5 สิ่งที่ควรเลี่ยง เรียนทำเพลง

5 สิ่งที่ควรเลี่ยงในการทำเพลง สำหรับมือใหม่

Share via:

Krissaka Tankritwong

ยุคนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีนะครับที่เด็กรุ่นใหม่เริ่มจะสนใจที่จะเป็น Music Producer กันมากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเช่น อยากจะมีเพลงของตัวเอง, มีความฟังอยากจะทำยอดเยี่ยมสักครั้งนึงในชีวิต แต่บางครั้งก็ต้องเจอกับปัญหาหลายๆอย่างที่เป็นสาเหตุให้ตัวเรานั้นไม่พัฒนาสักที

ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้างที่เราควรจะเลี่ยงในการทำเพลงโดยหัวข้อที่ผมหยิบมาส่วนใหญ่นั้นจะมาจากประสบการณ์โดยตรงจากผมเลย ดังนั้นแล้วหากใครอยากจะเพิ่มเติมก็สามารถคอมเม้นท์ไว้ข้างล่างได้เลยนะครับ

1.ทำเพลงไม่จบสักที

ข้อนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญ สำหรับมือใหม่ทุกๆคน เพราะถ้าหากคุณเริ่มสร้างเพลงขึ้นมากแล้ว แต่ก็หยุดกลางทางและคิดไอเดียไม่ออก ไม่รู้จะไปยังไงต่อ สักพักหลังจากนั้นก็จะคิดไปเริ่มไปทำเพลงใหม่ดีกว่า

ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันเป็นข้อเสียที่หนักมากสำหรับมือใหม่ เพราะมันจะไม่เห็นการพัฒนาของตัวเอง และมันจะวกวนอยู่ที่เดิมและไม่ได้เรียนรู้ว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง
ซึ่งนี่ถือเป็นสิ่งที่อยากให้ยึดเป็นกฎเหล็กไว้เลยครับว่า จงทำเพลงให้จบ ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม

หลายๆคนที่เป็นแบบนี้ นั้นก็เพราะมีความเป็น Perfectionism ในตัว
Perfectionism แปลว่าคนที่รักความสมบูรณ์แบบ ซึ่งผมเข้าใจได้นะครับว่าใครๆก็อยากจะให้ผลงานของตัวเองนั้นออกมาดีเลย พอบางครั้งมันออกมาไม่ดีก็จะเกิดความเซ็ง แล้วก็ไปทำอันใหม่ดีกว่า แต่บางครั้งเราต้องเข้าใจตัวเองว่าเรายังมือใหม่ และการที่เราติดกับดัก Perfectionism อยู่มันจะทำให้ฝีมือของเรานั้นไม่ไปไหนเลย และมีแต่จะรั้งคุณภาพของเราไว้อยู่ที่เดิม

ดังนั้นแล้วคำแนะนำของผมคือ ทิ้งความเป็น Perfectionism ไปก่อนและมองการทำเพลงของเราได้ตอนนี้เป็นการฝึกฝนเพื่อให้เพลงของเราดีขึ้น เพราะฉะนั้นจงทำเพลงให้จบ ไม่ว่าจะออกมาแย่แค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ดีกว่าอยู่ที่เดิมและไม่มีการพัฒนาเลย

2.ไม่มีบาลานซ์ระหว่าง การด้น กับ ทฤษฎีดนตรี

ทำเพลงโดยด้นสด หรือก็คือปล่อยให้ตัวเราทำเพลงโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ทำไปเรื่อยๆโดยไม่พึ่งพาทฤษฏีดนตรีหรือไม่คิดอะไรเลย ปล่อยให้ไหลไปตามนั้น เดี๋ยวก็ปังเอง แต่จากปังก็จะกลายเป็นพังแทน เพราะมันจะทำให้เพลงของเรานั้นฟังออกมาแย่ถึงแย่มากๆ เพราะมันเกิดจากการที่เราไม่ได้คิดให้ดีก่อนจะเริ่มว่าต้องทำเพลงแนวไหน, อยากได้อารมย์ไหน, อยากเล่นในสเกลอะไร, Chord Progression ไหน, ต้องใช้เครื่องดนตรีอะไรบ้าง, หรือในเรื่องการเขียนเนื้อร้องโดยปล่อยไปตามอารมย์และความคิด ไม่ได้ไตร่ตรองดีๆถือความหมาย หรือคิดถึงคนที่จะสื่อไปว่าเขาจะฟังเราแล้วรู้สึกยังไงบ้าง จะทำให้เพลงของเรานั้นดูไม่มีมิติ, ไม่มีความหมาย และมันจะกลายเป็นออกมาแย่แทน และข้อเสียก็คือมันจะทำให้เราหมดไฟง่าย หรือก็คือการที่เราเริ่มไม่รู้ว่าจะต้องไปยังไงต่อ หมดไอเดียในการทำ ซึ่งจะคล้ายๆกับสาเหตุข้อแรก

ดังนั้นผมแนะนำว่าก่อนเริ่มให้ร่างกำกับเอาไว้คร่าวๆก่อนว่า เราอยากได้อะไรในเพลง-ของเราบ้างบ้าง

ส่วนในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณยึดติดกับการทำทุกอย่างตามทฤษฎีดนตรีเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเพลงที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติ และไม่จับใจคนฟัง และกลายเป็นผลไม่ดีอีกแบบ

ที่ถูกต้องคือ คุณควรจะมีบาลานซ์หรือความสมดุลย์ระหว่างสองสิ่งนี้ เมื่อทำไปเรื่อยๆและมีประสบการณ์พอจะพบว่า ไม่มีวิธีที่ถูกต้อง 100% แต่คุณจะต้องทำการปรับสมดุลย์ให้ได้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ออกมาเป็นเพลงที่สมบูรณ์และไพเราะ

3.ใช้แต่ Reference เดิมๆ เพียงอันเดียว

ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับสำหรับใครก็ตามที่เริ่มทำเพลงให้ จะหยิบ Reference เพลงที่เราชอบมาใช้ 1 อัน และจะทำตามนั้นให้ได้เป๊ะๆหรือคล้ายกัน
แต่การที่เราใช้เพียงแค่อันเดียว หรือใช้แต่ Reference เดิมๆนั้น จะทำให้เราเริ่มหมดไอเดีย และไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้แตกต่างจากของเดิมที่เราทำ นั้นก็เพราะเรานั้นฟังแต่เพลงเดิมๆตลอดเวลา จนทำให้ไอเดียของเรานั้นติดอยู่ที่เดิมๆ แต่วิธีแก้ก็ไม่ยากมากครับ นั้นก็คือการไปลองฟังเพลงใหม่ๆ หรือลองหยิบ Reference หลายๆอันมาประกอบกัน เพื่อช่วยให้เรามีไอเดียมากขึ้น และทำให้เพลงของเรามีความแตกต่างจาก Reference มากขึ้น

แต่หลายๆคนก็อาจจะติดตรงที่ไม่รู้ว่าจะไปหา Reference ที่ไหนอีก ซึ่งอันนี้ก็เกิดจากการที่เรานั้นไม่ได้มีการฟังเพลงหลากหลายแนวเอาไว้ หรือไม่มีคลังเพลงสะสมเอาไว้เลย ทางที่ดีคือฟังเพลงหลายๆแนวเอาไว้ และเก็บไว้ใน Playlist ส่วนตัวของเรา เผื่อเป็นคลังแสงไว้ใช้ในยามฉุกเฉินที่เราเริ่มหมดไอเดียครับ

4.สร้างโน้ตโดยไม่มีการ Editing

ใครที่ยังไม่รู้ว่า Editing คืออะไรผมจะบอกสั้นๆให้ครับว่า มันคือการปรับน้ำหนักของโน้ตเรานั้นเองครับ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เครื่องดนตรีของเราเล่นแล้วฟังดูเป็นธรรมชาติ ใครอยากรู้เพิ่มว่ามันช่วยอะไรได้บ้างก็สามารถเข้าไปอ่านบทความนี้ได้เลยครับ https://verycatsound.com/blog-editing/

ซึ่งการที่เราไม่ได้ Editing ตัวโน้ตเพลงนั้น มันจะทำให้เพลงของเราฟังแล้วดูแข็งๆ เพราะเรานั้นไม่ได้มีการกำหนดน้ำหนักของตัวโน้ตเอาไว้ว่าจะเล่นเบาหรือแรงแค่ไหน และมันก็ทำให้เพลงของเราที่ถึงแม้จะ Compose มาดีแล้วแต่มันก็รู้สึกเหมือนไม่เป็นธรรมชาติ ฟังแล้วแข็งไม่ลื่นดู จากดีจะกลายเป็นแย่แทนไปเลย

ดังนั้นแล้วก็พยายาม Editing สักหน่อยเพื่อให้เพลงของเรานั้นฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นก็ได้ครับ

5.หมกมุ่นกับ Mixing เยอะเกินไป

ข้อนี้ถือเป็นข้อสุดท้ายที่ใครหลายๆคนตกม้าตายมานัดต่อนัดแล้ว
เพราะมือใหม่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า “เพลงไม่ดีเพราะ Mixing แย่”
ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ

การ Mixing ถือเป็นกระบวนทำเพลงขั้นตอนเกือบสุดท้ายเลยที่เราจะไปยุ่งกับมัน
นั้นแปลว่า Mixing จะออกมาดีได้ ก็ต่อเมื่อเราทำเพลงของเราออกมาดีก่อนหน้าแล้วในขั้นตอน Composing และ Arranging

การที่เราไป Mixing มั่วๆเลย โดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันจะทำให้เพลงของเราออกมาแย่กว่าเดิมมาก เช่นใช้ Reverb เยอะเกินไป, ไปปรับ EQ เยอะเกิน, แย่สุดก็คืออาจทำให้เพลงของเราฟังดูไม่ได้เลยครับ ฉะนั้นระวังก่อนที่จะมิกซ์ ถ้าคุณพบว่าเพลงมันไม่เพราะหรือไม่ดีมาก่อนอยู่แล้ว ปัญหาที่ควรจะแก้อาจจะไม่ใช่เพราะเรื่องมิกซ์เสมอไป

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ เพลงมันไม่เพราะมาก่อนที่มันจะมามิกซ์ มันคือการที่เราเลือกเสียงตัวโน้ตของเครื่องดนตรีแต่ละเครื่องออกมาไม่เพราะ ไม่กลมกล่อม ไม่เข้ากับดนตรีตัวอื่นๆ หรือเพลงของเราต่างหากครับ ดังนั้นแล้วทางที่ดีเราควรจะไปปรับแก้ที่ตัวโน้ตของแต่ละเครื่องดนตรีก่อน ว่าทำยังไงให้มันเพราะได้ก่อนที่จะมิกซ์ อาทิ ปรับแก้โน้ตให้มีความเข้ากันของ melody , chord , harmony ปรับความดังเบาของแต่ละโน้ต และไป Editing โน้ตของเราให้มีความสมจริง หรือแก้ที่ใส่อะไรเพิ่มเติมให้เกิด Groove เกิดจังหวะจะโคนที่ลงตัว ซึ่งจะช่วยให้เพลงเขาเราน่าฟังมากขึ้นกว่า Mixing แน่นอนครับ ซึ่งควรผ่านขั้นตอนนี้ก่อนจนเรียบร้อย จึงค่อยไปเข้าสู่กระบวนการมิกซ์ ที่ไม่ว่าจะทำเองหรือถ้าอยากตัดช่องน้อยแต่พอตัว ก็ไปจ้าง Sound Engineer มาทำหน้าที่ Mixing & Mastering แทนเราเองก็ได้ครับ โดยข้อสรุปก็คือ คุณเป็น Producer , Composer มีหน้าที่ใส่ใจกับความไพเราะสวยงามของดนตรีมากกว่าการ Mix จงใส่ใจให้ถูกจุด อย่าหมกมุ่นกับการ Mix เยอะจนเกินไป

The Real Producer

ถ้าใครกำลังอยู่ในระหว่างเริ่มต้น แล้วมองหาหลักสูตรเรียนทำเพลง ทำดนตรี ที่สอนทุกอย่าง ลองดูหลักสูตร The Real Producer ของเราได้ครับ
มีสอนทุกอย่างที่ได้กล่าวไป ตั้งแต่เริ่มตจ้นไปจนระดับลึก ติดต่อแอดมินทางไลน์ @verycatacademy หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก link ด้านล่างสุดท้ายบทความได้ครับ

—————————

VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
โทร. 0856662425

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.