เป็นเด็กแนวมันลำบากเมื่อมาสายดนตรี
เป็นเด็กแนวมันลำบากเมื่อมาสายดนตรี
เป็นเรื่องปกติที่ทุกอาชีพต้องมีคนส่วนน้อยที่เห็นต่างสวนกระแสไปอีกทาง ซึ่งในทางดนตรีเราอาจเรียกคนเหล่านี้ว่า “เด็กแนว” จริง ๆ แล้วเด็กแนวมีอยู่แล้วในทุกยุคสมัย เพราะไม่ว่าจะยุคไหน แต่ละคนก็มีสิทธิที่จะชอบในสิ่งที่เหมือนหรือแตกต่างกันเสมอ เพียงแต่ว่าถ้าดันอยู่ในฝั่งที่เป็นส่วนน้อย ก็คงต้องยอมรับว่าไม่ง่ายเลยในการเลือกเดินบนเส้นทางดนตรี เพราะต้องฝ่าฟันสิ่งต่าง ๆ และท้าทายมากกว่าคนทั่วไป บทความนี้จึงอยากบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของการเป็นเด็กแนวที่เลือกเดินในเส้นทางดนตรี และตกผลึกความยากและความท้าทายต่าง ๆ ที่คนเป็นเด็กแนวต้องเจอ ออกมาเป็น 4 ประเด็นหลักให้อ่านกัน
- การฝึกฝนดนตรีที่ยากตั้งแต่เริ่มต้น
ต้องยอมรับว่าเด็กแนวที่ชอบเพลงอินดี้ สวนกระแส พอมาเริ่มฝึกฝนในเส้นทางดนตรี มักจะต้องฝึกฝนเพียงลำพัง เนื่องจากเพลงนอกกระแสมักจะหาฝึกได้อยากกว่าเพลงตลาด ไม่ว่าจะเป็นโน้ต คอร์ด ยิ่งถ้าเป็นในสมัยก่อนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต อาจจะต้องสั่งซื้อเพลงจากต่างประเทศ เพื่อมาฝึกฝน รวมถึงคนที่เชี่ยวชาญในแนวเพลงนี้ก็หายากกว่าทั่วไปเช่นกัน - การฝึกฝนที่อาศัยการคลำทางเป็นหลัก
จากข้อหนึ่งจะเห็นว่า ไม่มีตัวช่วยในการฝึกฝนเพลงนอกกระแสเท่าไหร่นัก การฝึกจริง ๆ มักเป็นการคลำทางมากกว่า เพราะแม้ว่าจะได้เริ่มเรียนดนตรีแล้วก็ตาม เพลงนอกกระแสก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราจะทำได้ง่าย ๆ ในการเรียนพื้นฐานเท่านั้น จึงนำไปสู่ข้อถัดไป - เพลงนอกกระแสมักใช้ความรู้ดนตรีที่ลึกซึ้ง
เพลงนอกกระแสมักมีคนเรียกว่าเป็นเพลงดีที่ไม่ดัง หรือเป็น Hidden Gem ก็ว่าได้ เพราะกว่าจะทำได้ต้องอาศัยความรู้ทางดนตรี ซึ่งอาจจะมากกว่าเพลงตลาดทั่วไป บางเพลงต้องใช้คอร์ดทาง Jazz ผสมผสานไปกับความรู้แนวอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้คนทำเพลงแนวนี้ต้องเรียนดนตรีมากกว่าแค่พื้นฐานทั่วไป - เด็กแนวมักมี “จุดยืน” ที่หา “ที่ยืน” ได้ยากในวงการ
หากเราผ่านพ้นทั้ง 3 ข้อมาได้แล้ว ก็ยังมีอีกปัญหาใหญ่คือ จุดยืนที่น้อยกว่ามาก ๆ โดยทั่วไปคนจนดนตรี หากไม่ได้มีความชอบพิเศษ หรือปักธงไว้ว่าจะทำเพลงแนวอะไร ก็สามารถไปเล่นดนตรีตามผับร้าน หรือรับสอนดนตรีได้ แต่หากเป็นเด็กแนว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ชอบเพลงตลาดทั่วไป ก็อาจจะฝืนใจเมื่อต้องไปเล่นตามร้าน และการรับสอนเพลงต่าง ๆ รวมไปถึงยากที่จะทำเพลงที่ชอบซึ่งเป็นนอกกระแสให้ดังด้วย นอกจากนี้ สมมุติว่าสามารถทำเพลงตลาดควบคู่ไปได้ ก็อาจสู้ไม่ได้กับคนที่ชอบและอินเพลงตลาดมากกว่าด้วย
จากประสบการณ์แล้ว ในการจะผ่าน 4 ปัญหาหลักนี้ไปได้ ขึ้นอยู่กับการตั้ง Mindset ในอาชีพดนตรี โดยเฉพาะการหาจุดสมดุลระหว่าง “งานที่เป็นของคนอื่น” และ “งานที่เป็นตัวตน” โดยงานที่เป็นของคนอื่น หมายถึง การทำเพลงตามบรีฟที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้าเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงโฆษณา เพลงองค์กร เพลงประกอบภาพยนตร์ หรืออื่น ๆ เราก็คงไม่สามารถใส่ความเป็นตัวตนเข้าไปได้ เพราะจะผิดกับความต้องการ ซึ่งเราอาจจะหาความพอดีที่ตัวเองสามารถทำได้โดยไม่ฝืน และยังได้รายได้กลับมาที่เพียงพอส่วนงานที่เป็นตัวตน เราอาจจะเลือกทำเป็นความชอบส่วนตัวโดยไม่ได้หวังว่าจะดังและมีรายได้กลับมา หรืออาจจะเอาไปไว้ในการสอนดนตรี สอดแทรกไปกับบทเรียนต่าง ๆ ได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า “เพลงที่ชอบ เพลงที่ดี เพลงที่ดัง” ทั้งสามอย่างนี้ไม่เหมือนกัน ในบางเพลงที่สามารถทำเงินได้ ก็ไม่ได้เป็นเพลงที่ชอบเสมอไป เพลงที่มีเทคนิคแพรวพราวก็ไม่จำเป็นว่าต้องดังเช่นกัน เพียงแค่เราต้องเข้าใจและแยกให้ออกว่า เรากำลังทำเพลงแบบไหน ทำเพลงนี้เพื่ออะไร โดยไม่พยายามที่จะเอาทั้ง 3 อย่างนี้มารวมกัน ซึ่งถ้าเราทำได้ เราก็สามารถทำเพลงโดยแยกว่าอันไหนเป็นงาน อันไหนเป็นความชอบได้อย่างสบายใจ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนทำเพลงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กปกติหรือไม่ก็ตาม ในการตามฝันบนเส้นทางดนตรีต่อไป
The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound
Tel. : 0856662425
