สำหรับใครหลายคนที่อาจเคยมีอาการนี้ คือหลับฝันอยู่ แล้วได้ยินเพลงในฝันนั้น ซึ่งบางทีเพราะมาก แล้วพอตื่นขึ้นมา เรากลับพอจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่พอลองนึกๆดู เพลงๆนั้นมันไม่มีอยู่ในความเป็นจริงนี่หว่า นั่นแปลว่า ที่จริงแล้วเพลงๆนั้นมาจากสมองเราเอง หรือเราแต่งเองในเวลาชั่วพริบตา ตอนที่เราหลับไม่ได้สติ ใช่หรือไม่?
นี่อาจเป็นอาการที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยถ้าคุณลองค้นหาคำว่า Musical Dream จะพบว่า คนที่มีอาการแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับคนดนตรี นักแต่งเพลง หรือศิลปิน มากกว่าคนที่ไม่ได้มาทางสายนี้หลายเท่าตัว
ในขณะที่เราหลับแล้วฝัน สิ่งที่เกิดขึ้นในฝันเรา มันเกิดจากการที่ทั้งจิตสำนึก (Concious Mind) และจิตใต้สำนึก (Subconcious Mind) ทำงานสอดประสานกัน แล้วประมวลผลออกมา โดยที่ตามปกติแล้วตอนที่เราตื่น มันแทบจะเป็น Conciousness อย่างเดียวซะส่วนมาก มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า แท้จริงแล้ว สมองเรามีความสามารถสูงมาก แต่ตอนที่เราตื่น และใช้จิตสำนึกปกติ เราดึงความสามารถมันออกมาใช้ได้น้อยนิดมากๆ แต่ในทางกลับกัน เมื่อเราสามารถใช้สมองส่วน Subconcious มาใช้งาน จะพบกับอัจฉริยะภาพที่ซ่อนอยู่ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเรามีมัน
มีหลายทฤษฎีว่าด้วยอาการนี้ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง บ้างว่าคล้ายกับการทำงานของ AI ที่เกิดจากการประมวลผลและเลียนแบบข้อมูลมหาศาลที่มีอยู่ในหัวของเราทั้งหมด นั่นหมายถึง มันประมวลผลจากเพลงที่เราเคยฟัง และความรู้ทางดนตรีทั้งหมดที่เรามี ออกมาเป็นผลลัพธ์รวมออกมาโดยการสุ่ม หรือบ้างก็ว่า มันเกิดจากการเลียนแบบสิ่งที่คุ้นเคยหรือเพลงที่เราคุ้นๆมาโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ ก็มีการตีความอาการนี้ไปในแนวทางอื่นๆ อาทิ ในทางโหราศาสตร์ก็มีบางความเชื่อว่าที่ว่า การฝันแล้วได้ยินเพลงหมายถึงจะได้พบความสัมพันธ์ครั้งใหม่ หรือทางจิตวิทยาก็อาจจะไม่ได้สรุปอะไรให้เราไปมากกว่า เราหมกมุ่นเรื่องนั้นค่อนข้างมากในเวลาที่เราตื่น หรืออีกความเชื่อคือ เรื่อง Akashic Record หรือบันทึกนภา ที่เป็นอีกทฤษฎีที่บอกว่า ในระหว่างหลับ ตัวเราได้เชื่อมจิตเข้ากับ อากาศานุกรม (ความรู้สากลของทั้งมวลมนุษย์ที่อยู่บนอากาศ) และได้ download เพลงๆนั้นลงมาในสมองตอนนั้น
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด สิ่งที่สามารถบอกได้เลาๆแน่ๆเลย คือ “คุณมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว”
ผลงาน Masterpiece หลายชิ้นในโลกนี้ มาจากศิลปินได้ยินในฝัน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จากประสบการณ์ส่วนตัว มีอยู่บ่อยครั้งเหมือนกันที่เกิดจากการนำ source ที่เกิดขึ้นในฝัน มาพัฒนาต่อจนเป็นเพลงที่สำเร็จ และมันมักจะเป็นผลงานที่ดี มีศิลปินและนักแต่งเพลงมากมายที่เคยฝันเป็นเพลง และจำนวนไม่น้อยในนั้นที่ตื่นมาแล้วจำได้ และรีบจดบันทึกมันไว้ และสร้างออกมาเป็นผลงานเพลงจริงๆให้เราได้ฟังกัน ซึ่งตัวอยางเพลงต่อไปนี้ก็คือเพลงดังระดับโลก ได้แก่ Yesterday ของ The Beatles ที่แต่งโดย Paul Mccartney นั่นเอง
เพลงที่เกิดขึ้นในฝัน ส่วนมากมันจะเพราะมาก มากเกินที่ตัวเราตอนตื่นจะคิดได้ แต่งได้ บางทีมันสวยงามมาก เพราะมากจริงๆ จนเรารู้สึกว่า เราอยากเอามันออกมาทำให้เกิดขึ้นในความเป็นจริง และนี่เป็นหลายๆเคสที่คนที่มีวิญญาณศิลปินอย่างคุณหลายคนเจอ นั่นคือ “จำไม่ได้แล้ว” กับ “ไม่สามารถบันทึกออกมาได้”
ทำยังไงดีถ้าฝันเป็นเพลงที่เพราะ แต่ตื่นมาจำไม่ได้
ไอ้จำไม่ได้นี่ มันแก้ไม่ยากครับ ก็แค่จดไว้ให้ทัน ผมยกตัวอย่างหลายๆครั้งที่ผมมีอาการนี้ พอมันเกิดขึ้นซ้ำๆ จนเริ่มจับทางได้ พอเราตื่นมาก็จะรีบเอาปากกาดินสอมาจดมันไว้ หรือถ้ามันเป็นทำนอง แล้วเราไม่ถนัดที่จะจด ก็อาจจะเอาโทรศัพท์หรือเครื่องบันทึกเสียงมากดอัดเมโลดี้ที่เราพอจะจำได้ ฮัมมันออกมา บางทีโชคดีหน่อยผมจำได้หลายส่วน จำเมโลดี้หลักได้ พอจำเบสหรือคอร์ดได้ พอจำไลน์บางไลน์ได้ ก็จะฮัมทำนองนั้น อัดมันทีละครั้ง เป็นทีละไลน์ แล้วเดี๋ยวตอนเรากลับมาฟังใหม่ เราจะพอรู้ของเราเองว่า ไอ้นี่มันไลน์อะไร และประกอบกันยังไง
แต่ปัญหาคืออีกข้อหนึ่งมากกว่า คือการที่คุณได้ยินมันแล้ว แต่ “ไม่สามารถบันทึกมันออกมาได้” อันนี้แหละปัญหาใหญ่ สาเหตุมันเพราะอะไร ทำไมกันล่ะ?
คุณอาจได้ยินสิ่งที่เพราะมาก แต่เพราะคุณไม่ได้รับการฝึก Ear Training มาอย่างดีพอ หรือปกติเป็นคนร้องเพลงเพี้ยน และไม่สามารถเลียนแบบเสียงที่ตัวเองได้ยินออกมาได้เหมือน ทำให้ตอนที่หยิบเครื่องบันทึกเสียงออกมาอัดเสียงไว้ คุณร้องไม่เหมือนกับที่คุรได้ยินในฝัน อันนี้ปัญหาใหญ่เลยครับ สกิลการฟังหรือร้องเพลงออกมาให้ตรงโน้ต แม่นโน้ต เป็นสกิลพื้นฐานสำหรับการเป็นศิลปินหรือโปรดิวเซอร์ ถ้าคุณพบว่าคุณเข้าข่ายข้อนี้ คงต้องใช้เวลาฝึกฝนกับมันค่อนข้างมากหน่อย ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้เรียนหรือเข้าใจเรื่องตัวโน้ตมาก แต่เผอิญร้องเพลงดี ร้องเพลงไม่เพี้ยน แม่นตัวโน้ตมาด้วยสัญชาติญาณ แบบนี้ก็มีครับ
การที่คุณฟังเพลงแล้วสามารถรู้ได้ว่า นั่นคือโน้ตอะไร อันนี้เป็นสกิลที่พัฒนาต่อมาจากการฝึกประสาทหู หรือ Ear Training มาถึงระดับหนึ่ง ถ้าคุณได้ฝึกสิ่งที่เรียกว่า Solfege มันจะทำให้คุณเริ่มฟังออกว่า โน้ตที่ยินนั้นคือโน้ตอะไร เป็นสมาชิกที่เท่าไรบนสเกล บนคอร์ด ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดสำหรับการแต่งเพลง หรือการเป็น Composer , Producer เพราะเวลาคุณได้ยินดนตรี หรือทำนองอะไร คุณจะจับได้ไวมาก ว่ามันคืออะไร มีการเรียงตัวของโน้ตแบบไหนบ้าง และทีนี้โน้ตที่คุณได้ยินในฝัน ก็จะถูกจดจำและเอาออกมาบันทึกได้ง่ายและถูกต้อง แม่นยำได้มากขึ้นอีก ข้อนี้ไม่ใช่ requirement เหมือนข้อแรก แต่เป็นส่วนที่ช่วยมากๆ ในการสร้างเพลงที่ไวขึ้น และมันอาจเกิดขึ้นได้เอง ถ้ามีการเรียนรู้อย่างถูกต้องตามระบบ และผ่านประสบการณ์หรือชั่วโมงบินที่เยอะมากพอ
คุณอาจเล่นหรือทำดนตรีโดยเพียงแค่สัญชาติญาณอย่างเดียว แต่ไม่รู้ mechanic หรือกลไกของมัน ว่าแต่ละส่วนคืออะไร และประกอบกันยังไง ทำให้เวลาคุณได้ยินเพลงหรือทำนองอะไร ไม่สามารถ Analyze ได้ว่า มันคืออะไร เรียกว่าอะไร มีการเรียงตัวอย่างไร ซึ่งที่จริงแล้วเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาตัวเองในสายนี้ในระยะยาว เพราะสกิลคุณจะพัฒนาได้ช้ามาก หากขาดความเข้าใจในองค์รวม คุณควรศึกษาทฤษฎีดนตรี และการแต่งเพลง การเรียบเรียงดนตรีเพิ่ม เพื่อให้เข้าใจเพลงทุกแบบให้ได้ก่อน มิเช่นนั้นคุณจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ไอ้ที่ได้ยินในฝันมันคืออะไร และก็ไม่สามารถเอามันออกมาได้
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีวิญญาณศิลปินอยู่ในตัว และอยากเอาเพลงที่ได้ยินในฝัน หรือแม้แต่เพลงที่จินตนาการอยู่ในหัว ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้ได้ และคุณคลั่งดนตรีมากพอที่จะพยายามทำสิ่งนั้น หลักสูตร The Real Producer มีไว้เพื่อคนที่มีฝันเป็นดนตรีอย่างคุณครับ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อคนที่จริงจังกับอาชีพดนตรี หรือการเป็นศิลปิน เมื่อคุณเอาจริง เราก็พร้อมจะสอนแบบจริงจังให้คุณ ชีวิตเป็นของคุณ คุณ Compose มันเองได้ สนใจติดต่อได้ที่แอดมิน ไลน์ @verycatacademy หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ link ใต้โพสต์ล่างสุดนี้ได้ครับ
—————————————————————————————
.
VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy