วิธีคิด Melody แต่ละท่อนต่างกันยังไง (Verse : Pre : Hook)

วิธีคิด Melody แต่ละท่อนต่างกันยังไง (Verse : Pre : Hook)

Share via:

Krissaka Tankritwong

วิธีคิด Melody แต่ละท่อนต่างกันยังไง (Verse : Pre : Hook)

เคยไหม แต่ง Hook ได้ แต่แต่ง Verse : Pre ไม่ออก หรือไม่ว่าจะท่อนไหน ๆ ก็ตาม ปัญหานี้เป็นเรื่องปกติของคนทำเพลง เพราะแต่ละท่อนมีหน้าที่และอารมณ์ต่างกัน เลยต้องมีวิธีคิดเมโลดี้ที่ต่างกัน Verycat จะมาแนะนำวิธีคิด melody ทั้ง Verse : Pre : Hook กันครับ

บทความนี้เราจะโฟกัสไปที่เมโลดี้ของแต่ละท่อน ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นตอนของ Songwriting ที่เริ่มแต่งทำนองเข้าด้วยกัน

หลัก ๆ แล้วเพลงทั่วไปจะมี 3 ท่อนหลัก ๆ คือ Verse : Pre-chorus : Hook หรือบางเพลงตัด Pre-chorus มีแค่ Verse และ Hook ก็เป็นฟังเป็นเพลงได้ รวมถึงบางเพลงใช้แค่เซ็ตสี่คอร์ดวนในทุก ๆ ท่อน ก็ยังสร้างความรู้สึกเป็นเพลงได้โดยที่พาคนฟังไปรู้จักกับท่อนต่าง ๆ ได้ด้วย เพราะเมโลดี้ในแต่ละท่อนสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่พาผู้ฟังไปเจอความกดดัน เจอจุดพีคและคลี่คลายลงได้ เรียกว่าใช้แค่เมโลดี้ในการสร้างสีสันของเพลงให้น่าฟังได้ แต่สำหรับมือใหม่ ก็เน้นที่การใช้เซ็ตคอร์ดที่ไม่เหมือนเดิมในแต่ละท่อน เพื่อให้รู้สึกได้ว่ากำลังเปลี่ยนท่อนก่อนได้

ทีนี้เรามาดูวิธีคิดเมโลดี้หรือทำนองหลักให้เหมาะสมกับแต่ละท่อนกัน

  1. Verse เริ่มต้นให้เรียบ แต่ชัด

Verse คือท่อนที่เปิดเรื่อง กราฟอารมณ์ของเพลงจะยังไม่สูงมาก เมโลดี้ที่ดีในท่อนนี้จึงควร เรียบง่าย ใช้โน้ตไม่เยอะ เคลื่อนที่น้อย และมีสเปซให้หายใจ เช่น การแช่โน้ตบางตัวให้นานขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศโดยไม่เร่งเร้า และสร้างเสน่ห์บางอย่างให้น่าติดตาม

  1. Pre-chorus – พัฒนา ขยับขับเคลื่อนให้น่าติดตามมากขึ้น

พอจบ Verse เพลงจะเข้าสู่ท่อนที่ปลุกอารมณ์ขึ้นอีกขั้น นั่นคือ Pre-chorus ท่อนนี้ต้องทำหน้าที่ เลี้ยงความรู้สึกจาก Verse ให้น่าติดตามขึ้น พร้อมส่งความรู้สึกให้พุ่งขึ้นไปยัง Hook ให้ได้ เมโลดี้เลยอาจจะต้องซับซ้อนขึ้น อาจจะใช้โน้ตถี่ขึ้นหรือมีการไล่ระดับของโย้ต หรือใส่จังหวะที่ตัดสลับกับสเปซเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะมา หรือกำลังจะเข้าสู่อะไรบางอย่าง

  1. Hook หรือ Chorus  จุดพีคของเพลง

Hook หรือฮุค คือท่อนที่ต้อง ปังที่สุด ฟังแล้วต้องติดหู เมโลดี้ควรขึ้นสูงกว่าท่อนอื่น ให้ความรู้สึก “ระเบิด” หรือไปถึงจุดพีค มีเทคนิคที่ช่วยให้ท่อนนี้น่าสนใจ เช่น การใช้ pickup note หรือโน้ตที่นำมาก่อนเริ่มท่อน เพื่อผลักอารมณ์ให้แรงขึ้น หรือใช้เมโลดี้ที่มีโมทีฟเด็ด ๆ อาจจะยากหรือง่ายก็ได้ แต่ต้องรู้สึกน่าสนใจ โดดเด่นจนจำได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องคอร์ดเข้ามาเกี่ยว เช่น การใช้ชุดคอร์ดที่ขึ้นต้นไม่เหมือนกับเซ็ตในท่อน Verse หรือ Hook บางช่วงมีการเติม sus4 เพื่อสร้าง passing ได้ หรือการทำ Perfect Cadence (2–5–1) ที่ช่วยพาอารมณ์ขึ้นจุดสูงสุดแล้วคลี่คลายกลับมาอย่างลงตัวได้

นี่เป็นเทคนิคการคิดเมโลดี้ในท่อน Verse : Pre : Hook ซึ่งเราจะคิดไหลไปทั้งหมดรวดเดียว หรือคิดแต่ละท่อนแล้วค่อย ๆ คิดว่าเหมาะสมในท่อนนั้น ๆ แล้วไหมก็ได้ ไม่มีวิธีการตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องจับความรู้สึกในเมโลดี้ที่คิดให้ได้ว่ามันกำลังทำหน้าที่ได้เหมาะสมกับท่อนนั้น ๆ ไหม รวมถึงเมื่อจับต่อกันแล้ว ความรู้สึกในแต่ละท่อนเชื่อมต่อกันได้อย่างสมูธ พาผู้ฟังไปยังจุดพีคและคลี่คลายได้ไหมนั่นเองครับ

สำหรับใครที่สนใจในการทำเพลงเป็นอาชีพ ที่นี่มีหลักสูตร The Real Producer ที่รวบรวมเนื้อหา เทคนิคที่จำเป็นในการทำเพลงอย่างรู้ลึกรู้จริง สามารถติดต่อผ่านแอดมินได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

The Real Producer

REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง

ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง

นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer

เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล

สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

https://line.me/ti/p/@verycatacademy

– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.