ทำเพลงเอง VS จ้างทำเพลง ดี? เอายังไงดีกับการเป็นศิลปิน

ทำเพลงเอง VS จ้างทำเพลง ดี? เอายังไงดีกับการเป็นศิลปิน

Share via:

Krissaka Tankritwong

ทำเพลงเอง VS จ้างทำเพลง ดี? เอายังไงดีกับการเป็นศิลปิน

“ทำเพลงเอง หรือจ้างโปรดิวเซอร์ดี?”
นี่คือทางแยกที่ศิลปินทุกคนต้องเจอ แต่คำตอบที่คุณมักจะได้ยิน (เช่น “ถ้ามีงบก็จ้าง” หรือ “ถ้ามีเวลาก็ทำเอง”) นั้นเป็นแค่เปลือกนอก และอาจจะนำคุณไปสู่เส้นทางที่ไม่ใช่ตัวเองเลยก็ได้
เพราะคำถามที่แท้จริง มันไม่ใช่เรื่องของ “งบประมาณ” หรือ “เวลา” แต่มันคือคำถามที่ลึกลงไปถึงแก่นแท้ของความเป็นศิลปินของคุณเอง:
“คำว่า ‘เพลง’ และ ‘ศิลปิน’ ของคุณ… มันหมายความว่าอย่างไร?”
คำตอบของคำถามนี้ต่างหาก ที่จะเป็นเข็มทิศชี้ทางที่ถูกต้องให้กับคุณ

แบบที่ 1: “สถาปนิก” ผู้ออกแบบทุกรายละเอียด (The Architect Artist)

  • นิยาม: ศิลปินประเภทนี้มองว่า “เพลง” คือผลงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบในตัวเอง ทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่เนื้อร้อง ทำนอง ไปจนถึงการเรียบเรียงดนตรีทุกโน้ต ทุกซาวด์ คือส่วนหนึ่งของ “วิสัยทัศน์” ที่ต้องออกมาจากตัวเขาเอง 100%
  • ความท้าทาย: การจะสร้างสรรค์ทุกอย่างให้ออกมา “ตรงใจเป๊ะๆ” นั้น เรียกร้องทักษะและความรู้ทางดนตรีในระดับที่ลึกซึ้งมาก (Composition, Arrangement, Production)
  • คำแนะนำที่ตรงที่สุด:
    • A (ดีที่สุด): จงเรียนให้ลึกจนทำเองได้ เพราะมีเพียงคุณเท่านั้นที่เข้าใจภาพในหัวตัวเอง การจ้างคนอื่นทำ “คิดได้เลยว่า ไม่น่าทำมาถูกใจตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์”
    • B (ทางเลือกสำรอง): เรียนให้ “รู้พอ” ที่จะกำกับได้ อย่างน้อยต้องมีความรู้ลึกพอ (Harmony, Arrangement) ที่จะ “กำกับ” โปรดิวเซอร์ที่คุณจ้าง ให้สร้างผลงานตาม “พิมพ์เขียว” ของคุณได้

แบบที่ 2: “กวี/นักเล่าเรื่อง” ผู้ฝากสารผ่านทำนอง (The Poet/Melodist Artist)

  • นิยาม: ศิลปินประเภทนี้ให้ความสำคัญสูงสุดกับ “แก่นสาร” ของเพลง นั่นคือ เนื้อร้องและทำนองหลัก ดนตรีประกอบ (Arrangement) คือ “บรรยากาศ” ที่เข้ามาช่วยเสริม ไม่จำเป็นต้องออกมาจากมือตัวเอง
  • ความท้าทาย: การหาโปรดิวเซอร์ที่ “เข้าใจ” และสามารถสร้างดนตรีที่ “รับใช้” เพลงของคุณได้อย่างแท้จริง โดยไม่ใส่ “ลายเซ็น” ตัวเองเข้ามากลบ
  • คำแนะนำที่ตรงที่สุด:
    • จ้างโปรดิวเซอร์อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า: เพราะการเรียนทำดนตรีทั้งหมดนั้น “เรียนเยอะ เรียนนาน” อาจไม่คุ้มค่า หากเป้าหมายคือการทำเพลงตัวเองไม่กี่เพลง การหาโปรดิวเซอร์ที่ใช่มาช่วยเติมเต็ม อาจมีประสิทธิภาพมากกว่า
    • (คำแนะนำเพิ่มเติม): หากคุณอยากจะเรียนรู้เพื่อพัฒนา “แก่นสาร” ของเพลงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเลือกเรียนเฉพาะศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเขียนเพลงโดยตรง เช่น การเขียนเนื้อร้อง (Creative Lyrics), การสร้างทำนอง (Melody Writing), หรือโครงสร้างคอร์ดเบื้องต้น (Basic Harmony) ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก มันจะช่วยยกระดับคุณภาพเพลงของคุณได้อย่างมหาศาล โดยไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงขั้นทำดนตรีเองทั้งหมด
    • (ข้อควรระวังเดิม): ยังจำเป็นต้องมีความรู้ทางดนตรีพื้นฐานบ้าง เพื่อสื่อสารความต้องการและประเมินผลงานได้

แบบที่ 3: “นักแสดง/ไอดอล” ผู้ถ่ายทอดบทเพลง (The Performer/Idol Artist)

  • นิยาม: ศิลปินประเภทนี้มองว่าตัวเองคือ “ผู้ถ่ายทอด” ที่จะนำบทเพลง (ซึ่งสร้างสรรค์โดยทีมงานเบื้องหลัง) มาทำให้มีชีวิตชีวาผ่านเสียงร้อง, การเต้น, การแสดงออก, และภาพลักษณ์ หัวใจสำคัญคือ “การแสดงบนเวที” (Performance) และ “ตัวตน” (Persona)
  • ความท้าทาย: การพัฒนาทักษะการร้อง/เต้น/แสดงให้อยู่ในระดับสูงสุด, การหาเพลงและคอนเซปต์ที่ “ใช่”, การสร้างฐานแฟนคลับ, และการทำงานร่วมกับทีมงานขนาดใหญ่
  • คำแนะนำที่ตรงที่สุด:
    • จ้างทำ 100% คือคำตอบเดียว (และถูกต้องที่สุด): การพยายามลงไปเรียนรู้การทำเพลงเองคือการ “เสียเวลา” และ “หลงประเด็น” พลังงานทั้งหมดควรถูกทุ่มเทไปกับการฝึกฝนทักษะการแสดงออก และการสร้างสรรค์ตัวตน
    • (คำแนะนำเพิ่มเติม): อย่างไรก็ตาม หากได้เรียนรู้พื้นฐานการเขียนเพลงไว้บ้าง ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบ มันจะช่วยให้คุณสามารถมีส่วนร่วมในการเสนอไอเดีย หรือสื่อสารกับโปรดิวเซอร์เพื่อให้เพลงออกมาตรงกับความรู้สึกและความต้องการของคุณได้ดียิ่งขึ้น

บทสรุป: ค้นหาคำตอบในตัวเอง

สุดท้ายแล้ว การจะทำเพลงเองหรือจ้างทำ ไม่ได้มีกฎตายตัว แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณนิยาม “ความเป็นศิลปิน” ของตัวเองไว้อย่างไร

  • ถ้าคุณคือ “สถาปนิก”… การลงทุนเรียนรู้ศาสตร์แห่งดนตรีอย่างลึกซึ้งคือสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • ถ้าคุณคือ “กวี”… การหาโปรดิวเซอร์คู่ใจอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า (แต่การเรียนรู้เฉพาะทางด้านการเขียนเพลงก็จะช่วยยกระดับงานของคุณได้มาก)
  • ถ้าคุณคือ “นักแสดง/ไอดอล”… จงมุ่งมั่นฝึกฝนการแสดงออก แล้วปล่อยเรื่องดนตรีให้เป็นหน้าที่ของมืออาชีพ (แต่การรู้พื้นฐานการเขียนเพลงก็มีประโยชน์)
    และสำหรับ “ศิลปิน-สถาปนิก” และ “ศิลปิน-กวี” ที่รู้ตัวแล้วว่าต้องการความรู้ทางดนตรี (ไม่ว่าจะเพื่อสร้างเอง, เพื่อยกระดับแก่นสาร, หรือเพื่อกำกับ/สื่อสารได้อย่างมืออาชีพ)… VERY CAT ACADEMY คือ “พิมพ์เขียว” และ “เครื่องมือ” ที่จะมอบศาสตร์เหล่านั้นให้คุณอย่างครบถ้วนและตรงประเด็นที่สุด เราไม่ได้แค่สอนทำเพลง แต่เราสร้างคนที่ “เข้าใจดนตรี” อย่างแท้จริง


เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
“ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง”
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy
คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE: @verycatsound

#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #musicproducer #composer #songwriter

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.