ทำเพลงอยู่ในค่ายอินดี้ค่ายหนึ่ง อยู่กับอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นศิลปินที่เป็นฮีโร่ในวัยเด็กของตัวเอง และผมมีงานโปรดิวเซอร์ทำตั้งแต่ยังไม่จบด้วยซ้ำ นั่นคือการเรียนสิ่งที่ตรงกับความสนใจของเราจริงๆ มันเปลี่ยนชีวิตผมจากคนระดับกลางๆในสายอื่น กลายมาเป็นชีวิตที่ใฝ่ฝัน เป็นโปรดิวเซอร์เป็นอาชีพมาถึงสิบกว่าปีในปัจจุบันได้

ไม่ใช่ทุกคนที่โชคดี

ในกรณีของผม ที่ยังโชคดีมีโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ผมที่เสียเวลาเดินอ้อมไปกว่า 8 ปี กว่าจะเลิกหาทางลัด เลิกเดินทางอ้อม แล้วมาเดินทางตรงอีก 5 ปี นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะมีโอกาสแบบนี้ เพราะในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกบ้านจะใจดีและเข้าใจแบบบ้านผม แต่ละคนก็มีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ยิ่งบางคนมีภาระต้องดูแลชีวิตตัวเองหรือคนรอบตัว อาจจะไม่สามารถเลือกเปลี่ยนเส้นทางมาทำแบบนี้ได้ แต่แน่นอนว่าเมื่อคุณไปใช้ชีวิตตามเงื่อนไขความจำเป็นมาสักระยะ พนันได้เลยว่า คุณจะกลับมาหาทางทำตามความฝันทางดนตรีอยู่เรื่อยๆ

และสิ่งที่คุณจะเจอก็จะเป็นประสบการณ์ที่คล้ายกับที่ผมเจอมา คือเดินทางตรงไม่ได้ เลยพยายามหาทางลัด หาคอร์สสั้นๆ นู่นนี่นั่น ลองไปเรื่อย เพื่อมาพบในปลายทางว่า ไม่ว่าจะเรียนสะเปะสะปะแบบนี้อีกสักเท่าไรก็ไปถึงฝันไม่ได้ซะที และคุณอาจจะลืมๆมันไปสักพัก และวันนึงคุณก็จะกลับมาคิดมันใหม่ วนไปแบบนี้ไม่จบสิ้นจนเหมือนเรียกได้ว่าเป็นคำสาปดนตรีที่ทำให้คุณ move on ไปไหนต่อในชีวิตไม่ได้ ซึ่งทางเดียวที่คุณจะพ้นจากมันได้ คือการกลับมาลุยกับมันให้สำเร็จ ให้รู้แล้วรู้รอดไปให้ได้ซักที

จะแก้ปัญหานี้ยังไงดี?

เหลือแค่นี้แล้วครับ จะพยายามลืมๆความฝันมันไปให้ได้ (ซึ่งยาก ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นความจำเป็นในชีวิต)
หรือเผชิญหน้ากับมัน เมื่อเราพร้อมสามารถ support ได้ จึงกลับมาเอาจริงกับมัน
หลายๆคนอาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บางคนเรียนตามที่ ที่บ้านขอจบไปแล้ว เลยขอทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้าง
บางคนอาจเคลียร์กับที่บ้านจนเค้ายอมรับและเข้าใจ เปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้ ก็โชคดีไป
บางคนอาจต้องไปทำอย่างอื่นก่อน จนเมื่อตัวเองมีเวลา มีเงิน สามารถ support ตัวเองได้ โดยไม่ต้องแคร์ที่บ้าน จึงกลับมาเริ่มกับมัน

ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว

แต่ยังไงซะ มันก็จะเกิดปัญหาโจทย์ใหม่อีกหนึ่งอย่างให้แก้ คือเรื่องเวลา

เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด

เพราะเมื่อคุณอายุมากขึ้น ภาระหน้าที่ต่างๆที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้คุณไม่ได้มีเวลาแบบเมื่อก่อน หรือถ้าคุณพ้นวัยเข้ามหาวิทยาลัยมาแล้ว ส่วนใหญ่ย่อมมีความกดดันหรือความคาดหวังจากที่บ้านให้ต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง ทำให้คุณจะไม่มีเวลาที่จะสามารถเรียน full time แบบเต็มรูปแบบ แบบมหาวิทยาลัยได้ หรือต่อให้คุณพร้อมจะเรียนแบบ full time ได้ แต่ก็ไม่ได้อยากใช้เวลาเท่าๆกับการเรียนปริญญาอีกรอบ อีก 4-5 ปี ใช่ไหมล่ะครับ เพราะมันเป็นการแลกอะไรหลายอย่างในชีวิตที่ต้องคิดหนักเหมือนกัน บอกแล้วว่ากรณีที่ผมเจอมาไม่ใช่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดเพราะมันสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นได้ เช่นเงิน แต่เวลาเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าตัวเองมีเหลืออยู่เท่าไร และมันไม่สามารถหาเพิ่มได้

ฉะนั้นเมื่อถึงวันที่คุณพร้อม support เรื่องเงินได้ ก็อาจจะติดปัญหาเรื่องเวลา ทำให้คุณต้องเลือกที่จะหาการเรียนทางเลือก ที่นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยอยู่ดี ในการเลือกเรียนแบบนี้ แน่นอนว่าคุณอาจรู้จักหลักสูตรของเราแล้ว คือ The Real Producer ที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้อยู่แล้ว แต่ต่อให้คุณไม่ได้เลือกเรียนกับทางเรา เราก็ยังอยากจะให้คุณได้ประโยชน์ และแก้ไขปัญหาที่คุณเจอได้ เราจึงได้จัดทำ คอร์ส Roadmap : The Way of Music Maker มาเพื่อให้คุณได้มีแผนที่ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าคุณต้องเรียนวิชาไหน ต้องเก็บความรู้ส่วนไหนบ้าง เป็น Checklist เพื่อทำให้คุณไปสู่ความฝันการเป็น Producer , Composer ได้

คอร์สนี้มีมูลค่า 2000 บาท แต่ผมแจกให้ฟรี! เพียงคุณกรอกข้อมูลใน link นี้

https://www.verycatsound.academy/womm2

ผมหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์จาก Content นี้และจาก คอร์ส Roadmap ที่ผมตั้งใจทำให้นะครับ


The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

  • เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
  • เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.