วิธีคิด Melody แต่ละท่อนต่างกันยังไง (Verse : Pre : Hook)
เคยไหม แต่ง Hook ได้ แต่แต่ง Verse : Pre ไม่ออก หรือไม่ว่าจะท่อนไหน ๆ ก็ตาม ปัญหานี้เป็นเรื่องปกติของคนทำเพลง เพราะแต่ละท่อนมีหน้าที่และอารมณ์ต่างกัน เลยต้องมีวิธีคิดเมโลดี้ที่ต่างกัน Verycat จะมาแนะนำวิธีคิด melody ทั้ง Verse : Pre : Hook กันครับ
บทความนี้เราจะโฟกัสไปที่เมโลดี้ของแต่ละท่อน ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นตอนของ Songwriting ที่เริ่มแต่งทำนองเข้าด้วยกัน
หลัก ๆ แล้วเพลงทั่วไปจะมี 3 ท่อนหลัก ๆ คือ Verse : Pre-chorus : Hook หรือบางเพลงตัด Pre-chorus มีแค่ Verse และ Hook ก็เป็นฟังเป็นเพลงได้ รวมถึงบางเพลงใช้แค่เซ็ตสี่คอร์ดวนในทุก ๆ ท่อน ก็ยังสร้างความรู้สึกเป็นเพลงได้โดยที่พาคนฟังไปรู้จักกับท่อนต่าง ๆ ได้ด้วย เพราะเมโลดี้ในแต่ละท่อนสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่พาผู้ฟังไปเจอความกดดัน เจอจุดพีคและคลี่คลายลงได้ เรียกว่าใช้แค่เมโลดี้ในการสร้างสีสันของเพลงให้น่าฟังได้ แต่สำหรับมือใหม่ ก็เน้นที่การใช้เซ็ตคอร์ดที่ไม่เหมือนเดิมในแต่ละท่อน เพื่อให้รู้สึกได้ว่ากำลังเปลี่ยนท่อนก่อนได้
ทีนี้เรามาดูวิธีคิดเมโลดี้หรือทำนองหลักให้เหมาะสมกับแต่ละท่อนกัน
Verse คือท่อนที่เปิดเรื่อง กราฟอารมณ์ของเพลงจะยังไม่สูงมาก เมโลดี้ที่ดีในท่อนนี้จึงควร เรียบง่าย ใช้โน้ตไม่เยอะ เคลื่อนที่น้อย และมีสเปซให้หายใจ เช่น การแช่โน้ตบางตัวให้นานขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศโดยไม่เร่งเร้า และสร้างเสน่ห์บางอย่างให้น่าติดตาม
พอจบ Verse เพลงจะเข้าสู่ท่อนที่ปลุกอารมณ์ขึ้นอีกขั้น นั่นคือ Pre-chorus ท่อนนี้ต้องทำหน้าที่ เลี้ยงความรู้สึกจาก Verse ให้น่าติดตามขึ้น พร้อมส่งความรู้สึกให้พุ่งขึ้นไปยัง Hook ให้ได้ เมโลดี้เลยอาจจะต้องซับซ้อนขึ้น อาจจะใช้โน้ตถี่ขึ้นหรือมีการไล่ระดับของโย้ต หรือใส่จังหวะที่ตัดสลับกับสเปซเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะมา หรือกำลังจะเข้าสู่อะไรบางอย่าง
Hook หรือฮุค คือท่อนที่ต้อง ปังที่สุด ฟังแล้วต้องติดหู เมโลดี้ควรขึ้นสูงกว่าท่อนอื่น ให้ความรู้สึก “ระเบิด” หรือไปถึงจุดพีค มีเทคนิคที่ช่วยให้ท่อนนี้น่าสนใจ เช่น การใช้ pickup note หรือโน้ตที่นำมาก่อนเริ่มท่อน เพื่อผลักอารมณ์ให้แรงขึ้น หรือใช้เมโลดี้ที่มีโมทีฟเด็ด ๆ อาจจะยากหรือง่ายก็ได้ แต่ต้องรู้สึกน่าสนใจ โดดเด่นจนจำได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องคอร์ดเข้ามาเกี่ยว เช่น การใช้ชุดคอร์ดที่ขึ้นต้นไม่เหมือนกับเซ็ตในท่อน Verse หรือ Hook บางช่วงมีการเติม sus4 เพื่อสร้าง passing ได้ หรือการทำ Perfect Cadence (2–5–1) ที่ช่วยพาอารมณ์ขึ้นจุดสูงสุดแล้วคลี่คลายกลับมาอย่างลงตัวได้
นี่เป็นเทคนิคการคิดเมโลดี้ในท่อน Verse : Pre : Hook ซึ่งเราจะคิดไหลไปทั้งหมดรวดเดียว หรือคิดแต่ละท่อนแล้วค่อย ๆ คิดว่าเหมาะสมในท่อนนั้น ๆ แล้วไหมก็ได้ ไม่มีวิธีการตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องจับความรู้สึกในเมโลดี้ที่คิดให้ได้ว่ามันกำลังทำหน้าที่ได้เหมาะสมกับท่อนนั้น ๆ ไหม รวมถึงเมื่อจับต่อกันแล้ว ความรู้สึกในแต่ละท่อนเชื่อมต่อกันได้อย่างสมูธ พาผู้ฟังไปยังจุดพีคและคลี่คลายได้ไหมนั่นเองครับ
สำหรับใครที่สนใจในการทำเพลงเป็นอาชีพ ที่นี่มีหลักสูตร The Real Producer ที่รวบรวมเนื้อหา เทคนิคที่จำเป็นในการทำเพลงอย่างรู้ลึกรู้จริง สามารถติดต่อผ่านแอดมินได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ
The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
https://line.me/ti/p/@verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound
Tel. : 0856662425