ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผมทำงานกับคนในวงการมาเยอะมาก ทั้งฝั่งคนทำเพลงด้วยกัน หรือฝั่งลูกค้าเองก็ตาม และสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นปัญหาและได้ยินบ่อยๆ จากทั้งสองฝั่ง คือเรื่องของความดัง หรือยอดวิว
แน่นอนครับว่า ใครที่ทำเพลง ก็ย่อมต้องการให้เพลงตัวเองมียอดวิวสูง มีความโด่งดัง เพื่อต่อยอดในการสร้างเม็ดเงินในอนาคต อันนี้คือฝั่งลูกค้า หรือคนที่จ้างทำเพลง จะต้องการแบบนี้แน่นอน
และแน่นอนอีกครับว่า คนทำเพลงทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันการันตีไม่ได้” ไม่ว่าจะนักแต่งเพลง นักทำเพลงน้อยใหญ่ ประสบการณ์มากแค่ไหนในวงการ ไม่ว่าเคยเขียนเพลงฮิตเป็นร้อยล้านวิวมาแล้วก็ตาม ก็ยังยืนยันเสียงเดียวกันว่ามันการันตีไม่ได้

มีบางงานที่ผมเคยร่วมงานกับนักเขียนเพลงฮิต ฝีมือดีท่านหนึ่ง ซึ่งเขียนเพลงฮิตมามากมายและเป็นที่รู้จักกันในวงการ ตอนนั้นเราต้องการดันให้เพลงมีความ pop มากที่สุด เพื่อให้เกิดยอดวิวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามแผนการตลาดของค่ายที่ทำอยู่ตอนนั้น ผมจึงไม่ได้เขียนเนื้อเพลงเอง และให้คนที่ชำนาญเนื้อเพลง pop แมสๆเขียนดีกว่า ผมกล้าพูดได้เลยว่า ตอนนั้นวางแผนมาอย่างดีมาก และเพลงออกมาก็เป็นเพลงที่ดี แต่สุดท้ายยอดวิวก็ไม่ได้ไปถึงจุดที่คาดหวัง

เพื่อน producer หลายๆคนก็เจอปัญหาลักษณะเดียวกัน คือ ลูกค้าหลายคนเข้ามาด้วยความคาดหวังว่าเพลงมันจะต้องดัง จะต้องฮิต ทั้งๆที่มันการันตีไม่ได้ ต่อให้จะทำเพลงให้ดีแค่ไหนก็การันตีไม่ได้อยู่ดี หลายๆคนบางทีจึงไม่อยากรับงานที่มีความคาดหวังจากลูกค้าแบบนี้ เพราะมันกดดันเกินไปที่จะมาคาดหวังจากตัวเพลงว่าจะต้องดัง

ผมนึกถึงสมัยเรียนวิทยาลัยดนตรี กับอาจารย์นักแต่งเพลงเก่งๆดังๆ จาก Grammy หลายๆท่าน ท่านก็พูดแบบเดียวกันนี้เป๊ะเลย มันแทบไม่มีอะไรการันตีความดังได้ทั้งสิ้น หลายๆเพลงดีมากๆ บรรจงสร้างมาอย่างดี และเนื้อร้องก็ไม่ใช่เสพย์ยาก เป็นเนื้อร้อง แมสๆ ตลาดๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็กลับไม่ดัง แต่หลายๆเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะดังอะไรมาก กลับดังเปรี้ยงปร้าง มันคือความจริงที่ผมได้ประสบกับตัวเองจนรู้ซึ้ง

การทำเพลงก็เหมือนกับ “ซื้อหวย”

เหมือนกับที่หลายๆคนเคยบอกไว้นี่แหละครับ
ฟลุ๊คถูกหวย ก็ดัง ก็รวย ถ้าไม่ฟลุ๊คก็รอซื้อใหม่งวดหน้า
เพียงแต่มันเป็นหวยที่ราคาแพง และทำยากเท่านั้นเอง
นี่คือสิ่งที่ทุกคนควรจะทำความเข้าใจกันก่อนจะเริ่มทำเพลง หรือแม้แต่จ้างทำเพลงก็ตาม

สิ่งที่มีผลกับความดังของเพลงมีแยกย่อยหลายองค์ประกอบมากมาย แต่ตัวคุณภาพของเพลงเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ใช่ส่วนใหญ่
แต่….

สิ่งที่มีผลกับยอดวิวเป็นส่วนใหญ่มากกว่าตัวคุณภาพเพลง คือ “การตลาด”

ว่ากันตามความจริงแล้ว มันคือแบบนั้นแหละครับ
คำว่าการตลาดที่ว่า หมายรวมถึงความโด่งดังของศิลปินหรือขนาดฐานแฟนที่มีอยู่ก่อนแล้ว
รวมถึงขนาดของ Channel ที่เอาเพลงไปลง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจำนวนคนเห็นชิ้นงาน
รวมไปถึงพลังของเม็ดเงินที่ช่วยในการผลักดันให้คนเห็นชิ้นงานมากขึ้น
รวมไปถึง direction content ของเนื้อเพลง หรือ MV ที่อาจมีสิ่งดึงดูดให้เกิดการฟังซ้ำหรือแชร์ ซึ่งอาจเป็นมุกตลก เป็นต้น

หลายๆครั้งเพลงที่ดีมากๆ แต่การขาดการตลาดสนับสนุนตรงนี้ ทำให้จำนวนคนเห็นชิ้นงานตั้งต้นมันน้อยเกินไป และตัวเนื้อหาของเพลงและ MV แม้จะดีแต่ไม่ได้ดึงดูดเอาใจตลาดหรือกลุ่มคนส่วนมาก ก็ยิ่งทำให้มันไม่เกิดการแชร์ ยิ่งทำให้คนเห็นน้อยและมียอดวิวน้อยตาม ยิ่งถ้าตัวศิลปินเป็นศิลปินใหม่ยังไม่มีคนรู้จัก ฐานแฟนยังน้อยหรือไม่มี ยิ่งแล้วไปใหญ่ การปล่อยเพลงมาแบบแห้งๆ ไม่ได้มีการทำการตลาดอะไรนำร่องมาเลย ถ้าได้ยอดวิว หลักร้อย ก็ไม่แปลกแหละครับ

ในทางกลับกัน เพลงที่อาจจะไม่ได้ถือว่าเป็นเพลงที่ดีอะไร แต่การตลาดกลับแน่นมากๆ และ content ก็คิดมาอย่างดีเพื่อกระตุ้นการแชร์แล้ว เช่นมันอาจจะตลกมาก แปลกมาก อาจมีโอกาสมากกว่าที่จะกลายเป็นไวรัลและสร้างยอดวิวหลักล้านในชั่วข้ามคืน (แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้การันตีอยู่ดีนะครับ แค่บอกว่ามีโอกาสมากกว่า)

นั่นแปลว่า เพลงดี ไม่เท่ากับ เพลงดัง เสมอไป
มันคือสิ่งที่คุณต้องเข้าใจและยอมรับธรรมชาติของโลกนี้ซะก่อน

อยากให้ยอดวิวเยอะ อย่าหวังพึ่งแต่กับตัวเพลง ต้องใช้สูตร 60-40

คุณต้องใช้ทุกวิถีทางเข้าช่วย และการตลาดคือส่วนสำคัญอย่างที่บอก
การทำเพลงก็เหมือนการทำ product หรือ service อื่นๆ กล่าวคือไม่ว่ากิจการใดก็ตาม ที่จริงแล้ว ควรจะมีงบการตลาดอยุ่ที่ 50-60% ส่วนงบของ Production ที่เอาไว้สร้างชิ้นงานคือ 40-50% มันคือตัวเลขสูตรคร่าวๆ สำหรับความสำเร็จในการทำธุรกิจแทบทุกอย่าง การทำเพลงก็เช่นกัน ถ้าคุณคาดหวังอยากให้คนฟังเพลงเยอะ คุณควรมีงบของการตลาด อีกก้อนหนึ่ง ซึ่งเท่าๆกับงบที่คุณลงไปกับการทำเพลงและ MV ทั้งหมด มันอาจเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขนาดนี้ แต่มันจะดีกว่ามากกว่าการไม่มีงบการตลาดเลย ซึ่งอาจทำให้เงินที่คุณลงกับการทำเพลงนั้นได้รับผลตอบรับน้อยเกินไปจนหมดกำลังใจทำไปก่อนได้

แต่ถ้าในกรณีที่คุณทำเพลงเป็นงานอดิเรก และไม่ได้คาดหวังเรื่องของยอดวิว นั่นก็อีกเรื่องนะครับ งานศิลปะดีๆมักถูกซ่อนอยู่ทุกที่ในโลกอยู่แล้ว

The Real Producer

นอกจากหลักสูตร The Real Producer จะสอนทำเพลงแบบขั้นลึก จริงจัง เพื่อสร้างงานดนตรีได้ทุกรูปแบบ แบบมืออาชีพ ไม่ว่างาน pop หรือ art สิ่งที่เราอยากจะแนะนำอีกก็คือ คอร์สการตลาดดนตรี หรือวิชาในหมวด Music Marketing วิชาใน Lv. 6 ของทางหลักสูตร ที่จะช่วยทำให้งานเพลงหรือศิลปินอย่างคุณไม่ขาดความรู้ด้านการตลาดอีกต่อไป เพื่อสามารถโปรโมทชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างฐานผู้ติดตามให้เพิ่มขึ้นถึงแสน และสร้างรายได้อย่างมั่นคงจากการทำดนตรีได้ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ Admin ใน Line Official : @verycatacademy หรือดูข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อปรึกษาประกอบการตัดสินใจได้ที่ link ด้านล่างสุดของโพสต์ครับ

—————————

VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
โทร. 085666242