วิเคราะห์เพลง JUMP - BLACKPINK EP2 : เจาะลึก Phrygian Mode กุญแจสำคัญที่ทำให้ซาวด์ BP ไม่เหมือนใคร

วิเคราะห์เพลง JUMP – BLACKPINK EP2 : เจาะลึก Phrygian Mode กุญแจสำคัญที่ทำให้ซาวด์ BP ไม่เหมือนใคร

Share via:

Krissaka Tankritwong

วิเคราะห์เพลง JUMP – BLACKPINK EP2 : เจาะลึก Phrygian Mode กุญแจสำคัญที่ทำให้ซาวด์ BP ไม่เหมือนใคร

วิเคราะห์เพลงครั้งนี้ยังอยู่กับเพลง JUMP – BLACKPINK ถ้าใครที่ฟังเพลง BLACKPINK แล้วรู้สึกว่ามีสำเนียงเท่ ๆ แปลก ๆ อยู่เสมอ นั่นเพราะเพลง BLACKPINK ใช้สิ่งที่เรียกว่า Phrygian Mode ซึ่งมันคืออะไร และ BLACKPINK เอาไปใช้ยังไง วันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งนี้กัน

ในด้านดนตรี BLACKPINK มีสำเนียงที่แตกต่างจากอีกหลาย ๆ วงในช่วงเวลาเดียวกันมาก และยังประสบความสำเร็จ ถึงขนาดกลายเป็นมาตรฐานให้อีกหลาย ๆ วงเริ่มทำเพลงที่มีสำเนียงใกล้เคียงกัน โดยสำเนียงที่ว่าก็มาจากการใช้เมโลดี้และสเกลที่ไม่ปกติ แต่ที่เห็นกันบ่อย ๆ คือการใช้ Phrygian Mode

โดยปกติแล้วถ้าอยากให้เพลงที่ทำมีความสดใสหรือฟังง่ายก็ใช้คีย์เมเจอร์ แต่ใครอยากให้เพลงรู้สึกเท่หน่อย ให้กลิ่นที่แปลกจากเพลงทั่วไปนิดนึง ก็จะเอาคีย์ไมเนอร์มาใช้กันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าใครอยากทำเพลงแบบ BLACKPINK แต่ทำยังไง จะใช้คีย์ไหนก็ไม่เหมือนซักที นั่นเพราะ BLACKPINK จะมีการใส่คอร์ดแปลก ๆ นอกเหนือจากคีย์เมเจอร์หรือไมเนอร์นี้ นั่นคือคอร์ดจาก Phrygian Mode

อธิบาย Phrygian Mode

เพื่อให้เห็นภาพกันง่ายขึ้นจะขออธิบายโดยใช้คีย์ C เป็นหลัก โดยจะเริ่มจาก C Major และ C Natural Minor

C Major มีโน้ตดังนี้ : C D E F G A B
C Natural Minor คือเราติดแฟลตโน้ตตัวที่ 3 6 7 ซึ่งโน้ตที่ได้คือ : C D Eb F G Ab Bb

ซึ่งพอมาคอร์ดในคีย์ C และ Cm คอร์ดก็จะเปลี่ยนไปด้วย

C Major มีคอร์ดดังนี้ : C – Dm – Em – F – G7 – Am – Bdim
C Natural Minor มีคอร์ดดังนี้ : Cm – Ddim – Eb – Fm – Gm – Ab – Bb7

ทีนี้พอเป็น Phrygian Mode คือจากเดิมที่เราติดแฟลตโน้ตตัวที่ 3 6 7 ก็ให้เราติดแฟลตโน้ตตัวที่ 2 เพิ่มไปอีกตัว โน้ตที่ได้ก็จะเป็น C Db Eb F G Ab Bb ถ้าใครลองเล่นโน้ตชุดนี้ไล่เรียงไปกลับ จะรู้สึกว่าเปลี่ยนแค่โน้ตเดียว แต่สำเนียงเริ่มมีความแขก ๆ แล้ว

เปรียบเทียบ C สเกลต่าง ๆ อีกรอบ

C Major มีโน้ตดังนี้ : C D E F G A B
C Natural Minor มีโน้ตดังนี้ : C D Eb F G Ab Bb
C Phrygian มีโน้ตดังนี้ : C Db Eb F G Ab Bb

ถ้าใครสังเกต C Phrygian จะมีโน้ตเหมือน Ab Major ทั้งหมดเลย แต่เวลาเราเล่นโน้ตของ Ab Major เราก็จะเริ่มจาก Ab Bb C Db Eb F G ซึ่งถ้าเริ่มจาก Ab ก็จะให้ความรู้สึกสดใส่ เพราะมันเป็น Ab Major แต่ถ้าเราใช้เซ็ตโน้ตเดียวกัน แต่เริ่มเปลี่ยนตัวเริ่ม เปลี่ยนลำดับเซ็ตโน้ตใหม่เป็น C Db Eb F G Ab Bb หรือ C Phrygian จะสังเกตว่าเสียงที่ได้คนละความรู้สึกกันเลย นี่เป็นเสน่ห์ของ Phrygian Mode

เจาะเรื่องคอร์ดของ C Phrygian

จากชุดโน้ต C Db Eb F G Ab Bb ที่เปลี่ยนโน้ตตัวที่ 2 ให้ติดแฟลต ก็ส่งผลต่อชุดคอร์ดไปด้วย โดยจะขอเทียบจากชุดคอร์ดของ C Minor และทำให้เป็นคอร์ด 7 จะได้ดังนี้

C Minor 7th มีคอร์ดดังนี้ : Cm7 – Dm7b5 Ebmaj7 – Fm7 – Gm7 – Abmaj7 – Bb7
C Phrygian มีคอร์ดดังนี้ : Cm7 – Dbmaj7Eb7 – Fm7 – Gm7b5 – Abmaj7 – Bbm7

จะเห็นว่ามีคอร์ดที่เปลี่ยนไป 4 คอร์ด เพราะคอร์ดนั้นต้องเปลี่ยนโน้ตจากเดิมที่เป็น D ให้กลายเป็น Db ซึ่งทำให้ความรู้สึกในคอร์ดนั้น ๆ เปลี่ยนไปด้วย

ฉะนั้น Phrygian Mode จะมีคุณภาพคอร์ดเป็นดังนี้ : I – bII – bIII – iv – vø – bVI – bvii

วิธีการเอา Phrygian Mode ไปใช้งาน

  1. Diatonic Progression Chord

I – bII – iv – bVI – I หรือ Cm7 – Dbmaj7 – Fm7 – Abmaj7 – Cm7
ซึ่งในชุดคอร์ดนี้ ก็ให้ลองใส่ชุดโน้ต C Db Eb F G Ab Bb ไปด้วย ความรู้สึกที่ได้ก็จะเป็นเพลงธีม เพลงบรรยากาศ มีความรู้สึกเวทมนต์นิด ๆ 

  1. สลับ Mode ตรง ๆ

ท่อนแรกเล่น C Natural Minor โดยมีคอร์ด I – iiø– iv – bVI – I หรือ Cm7 – Dm7b5 – Fm7 – Abmaj7 – Cm7

แต่ผ่านไปสักพักเปลี่ยนเป็น C Phrygian โดยมีคอร์ด I – bII – bvii – I หรือ Cm7 – Dbmaj7 – Bbm7 – Cm7

การสลับ Mode ตรง ๆ ก็สร้างสีสันให้เพลงมีการขับเคลื่อนบรรยากาศให้เปลี่ยนไป

  1. สลับ Mode โดยใช้คอร์ดร่วมของ Mode เท่านั้น

เล่นคอร์ด I – iv – bVI – I หรือ Cm7 – Fm7 – Abmaj7 – Cm7 ซึ่งเป็นเซ็ตคอร์ดที่สามารถเป็นได้ทั้ง C Natural Minor และ C Phrygian เพราะเราไม่ได้ใช้คอร์ด 2 3 5 7 ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นคอร์ด C Natural Minor หรือ C Phrygian ทีนี้เราสามารถทำเมโลดี้ที่ตอนแรกเป็นโน้ตของ C Natural Minor และสักพักก็แอบใส่ตัว Db ซึ่งเป็นโน้ตตัวบ่งบอกความเป็น Phrygian เพื่อสร้างสีสัน เหมือนรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันเปลี่ยน แต่เราอาจจะจับไม่ได้ว่ามันเปลี่ยนจากตรงไหน เพราะมันเปลี่ยนนแค่เมโลดี้โน้ตเดียว

  1. มีคอร์ดบ่งชี้ Mode บางจุด

วิธีนี้จะคล้าย ๆ กับวิธีที่ 2 แต่มันอาจจะเป็นแค่คอร์ดเดียวของท่อนนั้น ๆ เช่น 4 คอร์ดในท่อนแรก เราเล่นคอร์ดที่ 2 เป็น Dm7b5 แต่พอเล่น 4 คอร์ดในท่อนหลัง เราเปลี่ยน Dm7b5 เป็น Dbmaj7 แทน เพื่อบอกไปเลยว่าตรงนี้คือ Phrygian

  1. วิธีอื่น ๆ อยากใช้ตอนไหนก็ใช้ บนคอร์ด Minor หรือ Minor 7th

ขอยกตัวอย่างเซ็ตคอร์ด C Natural Minor อย่าง I – iv – bVI – I หรือ Cm7 – Fm7 – Abmaj7 – Cm7

อธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ คือเวลาเราเจอคอร์ด minor ในที่นี้คือ Cm7 เราอาจจะคิดได้ว่ามันเป็นคอร์ดที่ 2 ของคีย์ Bb หรือมันอาจจเป็นคอร์ดที่ 3 ของคีย์ Ab และเลือกเอาโน้ตของคีย์นั้น ๆ มาใช้ได้เลย

ในกรณีที่เราพูดถึง Phrygian สมมุติว่าท่อนแรกเล่น C Natural Minor อย่าง Cm7 – Fm7 – Abmaj7 – Cm7 เราอาจจะเล่น Fm7 ต่อ แต่เราจะไม่มองว่ามันเป็นคอร์ด 4 ของ C Natural Minor แต่ให้มองว่าเป็นคอร์ด 1 ของ F Phrygian แทน และอาจจะต่อคอร์ดเป็น Fm7 – Gbmaj7 เพื่อให้คอร์ด Gbmaj7 เป็นตัวบ่งบอกว่ากำลังเข้า F Phrygian

วิเคราะห์ Phrygian Mode จากเพลง JUMP

ขอยกตัวอย่างจากเพลง JUMP ที่เพิ่งวิเคราะห์ไปในคลิปก่อนหน้า เพลง JUMP จะมีท่อนที่สลับจากคีย์ Gm มาเป็น G Phrygian โดยในท่อน Verse และ Pre มีคอร์ด Gm – Bb – C – Eb ซึ่งมีคอร์ด C ตัวเดียวที่เป็นคอร์ดนอกคีย์ ที่น่าจะยืมมาจากจักรวาลเมเจอร์สเกล

แต่ในท่อน Hook มีคอร์ด Gm – Ab สลับกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งท่อนนี้คือเอา Phrygian Mode มาใช้ เพราะคอร์ด Ab คือคอร์ดที่ได้จากโน้ตแฟลต 2 ซึ่งเป็นคอร์ดที่บ่งบอกความเป็น Phrygian

ทำให้เพลง JUMP มีการใช้คีย์ทั้ง G Natural Minor และ G Phrygian โดยทำให้มีความ unique ชัดเจน อย่างท่อน Verse แลพ Pre ที่ใช้ G Natural Minor ก็มีการใช้ Gm – Bb – C – Eb ซึ่ง 3 คอร์ดหลังจะเห็นว่าเป็นคอร์ดเมเจอร์ที่เล่นต่อกัน 3 คอร์ดรวด(คอร์ด C ยืมมาจากอีกสเกล) อันนี้ก็เป็นเทคนิคดนตรีอย่างหนึ่ง ที่ช่วยสร้างความ unique ของเพลง พอเล่นไปถึง Hook ที่เป็น G Phrygian เลยทำให้รู้สึกแตกต่างมากกว่าเดิม เพราะมันขยับมาจาก G Natural Minor ที่ไม่ใช่ G Natural Minor ธรรมดา แต่เป็น G Natural Minor ที่มีคอร์ด C เข้ามาด้วย

Phrygian Mode มักจะถูกใช้ในภาพยนตร์ ในเกม เพราะสำเนียงมันสร้างความรู้สึกเป็นเพลงธีม เพลงวัฒนธรรมของตัวละครหรือสถานที่ หรือดินแดนที่มีความลี้ลับ มีเวทมนต์หน่อย ๆ แต่เราจะไม่ค่อยเจอในเพลงป๊อบ มันเลยทำให้ BLACKPINK ที่เพลงเขาหยิบยก Phrygian Mode มาใช้แล้วมันน่าทึ่ง และโดดเด่นแบบ standout ออกมาจากหลาย ๆ วงในช่วงเวลานั้น

เรื่อง Mode ยังมีอะไรที่ซับซ้อนอีกมาก นอกจากนี้ ยังอยู่ที่การเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย เพราะอย่างที่บอกว่า Mode มันไม่ค่อยอยู่ในเพลงป๊อบทั่วไป ก็ต้องเลือกใช้ให้พอดี เป็นสีสันให้กับเพลงได้ ซึ่งใครสนใจเรื่อง Mode มากกว่านี้ รวมไปถึงทฤษฎีดนตรีอื่น ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหลักสูตร The Real Producer  เรามีคอร์สต่าง ๆ ที่ช่วยให้คุณเป็น producer มืออาชีพได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ


สนใจเรียนทำเพลงอย่างจริงจังกับ VERYCATSOUND?
.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/
.
หลักสูตรเต็ม The Real Producer “ลึกและตรงประเด็น” สำหรับผู้ที่พร้อมจะไปให้สุดทาง สู่การเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพอย่างเต็มตัว
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE: @verycatsound
► โทร: 085-666-2425

#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #โปรดิวเซอร์ #blackpink #jump #musictheory

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.