5 สิ่งที่ทำให้เป็นคนทำเพลง ไส้แห้ง สรุปจากประสบการณ์ตรง
เวลาได้ยินคำว่า “อาชีพทำเพลงคืออาชีพไส้แห้ง” เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีประโยคนี้แว่บขึ้นมาในหัว หรือเคยได้ยินใครพูดผ่านหูมาบ้าง จากประสบการณ์ตรงของผม อาชีพทำเพลงคืออาชีพไส้แห้งเป็นประโยคที่ทั้งจริงและไม่จริง วันนี้เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนทำเพลงต้องไส้แห้ง ผ่าน 5 ข้อหลัก ๆ ที่เจอกับตัวเองครับ
ทุกอาชีพมันมีโอกาสที่เราจะสำเร็จและล้มเหลวทั้งหมด แต่จากประสบการณ์ตรงอาชีพดนตรีมันเป็น hardmode กว่าอาชีพอื่น ๆ หน่อย เหมือนเราเล่นเกมที่ยากตั้งแต่แรก วิธีแพ้ วิธีล้มเหลว วิธีไส้แห้ง ก็จะง่ายกว่าวิธีที่เราจะสำเร็จในอาชีพ ซึ่งถ้าใครเลือกอาชีพทำเพลงก็ต้องยอมรับส่วนนี้ให้ได้ แล้วมาดูกันว่าทำไมอาชีพนี้ถึงเป็น hardmode ทำไมมีแต่ใครบอกว่า ไส้แห้ง ผ่าน 5 สิ่งนี้กัน
เข้าใจได้ว่าคนที่เลือกทำอาชีพดนตรี มักจะมาจากความชื่นชอบในดนตรี มี passion อยากทำผลงานของตัวเอง หรืออยากมีชื่อเสียงใด ๆ ก็ตาม แต่ว่า passion อย่างเดียวมันยังไม่พอ มันต้องมาจากวินัยในการทำงานไม่ต่างจากงานอื่น ๆ รวมถึงความเข้าใจในการประกอบธุรกิจ ทำให้เราได้แต่ทฤษฎีดนตรีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจเรื่องการตลาด การตั้งราคา การประชาสัมพันธ์ หรือรู้ทันกระแสสังคมในขณะนั้น ไปจนถึงว่าอนาคตวงการดนตรีจะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราวางแผนและทำงานได้เป็นระบบเพื่อบรรลุเป้าหมายของเรา
เช่นเรื่องราคา เราต้องคิดราคาให้เหมาะสมกับหลาย ๆ อย่าง ทั้งค่าทักษะ ค่าอุปกรณ์ ค่าเวลา ค่าลงทุนในการเรียน และยังต้องสอดคล้องกับตลาดในตอนนั้นอีก ถ้าเราตั้งแพงเกินไปก็มีสิทธิที่เราจะไม่ได้งานเลย หรือตั้งถูกเกินไป ก็กลายเป็นว่าทำงานโดยไม่คุ้มค่าเหนื่อย ไม่มีความสุข ไม่สมกับ passion ที่เรามีต่อดนตรี
ยุคนี้เป็นยุคแห่งคอนเทนต์ทุกแห่งหน เรามองไปทางไหนก็เห็นคอนเทนต์เต็มไปหมด ต่อให้เรามีเพลงดีมันไม่พอให้อยู่รอดได้ มันต้องมาพร้อมกับการโปรโมทตัวเอง สร้างตัวตนของเราให้คนอื่นรู้จัก และเรานี่แหละเป็นคนสื่อสารผลงานของเรา เพราะแฟนคลับเขาไม่ได้ตามแค่ผลงานเท่านั้น แต่ตัวตนของศิลปินจะเป็นตัวยึดเหนี่ยวที่ดีที่ทำให้เขาชื่นชอบผลงานของเรา หรือเข้าใจในผลงานของเราได้มากขึ้น รวมถึงช่วยให้เขาเสิชหาเราและผลงานของเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
กว่าจะเป็นดนตรี เราต้องลงทุนกับหลายอย่าง ทั้งการเรียนดนตรีให้ได้ทักษะการทำเพลง การซื้อคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ทีนี้เราต้องเลือกใช้ในสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เราสามารถทำเพลงเป็นหรือทำเพลงได้ดีมีคุณภาพจนสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เราก่อน แต่ถ้าเราเลือกซื้ออุปกรณ์หรือปลั๊กอิน ที่อาจจะไม่จำเป็นในตอนนี้ มันจะกลายเป็นรายจ่าย ซึ่งอุปกรณ์หรือปลั๊กอินเป็นสิ่งที่ออกใหม่ทุกปี ถ้าเราตามซื้อตลอด เราจะไม่มีทางจบตรงนี้ได้เลย
เรื่องปกติ ทุกคนมีกันได้ แต่ถ้ามีมากกว่าความขยันจนไม่ยอมพัฒนาตัวเอง เราจะไม่สำเร็จในอาชีพ จริง ๆ แล้วความสมบูรณ์แบบ ความที่สุดมันไม่เคยมีอยู่จริง ยิ่งถ้าเป็นงานดนตรีที่มันมีเรื่องสไตล์ เรื่องความชื่นชอบ เรื่องกระแสนิยมต่าง ๆ ทำให้จริง ๆ เราไม่สามารถบอกได้ว่าเพลงของเราสมบูรณ์แบบแล้ว มันทำให้เราไม่รับคงามรู้ใหม่ ไม่รับการใช้เทคโนโลยีใหม่ เป็นการปิดกั้นการพัฒนาตัวเองจนเราหยุดอยู่กับที่ เราอยู่ที่เดิม เราก็รับงานได้แค่เท่าเดิม แต่ถ้าเราอยากไปได้ไกลกว่า เราก็ต้องพัฒนาให้ทำได้ดีขึ้น ทำได้หลากหลายขึ้นเพื่อให้มีงานแนวอื่น ๆ เข้ามา ต่อให้เราไม่ได้อยากทำดนตรีแนวนั้นได้ หรือใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการทำเพลง แต่เราควรรู้ไว้หน่อยว่ามันเป็นยังไง มันทำอะไรได้บ้าง
ถ้าใครพึ่งพารายได้จากการทำเพลงอย่างเดียว ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูง โดยเฉพาะใครที่ยังไม่มีชื่อเสียง มีงานเข้ามาประจำสม่ำเสมอ การที่รอแต่รายได้ตรงนี้ทำให้รายได้แต่ละเดือนไม่แน่นอน คนที่ยังรอดได้ไม่ไส้แห้ง เพราะเขากระจายความเสี่ยง อะไรได้เงินก็ทำ เช่น งานโฆษณา งานละคร ทำ sound effect รับสอนทำเพลง หรืออื่น ๆ ที่ถ้าเราทำได้ ก็ควรทำเพื่อให้เรามีรายได้อยู่รอด บางงานเราอาจจะทำไม่เป็น แต่อาจจะเป็นงานที่เราศึกษาเพิ่มอีกนิด และต่อยอดจากทักษะเดิมของเราก็สามารถทำได้ เข้าใจได้ว่าหลายคนเริ่มทำเพลงจาก passion ก็จะอยากทำแต่งานที่เราอยากทำ แต่เราต้องบาลานซ์ให้ดีกับรายได้เพื่อให้เราอยู่รอด ต้องแบ่งงานที่ทำเพื่อ passion และงานที่ทำเป็น commercial ซึ่งถ้าเรายิ่งได้ทำงานที่หลากหลาย สุดท้ายก็กลายเป็น portfolio ผลงานที่ทำให้เรามีโอกาสได้งานเข้ามาเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ
ฉะนั้น 5 สิ่งนี้จะช่วยให้เราพอเห็นแนวทางการทำเพลงเป็นอาชีพมากขึ้น แต่อย่างที่บอกว่าดนตรีเป็น hardmode มันก็มีคู่แข่ง มีโอกาส ที่ไม่เท่ากัน เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้งการทำเพลงและทักษะอื่น ๆ ที่ช่วยโปรโมทตัวเราและผลงานของเราให้เป็นที่รู้จัก หรือหารายได้อื่น ๆ มาซัพพอร์ทการทำเพลงของเราไปเลย ทั้งหมดนี้อยู่ที่การวางแผนของเรา เพื่อให้เรายังสามารถทำเพลงที่ต้องการได้ครับ
สำหรับใครที่สนใจในการทำเพลง อยากเรียนทำเพลงแบบมืออาชีพ สามารถดูข้อมูลได้ในหลักสูตร The Real Producer เรามีคอร์สที่ช่วยให้คุณทำเพลงเป็นในระดับ producer มืออาชีพ หรือถ้าอยากลองเรียนเนื้อหาต่าง ๆ บางส่วนก่อน เรามี Verycat Membership ที่คัดเอาเนื้อหาบางส่วนมาให้เรียนในทุกเดือน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ
สนใจเรียนทำเพลงอย่างจริงจังกับ VERYCATSOUND?
.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/
.
หลักสูตรเต็ม The Real Producer “ลึกและตรงประเด็น” สำหรับผู้ที่พร้อมจะไปให้สุดทาง สู่การเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพอย่างเต็มตัว
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE: @verycatsound
► โทร: 085-666-2425
#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #โปรดิวเซอร์ #artist #musicproducer #jobs