Beatmaker ติด Loop เดิมๆ อยากทำไลน์ดนตรีเองได้ เริ่มยังไง? | Producer Roadmap EP.5

Beatmaker ติด Loop เดิมๆ อยากทำไลน์ดนตรีเองได้ เริ่มยังไง? | Producer Roadmap EP.5

Share via:

Krissaka Tankritwong

จาก “คนวาง Loop” สู่ “ผู้สร้างดนตรี”: เมื่อ Beatmaker อยากหลุดพ้นจากวังวนเดิมๆ ต้องเริ่มยังไง? (Producer Roadmap EP.5)

.

สำหรับสาย Beatmaker หรือคนที่เริ่มต้นทำเพลงด้วยการตัดแปะ Sample มาตลอด คุณอาจจะทำบีทขายได้ คุณอาจจะสนุกกับการเลือก Loop ที่ฟังดูเท่มาวางต่อกัน แต่ลึกๆ แล้วคุณรู้ดีว่ามันมี “กำแพง” บางอย่างกั้นอยู่

.

คุณเริ่มรู้สึก “ตัน”… วนอยู่แต่กับ Loop เดิมๆ อยากแก้โน้ตตัวนั้นให้ต่ำลงก็ทำไม่ได้ อยากเปลี่ยนคอร์ดตรงนี้ให้เศร้าลงก็ติด เพราะมันเป็นไฟล์เสียงสำเร็จรูปที่เขาอัดมาแล้ว จะกดคีย์บอร์ดสร้างไลน์ดนตรีใหม่ๆ ของตัวเอง ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง กดไปก็เพี้ยน ไม่เข้าพวก

.

ถ้าคุณอยากทุบกำแพงนี้ทิ้ง อยากมีอิสระในการสร้างสรรค์แบบ 100% โดยไม่ต้องง้อ Loop ชาวบ้าน นี่คือโรดแมปที่คุณต้องเดินครับ

.

1. ยอมรับความจริง: คุณหนี “ทฤษฎีดนตรี” ไม่พ้น

ไม่มีทางลัดและไม่มีเวทมนตร์ครับ ถ้าคุณอยากสร้างไลน์ดนตรีเอง คุณต้องเข้าใจ “ภาษา” ของมัน ที่ผ่านมาคุณอาจจะใช้ “หู” และ “สัญชาตญาณ” ฟังว่า Loop A เข้ากับ Loop B ไหม ซึ่งมันเป็นทักษะที่ดีครับ แต่มันไม่เพียงพอสำหรับการสร้างงานใหม่จากความว่างเปล่า

สิ่งที่คุณต้องเติมด่วนที่สุดคือ Music Theory (ทฤษฎีดนตรี) และ Composition (การประพันธ์)

* Key & Scale (คีย์และสเกล): นี่คือแผนที่กันหลงทาง

    * ตัวอย่าง: ถ้าคุณรู้ว่าเพลงนี้อยู่ในคีย์ C Major คุณจะรู้ทันทีว่าโน้ตที่คุณกดได้คือ C, D, E, F, G, A, B ถ้าคุณเผลอไปกดตัว F# (คีย์ดำ) มันจะฟังดู “เพี้ยน” หรือ “แปร่ง” ทันที การรู้สเกลทำให้คุณจิ้มโน้ตใน Piano Roll ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องเดาสุ่ม

* Chord & Harmony (คอร์ดและเสียงประสาน): นี่คือตัวกำหนดอารมณ์เพลง

    * ตัวอย่าง: Loop ที่คุณใช้อาจจะเป็นคอร์ด C – G – Am – F ซึ่งฟังสบายๆ แต่ถ้าคุณอยากให้เพลงดู “ดาร์ก” หรือ “ลึกลับ” ขึ้น คุณต้องรู้วิธีเปลี่ยนมันเป็น Cm – Bb – Ab – G การเข้าใจโครงสร้างคอร์ดทำให้คุณสามารถ “บิด” อารมณ์เพลงได้ดั่งใจ ไม่ใช่แค่รอให้เจอ Loop ที่ถูกใจ

.

2. อัปเกรดเครื่องมือ: ย้ายจาก Audio สู่โลกของ MIDI

ถ้าคุณเป็น Beatmaker คุณน่าจะมีโปรแกรมทำเพลง (DAW) อยู่แล้ว แต่คุณอาจจะใช้แค่ฟังก์ชันตัดต่อเสียง (Audio Editor) เป็นหลัก ถึงเวลาที่คุณต้องข้ามไปสู่โลกของ MIDI และ Virtual Instruments (เครื่องดนตรีจำลอง) อย่างจริงจังครับ

* เลิกมองหาแค่ไฟล์ Wave: หยุดนิสัยที่เปิดโฟลเดอร์ Sample Pack แล้วลากไฟล์ .wav มาวาง

* เริ่มใช้ VSTi (Virtual Studio Technology Instrument): เปิด Plugin ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเปียโน, ซินธ์ (Synthesizer), หรือกลองชุด

* สร้างด้วยมือคุณเอง:

    * วิธีเขียน: ใช้เมาส์วาดโน้ตลงไปใน Piano Roll ทีละตัว คุณสามารถกำหนดความสั้น-ยาว และความดัง-เบา (Velocity) ของแต่ละโน้ตได้ละเอียดระดับมิลลิวินาที

    * วิธีเล่น: ต่อ MIDI Keyboard แล้วพรมลิ่วกดลงไปเลย (ซึ่งต้องใช้ความรู้ข้อ 1)

ข้อดีของการทำแบบนี้: คุณสามารถแก้ได้ทุกอย่าง! อยากเปลี่ยนเสียงเปียโนเป็นซินธ์ก็แค่เปลี่ยน Plugin อยากแก้โน้ตตัวสุดท้ายให้สูงขึ้นก็แค่ลากเมาส์ อิสระอยู่ที่ปลายนิ้วคุณครับ

.

3. ฝึก Arranging: เปลี่ยน “ลูป 4 บาร์” ให้เป็น “เพลง”

กับดักใหญ่ของ Beatmaker คือการทำเพลงแบบ “Loop 4 Bar” วนไปเรื่อยๆ จนจบเพลง ซึ่งมันน่าเบื่อครับ คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Arrangement (การเรียบเรียง) เพื่อสร้าง “เรื่องราว” ให้กับบีทของคุณ

* Structure (โครงสร้าง): เพลงที่ดีต้องมีพัฒนาการ

    * Intro: เปิดมาด้วยเสียงอะไรให้คนสนใจ?

    * Verse: ท่อนดำเนินเรื่อง ดนตรีควรจะโปร่งๆ เพื่อให้เสียงร้องเด่น

    * Pre-Chorus: ท่อนส่ง เริ่มเติมเสียง Snare รัวๆ หรือเสียง Synth ที่ดังขึ้น (Riser) เพื่อบิ้วอารมณ์

    * Chorus (Hook): จุดพีคสุด ใส่ทุกอย่างให้เต็มที่ เบสต้องหนัก กลองต้องแน่น

* Dynamics (ความหนักเบา): อย่าให้เพลงดังเท่ากันหมดทั้งเพลง

    * ตัวอย่าง: พอจบฮุกแรก เข้า Verse 2 ลองตัดเสียงกลองออกสัก 2 ห้อง ให้เหลือแต่เสียงเบสกับเสียงร้อง เพื่อดึงอารมณ์คนฟังให้กลับมาโฟกัสใหม่ ก่อนจะส่งเข้าฮุกอีกรอบ

การเข้าใจเรื่องพวกนี้ จะทำให้บีทของคุณมีมิติ มีความลึก และฟังได้เพลินจนจบเพลงโดยที่คนฟังไม่กดข้าม

.

บทสรุป: คุณเลือกได้ว่าจะเป็นใคร

ถ้าคุณพอใจกับการเป็น Beatmaker ที่เน้นความเร็ว ใช้ Loop สำเร็จรูปมาสร้างงานเพื่อขายหรือทำสนุกๆ ก็ทำต่อไปครับ ไม่ผิดเลย มันเป็นสกิลที่มีค่า

แต่ถ้าคุณอยากมี “ลายเซ็น” ของตัวเอง อยากทำเพลงที่เป็น Original จริงๆ โดยที่ไม่มีใครมาบอกว่า “เฮ้ย เพลงนี้ใช้ลูปเดียวกับเพลงนั้นเลย”…

คุณต้องเริ่มเรียน “ดนตรี” ครับ

มันอาจจะดูยากและน่าเบื่อในช่วงแรก แต่เชื่อเถอะครับว่าคุ้มค่า เมื่อคุณเข้าใจมันแล้ว คุณจะมองการทำเพลงเปลี่ยนไปตลอดกาล คุณจะไม่ได้แค่มองหาว่า “Loop ไหนเพราะ” แต่คุณจะคิดได้เองว่า “ฉันอยากได้เสียงแบบไหน” และสร้างมันขึ้นมาได้ดั่งใจ


เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
“ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง”
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy
คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อ
เรื่องเรียนทำเพลง ► LINE : @verycatacademy
จ้างทำเพลง ► LINE : @verycatsound

#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #loop #beatmaker #beatmaking

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.