วิถีแห่งการทำเพลง ฉบับ Musashi

วิถีแห่งการทำเพลง ฉบับ Musashi

Share via:

Krissaka Tankritwong

วิถีแห่งการทำเพลง ฉบับ Musashi

Miyamoto Musashi นักดาบไร้พ่ายในตำนาน ไม่ได้ทิ้งไว้เพียงเรื่องราวการต่อสู้อันน่าทึ่ง แต่ยังมอบ “คัมภีร์ห้าห่วง” (Go Rin No Sho – 五輪書) ตำราพิชัยสงครามที่กลายเป็นปรัชญาอมตะ ว่าด้วย “วิถี” (The Way) สู่ความเป็นเลิศ
หลายคนอาจมองว่านี่คือเรื่องของนักดาบ แต่ถ้าคุณคือคนทำเพลงที่ “เอาจริง” คุณจะพบว่าแก่นแท้ของคัมภีร์นี้ คือ “รหัสลับ” ที่ใช้ปลดล็อกศักยภาพของคุณได้อย่างน่าทึ่งไม่แพ้กัน เพราะ “วิถีแห่งดาบ” กับ “วิถีแห่งดนตรี” นั้น มีรากฐานเดียวกันคือ การฝึกฝน, กลยุทธ์, และความเข้าใจในธรรมชาติของสรรพสิ่ง
ลองมาถอดรหัสคัมภีร์ทั้งห้าห่วงในบริบทของโปรดิวเซอร์ยุคใหม่กันครับ

  1. คัมภีร์ดิน (地之巻 – Chi no maki): รากฐานที่มั่นคง

มุซาชิกล่าวว่า คัมภีร์ดินคือการเข้าใจ “วิถี” อย่างตรงไปตรงมา การรู้จักเครื่องมือ, การวางแผน, และการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง เปรียบเสมือนการรู้จักผืนดินที่คุณยืนอยู่ก่อนจะสร้างสิ่งใด

  • สำหรับโปรดิวเซอร์: นี่คือการกลับไปที่ “แก่น” ที่สำคัญที่สุด:
    • เข้าใจภาษาดนตรี: ไม่ใช่แค่การจำคอร์ดเท่ๆ แต่คือการเข้าใจ ทฤษฎีดนตรี (Harmony) อย่างลึกซึ้ง ว่าทำไมคอร์ดนี้ถึงให้ความรู้สึกแบบนี้ จังหวะแบบไหนที่สร้างพลังงาน
    • รู้จักเครื่องมือของคุณ: ไม่ใช่แค่การมี DAW หรือปลั๊กอินราคาแพง แต่คือการรู้จักมัน “ทะลุปรุโปร่ง” เหมือนดาบในมือ คุณต้องรู้ว่าเครื่องมือแต่ละชิ้นทำอะไรได้บ้าง และจะใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร
    • วางแผนกลยุทธ์: การทำเพลงไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ แต่ต้องมี “แผน” คุณต้องรู้ว่าเพลงนี้จะเล่าเรื่องอะไร จะสร้างอารมณ์แบบไหนตั้งแต่ต้นจนจบ
      รากฐานที่ไม่มั่นคง ไม่สามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้ 🌳

2. คัมภีร์น้ำ (水之巻 – Sui no maki): ความยืดหยุ่นและการไหลลื่น

    น้ำสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงไปตามภาชนะ มุซาชิสอนว่าจิตใจและเทคนิคต้องยืดหยุ่นและไหลลื่นเหมือนน้ำ สามารถปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้

    • สำหรับโปรดิวเซอร์:
      • เทคนิคที่กลายเป็นธรรมชาติ: คุณต้องฝึกฝนเทคนิคการเล่นดนตรี, การเรียบเรียง, หรือการใช้โปรแกรม จนมันกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของร่างกาย” สามารถหยิบใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องคิด
      • ความสามารถในการปรับตัว: โลกของดนตรีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับโจทย์ที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะต้องทำเพลงป๊อป, ร็อก, แจ๊ส หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
      • Workflow ที่ไหลลื่น: กระบวนการทำงานของคุณต้องไม่มีสะดุด สามารถเปลี่ยนไอเดียในหัวให้กลายเป็นเสียงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
        จงเป็นเหมือนน้ำ ที่อ่อนแต่แข็งแกร่ง ปรับตัวได้แต่ไม่สูญเสียแก่นแท้ 💧

    3. คัมภีร์ไฟ (火之巻 – Ka no maki): จังหวะและความเข้มข้น

      ไฟคือพลัง, ความร้อนแรง, และการตัดสินใจที่เฉียบคมในสนามรบ มุซาชิเน้นย้ำเรื่องจังหวะ, การอ่านสถานการณ์, และการโจมตีอย่างแม่นยำ

      • สำหรับโปรดิวเซอร์:
        • การควบคุม Dynamics: เพลงที่ดีไม่ใช่แค่เสียงดังตลอดเวลา แต่คือการควบคุม “ความดัง-เบา” (Dynamics) เพื่อสร้างอารมณ์และความน่าสนใจ คุณต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะ “จุดไฟ” ให้เพลงลุกโชน และเมื่อไหร่ควรจะ “ผ่อนไฟ” เพื่อสร้างความรู้สึก
        • จังหวะและเวลา (Timing): ไม่ใช่แค่จังหวะของดนตรี แต่คือ “จังหวะ” ในการนำเสนอไอเดีย การรู้ว่าควรจะใส่เสียงอะไรเข้ามาตอนไหน หรือควรจะ “เงียบ” เมื่อไหร่ เพื่อสร้างอิมแพ็คสูงสุด
        • การตัดสินใจที่เฉียบคม: การ Mix หรือ Master คือสนามรบของเสียง คุณต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะเน้นเสียงไหน จะตัดเสียงไหนทิ้ง เพื่อให้ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาทรงพลังที่สุด
          จงควบคุมไฟในเพลงของคุณ ให้มันเผาไหม้ในจังหวะที่ถูกต้อง 🔥

      4. คัมภีร์ลม (風之巻 – Fū no maki): การรู้จักผู้อื่น (แต่ไม่ตาม)

        ลมพัดผ่านไปทั่ว ทำให้เรารู้จักสภาพแวดล้อม มุซาชิสอนให้รู้จักแนวทางของสำนักดาบอื่นๆ ไม่ใช่เพื่อลอกเลียน แต่เพื่อเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อน และนำมาปรับใช้กับวิถีของตน

        • สำหรับโปรดิวเซอร์:
          • ศึกษาแนวเพลง (Genre Study): คุณต้อง “ฟัง” และ “วิเคราะห์” ดนตรีแนวอื่นๆ อย่างลึกซึ้ง เข้าใจว่าทำไมเพลง Rock ถึงให้ความรู้สึกแบบนี้ ทำไมเพลง Jazz ถึงใช้คอร์ดแบบนั้น ไม่ใช่แค่การฟังผ่านๆ
          • เรียนรู้จากผู้อื่น: ศึกษาเทคนิคของโปรดิวเซอร์ที่คุณชื่นชอบ ไม่ใช่เพื่อ “ก๊อปปี้” ซาวด์ของเขา แต่เพื่อ “เข้าใจ” วิธีคิดเบื้องหลัง แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในแบบของคุณเอง
          • รู้จักตลาด (แต่ไม่ตามกระแส): เข้าใจว่าเทรนด์ดนตรีในปัจจุบันเป็นอย่างไร แต่ไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่ตามทุกเทรนด์ จงยืนหยัดในแนวทางของตัวเอง แต่ก็รู้เท่าทันโลกรอบข้าง
            จงเป็นเหมือนลม รู้จักทุกทิศทาง แต่ยังคงพัดไปในเส้นทางของตน 💨

        5. คัมภีร์ความว่างเปล่า (空之巻 – Kū no maki): เหนือกว่ากระบวนท่า สู่ความเป็นอิสระ

          ความว่างเปล่าไม่ใช่ความไม่มีอะไร แต่คือสภาวะที่จิตใจเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับรูปแบบ, เทคนิค, หรือ “สำนัก” ใดๆ เป็นการเข้าถึงแก่นแท้ของ “วิถี” อย่างเป็นธรรมชาติ มุซาชิเตือนเสมอว่า “การยึดติดกับกระบวนท่าแบบใดแบบหนึ่ง หรือสำนักใดสำนักหนึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก” เพราะมันคือการจำกัดตัวเองและปิดกั้นการเติบโต

          • สำหรับโปรดิวเซอร์:
            • สภาวะลื่นไหล (Flow State): คือจุดที่คุณทำเพลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทคนิคทั้งหมดกลายเป็นเรื่องรอง ไอเดียไหลออกมาอย่างอิสระ คุณไม่ได้ “คิด” แต่คุณ “เป็น” ดนตรี
            • สัญชาตญาณ (Intuition): เมื่อรากฐานของคุณแน่นพอ (คัมภีร์ดินสมบูรณ์) คุณจะเริ่มตัดสินใจทางดนตรีจาก “ความรู้สึก” หรือสัญชาตญาณได้ ซึ่งบ่อยครั้งมันคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เหนือกว่ากฎเกณฑ์หรือ “สูตรสำเร็จ” ใดๆ
            • การทำลายตัวตน (Transcending Identity): นี่คือจุดสูงสุดของการไม่ยึดติด คุณไม่ได้มองตัวเองว่าเป็น “โปรดิวเซอร์สาย Rock” หรือ “เซียน Mix Master” อีกต่อไป แต่คุณคือ “ผู้สร้างสรรค์” ที่หยิบยืมเครื่องมือและเทคนิคต่างๆ (ไม่ว่าจะมาจากสำนักไหนก็ตาม) มาใช้ได้อย่างอิสระตามความเหมาะสมของ “เพลง” นั้นๆ โดยไม่ถูกจำกัดด้วย “ป้าย” ที่คุณเคยแปะให้ตัวเอง คุณกล้าที่จะทดลอง, กล้าที่จะผิดพลาด, และกล้าที่จะทำในสิ่งที่แตกต่างจาก “สำนัก” ที่คุณเคยเรียนรู้มา
            • ความเป็นตัวตนที่แท้จริง (Authenticity): เมื่อคุณไม่ยึดติดกับรูปแบบภายนอก คุณจะสามารถเข้าถึงและแสดงออกซึ่ง “แก่นแท้” ภายในของคุณได้อย่างบริสุทธิ์ ผลงานที่ออกมาจึงเป็น “ของคุณ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การผสมผสานเทคนิคที่เรียนรู้มา
              เมื่อคุณเข้าถึงความว่างเปล่า คุณจะไม่ได้แค่ทำเพลง แต่คุณจะกลายเป็นดนตรี ที่ไหลลื่นและไร้ขีดจำกัด ✨

          บทสรุป: วิถีแห่งโปรดิวเซอร์ คือวิถีแห่งการไม่ยึดติด

          “คัมภีร์ห้าห่วง” ไม่ใช่แค่ตำราสอนฟันดาบ แต่มันคือปรัชญาแห่งการฝึกฝนและการพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศในทุก “วิถี” การทำเพลงก็เช่นกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์หรือเทคโนโลยี แต่มันคือการเดินทางที่ต้องอาศัยรากฐานที่มั่นคง (ดิน), ความยืดหยุ่น (น้ำ), การตัดสินใจที่เฉียบคม (ไฟ), การเรียนรู้จากผู้อื่น (ลม), และสุดท้ายคือการเข้าถึงแก่นแท้ที่อยู่เหนือเทคนิค (ความว่างเปล่า)

          และบางที… บทเรียนที่สำคัญที่สุดที่มุซาชิทิ้งไว้ให้เรา อาจไม่ใช่เทคนิคการใช้ดาบ แต่คือคำเตือนถึง “อันตรายของการยึดติด” ไม่ว่าจะเป็นการยึดติดในแนวเพลง, ในเทคนิค, ในเครื่องมือ, ใน “สำนัก” ที่เราเรียนรู้มา หรือแม้กระทั่งใน “ตัวตน” ของเราเอง

          ความเป็นเลิศที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการสะสมกระบวนท่า แต่เกิดจากการฝึกฝนจนเข้าใจแก่นแท้ แล้วก้าวข้ามกระบวนท่าเหล่านั้นไปสู่ความเป็นอิสระ
          การจะเดินบน “วิถี” นี้จนถึง “ความว่างเปล่า” ไม่ใช่เรื่องง่าย มันเรียกร้องการฝึกฝนอย่างถูกทิศทางและการชี้นำที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณไม่หลงทางไปกับการสะสม “เทคนิค” ที่เป็นเพียงเปลือกนอก

          และนี่คือเหตุผลที่ VERY CAT ACADEMY ถูกสร้างขึ้นมา… เราไม่ได้สอนแค่ “กระบวนท่า” การใช้โปรแกรม แต่เราสอนให้คุณเข้าใจ
          “วิถี” ทั้งห้าห่วงอย่างลึกซึ้ง หลักสูตรของเราคือการเดินทางที่จะสร้าง “รากฐาน” (ดิน) ให้คุณแข็งแกร่ง, ฝึกฝน “ความยืดหยุ่น” (น้ำ) ในการสร้างสรรค์, สอนให้คุณ “ตัดสินใจอย่างเฉียบคม” (ไฟ) ในทุกขั้นตอน, เรียนรู้จาก “โลกภายนอก” (ลม) อย่างเข้าใจ, และท้ายที่สุดคือการนำทางคุณไปสู่ “ความเป็นอิสระ” (ความว่างเปล่า) ที่จะปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของคุณออกมา

          Leave a Comment

          ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.