ครั้งที่แล้ว เราได้แนะนำ จัดเซต แนะนำอุปกรณ์ทำเพลง PHASE 1 มือใหม่เริ่มต้นเรียนทำเพลง กันไปแล้ว ( อันได้แก่ 1. Computer 2. DAWs 3. MIDI Keyboard )

ทีนี้พอเรียนหรือเริ่มทำเพลงไปได้สักระยะ อาจจะเป็นเวลา สัก 1-6 เดือน เมื่อเราทำการแต่งเพลง และเรียบเรียงดนตรี เสร็จแล้วในเฟสแรก เราจะเริ่มเข้าสู่ เฟสสอง ซึ่งจะต้องทำในขั้นตอนต่อไปที่ปกติบุคลากรที่เรียกว่า Sound Engineer เค้าทำกัน นั่นคือ การอัดเสียง Recording , Editing , Mixing และ Mastering 

หรือเมื่อผู้เรียนทำเพลง เรียนรู้มาถึงเรื่องนี้แล้ว (ซึ่งในคอร์สเรียน The Real Producer ของทาง VERY CAT SOUND จะตรงกับวิชา VCA203 : Modern Music Production ใน LV.2) เราจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ในเซตนี้ 4 ชิ้นอันได้แก่ 4. Audio Interface , Monitor Speaker , Monitor Headphone และ Condenser Microphone กันครับ

ปล. อุปกรณ์ในเซตที่แนะนำนี้ ใช้เรียนในคลาสของเรา วิชา LV.2 ได้เป็นต้นไปจนจบ LV.5 ทั้งหลักสูตรครับ

---

PHASE 2 : BEGINNER SOUND MIXING AND MASTERING

ค่าอุปกรณ์ 11000 – 80000 บาท แล้วแต่งบประมาณ

---

4. AUDIO INTERFACE

ราคา 4000 – 20000 บาท

อุปกรณ์สำหรับ แปลงสัญญาณเสียง ช่วยประมวลผลเสียง และทำการเชื่อมต่อเสียง ขาเข้าและออกจากคอมพิวเตอร์ หรือที่เราเรียกกันอีกอย่างว่า Soundcard นั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์นี้เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อ 3 อุปกรณ์ต่อไปนี้เข้าด้วยกัน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ และ feature พิเศษที่รุ่นนั้นๆมี ผมขอแนะนำว่า ถ้าเป็นมือใหม่ ใช้แค่รุ่นที่มี 2 input 2 output ไม่เกินนี้ก็พอแล้วครับ เพื่อประหยัดงบประมาณ เราจะใช้ไปอีกนานมาก และยังไม่ได้ใช้มากกว่านี้จนกว่าจะทำไปจนระดับสูง จนเป็นมือเก่าแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยพิจารณาซื้อตัวใหม่อัพเกรดครับ โดยสำหรับ Audio Interface ตัวแรกในชีวิต ผมแนะนำไม่ควรเกิน 20000 บาทครับ

---

5. MONITOR SPEAKER (ลำโพง)

ราคา 5000 – 40000 บาท

ใช้สำหรับแสดงผลเสียง หรือฟัง เสียงดนตรีที่เราทำออกมาจากคอม ได้อย่างเที่ยงตรง  โดยต้องใช้แบบพิเศษที่เค้าเรียกว่า Studio Monitor ซึ่งจะแสดงผลเที่ยงตรง ไม่ปรุงแต่งเสียงใดๆ (เรียกว่า ลำโพงเสียง Flat) ทำให้เราสามารถตกแต่งเสียงได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง โดยรุ่นที่แนะนำที่เริ่ม flat แล้วโอเค จะอยู่ที่ประมาณ เริ่มต้น 12000-13000 บาทต่อคู่ อย่าลืมเผื่อเงินไว้ซื้ออุปกรณ์เสริมนิดหน่อย อาทิ ฟองน้ำรองลำโพง หรือขาตั้งลำโพง อย่างใดอย่างหนึ่ง รวมถึงสายสัญญาณด้วย (ราคาตั้งแต่ 200 – 3000 บาท แล้วแต่งบประมาณ)

---

6. MONITOR HEADPHONE (หูฟัง)

ราคา 3000 – 12000 บาท

ทำหน้าที่เหมือนกับลำโพง ใช้สำหรับฟังเช็ครายละเอียดบางส่วนที่หูฟังไม่ได้ยินอีกที หรือฟังผลของเสียงในรูปแบบหูฟัง (ซึ่งจะให้มิติต่างจากลำโพง) และยังมีประโยชน์ในการใช้ฟังขณะอัดเสียงอีกด้วย (ตอนอัดเสียงต้องปิดลำโพง) และต้องใช้หูฟังพิเศษที่มีความ flat หรือไม่ปรุงแต่งเสียง เช่นเดียวกับลำโพง รุ่นที่แนะนำที่เริ่ม flat แล้วโอเค จะอยู่ที่ประมาณ เริ่มต้น 7000-8000 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าลำโพง

อนึ่ง ในกรณีที่มีงบจำกัด เราสามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใช้งานได้ไปก่อน ระหว่าง ลำโพงกับหูฟัง ทั้งนี้ผมแนะนำหูฟังมากกว่า เพราะใช้งานได้ประโยชน์มากกว่า แต่การฟังด้วยหูฟังเป็นระยะเวลานานๆอาจทำให้ล้าได้เวลาทำเพลง จึงควรมีทั้งสองอย่างไว้อยู่ดีครับ

---

7. CONDENSOR MICROPHONE

ราคา 3000 – 25000 บาท

ไมค์แบบเก็บรายละเอียดเสียงได้ดี ใช้สำหรับอัด หรือบันทึกเสียงร้องเป็นหลัก รวมถึงเครื่องอื่นๆได้ด้วย อาทิ กีตาร์โปร่ง ขาดไม่ได้สำหรับผุ้ที่ทำเพลงที่มีเสียงร้อง ส่วนนี้คุณภาพตามงบประมาณเลย อย่าลืมเผื่อเงินไว้ซื้ออุปกรณ์เสริมนิดหน่อย อาทิ Pop Filter สำหรับตัดเสียงลม กับ Shock Mount ที่ตั้งไมค์กันสั่น สายไมค์ และขาไมค์ด้วย (รวมๆอุปกรณ์เสริม ทั้งหมด เผื่อๆไว้อย่างถูกๆ มีตั้งแต่ 500 จนไปถึงอย่างแพง 3000 แล้วแต่งบประมาณ)

อุปกรณ์ทั้งหมดที่กล่าวมามีสารพัดยี่ห้อ และสารพัดราคามาก ตั้งแต่หลักไม่กี่พันไปจนถึงหลายแสน เพดานของราคามันจึงแตกต่างกันและสูงมากๆ ในที่นี้ผมจึงขอแนะนำแค่สำหรับมือใหม่เท่านั้นนะครับ ซึ่งพอทำเพลงไปพักใหญ่ๆ จนไม่ใช่มือใหม่แล้ว อาจจะมีความคิดที่จะอัพเกรดอุปกรณ์เหล่านี้เอาเองในราคาที่สูงขึ้นตามงบที่มี และเช่นเดียวกับเฟสแรก คือทุกอุปกรณ์สามารถหามือสองสภาพดีได้ไม่ยาก ก็ประหยัดงบลงไปได้อีกครับ อุปกรณ์เซตนี้สามารถใช้ไปได้ยาวๆ (เทียบในคลาสเรียนคือ ใช้เรียนได้จนจบ LV2-5 เลย ทั้งหลักสูตร) ปิดงานได้ ทำเป็นอาชีพได้ ทำดนตรีออกมาเป็นงานที่เสร็จได้ ตราบจนกว่าเท่าที่มันยังไม่ชำรุดเสียหาย หรือมีงบมากขึ้น ต้องการอัพเกรดคุณภาพซาวด์ให้มากกว่านี้ในอนาคต

---

ทั้งนี้ผมจัด SET มาให้ 6 SET นะครับ

---

Set A : ประหยัดสุด

ราคา 8500 บาท (ไม่มีลำโพง)

– Presonus AudioBox USB96 8000

– อุปกรณ์เสริมไมค์อย่างถูก 500

เซตประหยัดที่คุ้มค่าเม็ดเงิน และราคาดีที่สุด เพราะมีให้มาครบๆทั้ง ไมค์ Condensor , Audio Interface , หูฟัง , software โดยจะมีซื้อเพิ่มคืออุปกรณ์เสริม Mic นี่เป็นเซตมินิที่สุดที่สามารถเริ่มชีวิตการมิกซ์มาสเตอร์ของคุณได้เลยโดยราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท เหมาะกับผู้มีงบประมาณจำกัด แต่อยากเริ่มต้นได้ไวครับ

---

Set B : ประหยัดแบบครบๆ

รวม 22200 บาท

– Mackie Studio bundle 22000

– ฟองน้ำรองลำโพงอย่างถูก 200

เซตประหยัดคุ้มค่าอีกเซต ที่มีราคาสูงกว่าก็จริง แต่ก็มีของที่ครบกว่า สำหรับเผื่อใครที่จะใช้ยาวๆไปเลย เพราะสิ่งที่มีมากกว่าเซตแรก คือ ลำโพงมอนิเตอร์ และไมค์ dynamnic มาให้ด้วย เผื่อสำหรับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีเพิ่มเติมในอนาคต ใครงบประมาณจำกัด อยากได้ที่คุ้มค่าแต่ครบ ก็แนะนำครับ

---

Set C : คุ้มค่าราคา

รวม 27500 บาท (ตัดลำโพงออก เหลือ 10450)

– Focusrite Scarlett Solo Studio 9500

– KRK Rokit 5 G4 17000

– อุปกรณ์เสริมไมค์กับลำโพงรวม 1000

ถ้ามีงบประมาณเพิ่มขึ้นหน่อย เซตนี้ก็เป็นอีกเซตที่แนะนำ เพราะได้ซาวด์การ์ดที่ค่อนข้างนิยมและมาตรฐานขึ้นอย่าง Focusrite Scarlett Solo กับลำโพงมอนิเตอร์รุ่นมาตรฐานและยอดนิยม อย่าง  KRK Rokit 5 ซึ่งค่อนข้างจะสบายใจได้ว่า เป็นลำโพงสามัญประจำสตูดิโอ ใช้กันทั่ว ส่วนอุปกรณ์อย่างอื่นก็ครบ ตามมาตรฐาน นอกจากนั้น ถ้ายังไม่สะดวกซื้อทีเดียวยกเซต อาจจะตัดลำโพงออกไปก่อน เพื่อค่อยๆซื้อเพิ่มในอนาคตได้ครับ

---

Set D : คุ้มค่าได้ประสิทธิภาพๆ

รวม 38500 บาท (ตัดลำโพงออก เหลือ 21500)

– UAD Volt276 Studio Pack 20000

– KRK Rokit 5 G4 17000

– อุปกรณ์เสริมไมค์กับลำโพงรวมๆ 1500

เซตนี้สำหรับผู้ที่มีงบประมาณ กลางๆค่อนไปทางสูงหน่อย จะแนะนำซาวด์การ์ดที่มาตรฐานดีและคุ้มค่าราคาอย่าง UAD Volt276 ที่ในแพคก็มีอุปกรณ์ครบ และบวกด้วย ลำโพง KRK Rokit 5 มาตรฐานเข้าไปอีก ได้ความสบายใจว่ามีของดีและสำคัญแน่ๆ อย่างซาวด์การ์ดกับลำโพงใช้ ซึ่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมนิดๆหน่อยๆ ก็เวิร์คแล้ว และเช่นเดียวกับเซตที่แล้ว ตัดลำโพงออกไปก่อน แล้วค่อยซื้อเติมทีหลังได้ครับ

---

Set E : ประสิทธิภาพโดดเด่น

รวม 49500 บาท (ตัดลำโพงออก เหลือ 32000)

– Solid State Logic SSL2 10000

– KRK Rokit 5 G4 17000

– Beyerdynamic DT770 Pro 250 Ohm 7500

– Rode NT1-Kit 13000

– ขาตั้งลำโพง+ขาตั้งไมค์ 2000

สำหรับผู้มีงบประมาณค่อนข้างมาก และอยากอัพเกรดเลือกใช้แต่ของคุณภาพมาตรฐานครบทุกชิ้น ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นคือ หูฟังสามัญประจำทุกสตูดิโอ อย่าง DDT770 Pro , RODE-NT1 set และ sound card Solid State Logic SSL2 (ที่จริงจะเลือกเป็น UAD ก็ได้ ถ้าชอบค่ายนั้นมากกว่า) และอุปกรณ์พื้นฐานอื่นๆ ทั้งหมดนี้เรียกว่า ครบและสบายใจ และเช่นเดิมว่า ลำโพงตัดออกไปก่อนได้ ค่อยเติมทีหลัง

---

Set F : สุดในรุ่นเริ่มต้น

ราคา 67500 บาท

– Volt 276 14000

– Genelec 8010APM 30000

– DT770 Pro 250 Ohm 7500

– Rode NT2 A 14000

– ขาตั้งลำโพง+ขาตั้งไมค์ 2000

ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เซตนี้คืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดในรุ่นเริ่มต้น ทุกชิ้นซื้อแยกชิ้นหมด ไม่มี Bundle ทุกชิ้นคืออุปกรณ์ที่มาตรฐานและใช้ได้ยาวๆ มั่นใจในคุณภาพเสียงและความนิยมได้ อย่างไมค์ เป็น RODE NT2-A ที่เรียกว่าคุ้มค่าและใช้ได้ยาวมากๆ กับคุณภาพเสียงที่ดีมาก และที่โดดเด่นคือ ลำโพง Genelec 8010APM ที่ผมคิดว่า ดีที่สุดแล้วสำหรับราคาระดับเริ่มต้น และสามารถใช้ได้ไปแทบตลอดชีวิตการทำเพลง 

---

เซตเริ่มต้นนี้ สามารถหาของมือสองสภาพดีราคาประหยัดลงไปได้อีกเยอะ ตามบอร์ดหรือกรุ๊ปในออนไลน์ต่างๆ ครับ 

ส่วนใครที่อยาก Custom Set แล้วเลือก แต่ละชิ้นเอง อาทิ คอม หรือ คีย์บอร์ดใบ้ ไว้มีโอกาสผมจะนำเสนอหลักการเลือกซื้อโดยละเอียดอีกทีนะครับ

บอกไว้ก่อนว่า นี่ผมไม่ได้ค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว แต่เนื่องจากมีผู้สนใจเรียนคอร์ส THE REAL PRODUCER ถามกันเข้ามาเยอะมาก เรื่องอุปกรณ์ เลยทำไว้ตอบทีเดียวเลย น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆคนด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสำรวจราคา และวิเคราะห์ product ในตลาดสินค้าทำเพลงในไทย (สิงหาคม 2565) ด้วยมุมมองส่วนตัวของผมเองว่าเป็นเซตที่เหมาะสมและแนะนำ แต่ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าดีที่สุดแต่อย่างใด อาจมีผู้ให้ความเห็นต่างจากนี้เป็นเรื่องปกติครับ สามารถแนะนำกันเข้ามาได้

สำหรับใครที่มีงบน้อย สามารถเลือกซื้อแบบประหยัดได้ ผมอยากบอกไว้ก่อนว่า ไม่ต้องซีเรียสเรื่องอุปกรณ์มากหรอกครับว่าต้องแพง เพราะสุดท้ายมันอยู่ที่ “ฝีมือ” และ “ความคิดสร้างสรรค์” ของนักสร้างสรรค์อย่างคุณมากกว่า มีผลมากกว่าอุปกรณ์เยอะครับ

ใน Content ต่อไป เราจะมาดู อุปกรณ์ใน Phase 3 กันต่อ ว่ามีอะไรกันบ้าง อย่าลืมกด Subscribe , Like , Share ติดตามกันจะได้ไม่พลาดเนื้อหานะครับ

The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

• เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
• เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound