เรียนทำเพลง ผิดทาง

ทำไมคนเรียนทำเพลงส่วนใหญ่ ล้วนไปผิดทาง

Share via:

Krissaka Tankritwong

มีคอร์สสอนทำเพลงมากมายเปิดขึ้นมาตอนนี้ ซึ่งทำให้คุณสามารถหาเรียนได้โดยง่าย นั่นเป็นเรื่องดี และอาจารย์ที่สอนหลายๆท่านก็เก่ง และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ

แต่… ในเมื่อตัวคอร์สมันไม่ได้แย่ มันก็ดีอยู่แล้ว ทำไมถึงยังมีคนมากมายโทรมาขอคำปรึกษาผม เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาให้อยู่?

……

วันนี้เป็นอีกวันที่ผมได้ให้คำปรึกษากับผู้เรียนท่านหนึ่ง เนื้อความประมาณนี้

“ผมเรียนมาหลายเจ้าแล้วครับ เรื่อง Mix, Master แต่ผมรู้สึกว่ามันลึกไป ผมต้องไปเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน”

ผมถามกลับว่า “พื้นฐานที่ว่า หมายถึงเรื่องอะไรครับ เรื่องแต่งเพลง เนื้อร้อง-ทำนอง , เรื่องการทำดนตรี หรือเรื่อง Sound Engineer ครับ”

“….ไม่เข้าใจน่ะครับว่ามันคืออะไรบ้าง”

“อ่า… ” จากนั้นผมได้อธิบายไปยาว เกี่ยวกับกระบวนการทำเพลงสามขั้นตอน ที่ควรแยกให้ออก จนพอเค้าเริ่มเข้าใจ จับต้นชนปลาย จึงสรุปได้ว่า

“ที่จริงแล้ว ผมสนใจเฉพาะเรื่องแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง ในขั้น Song Writing น่ะครับ เรื่องอื่นคิดว่าไม่ใช่จุดที่ผมสนใจ”

“ถ้างั้นผมแนะนำว่า คุณควรหยุดเรียนอย่างอื่นก่อนนะครับ โดยเฉพาะ Mix , Master มันจะทำให้คุณสับสนได้ว่าควรโฟกัสอะไร แล้วตอนนี้เรียนแต่เรื่อง Song Writing ให้ทะลุก่อนนะครับ”

…….. นี่แหละครับ สิ่งที่ผมต้องเจอเป็นประจำ ในเกือบๆทุกวัน

ผู้เรียนส่วนใหญ่ที่เข้ามาปรึกษา ผมมักจะเจอปัญหารูปแบบเดิมๆซ้ำๆ กัน ประมาณนี้แหละครับ เช่นว่า

“ผมเรียน Mix Master อยู่ครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่า ไลน์ดนตรีต่างๆมันคิดออกมาได้ไง ทำไมไม่เห็นมีบอก”

“เรียนใช้โปรแกรมทำเพลงครับ แต่อาจารย์ในคลิปบอกว่า ถ้าคุณมีความรู้เรื่องทฤษฎีดนตรี ถึงจะมีไอเดียในการใส่เครื่องดนตรี แต่ในคลิปไม่ได้สอน”

“ผมเรียนแต่งเพลงอยู่ครับ แต่มันก็มีแต่พื้นฐาน ไม่เข้าใจว่าจะแต่งไลน์ดนตรีพวกกีตาร์ กลอง เบส ยังไง”

“ผมอยากเดโมส่งค่ายครับ เลยอยากเรียน Mix Master” (ทั้งๆที่ยังแต่งเพลง กับทำดนตรีไม่เป็น)

“ผมอยากมิกซ์ให้ได้แบบสากลน่ะครับ ไม่รู้เค้าทำยังไงให้เพลงมันยิ่งใหญ่ได้ขนาดนั้น” (พอถามไปลึกๆ ถึงพบว่า มันเป็นเรื่อง Arranging เครื่องดนตรี ไม่ใช่มิกซ์)

ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ผมเจออยู่แทบทุกวัน เป็นเวลากว่าสิบปี ในวงการนี้ คือคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจขั้นตอนของการทำดนตรี และเข้าใจผิดไปอย่างมากเกี่ยวกับหน้าที่ของแต่ละกระบวนการ

กระบวนการทำดนตรีทั้ง 3 ขั้นตอน

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า กระบวนการการทำเพลงทั้งหมดมันมี 3 ขั้นตอนใหญ่ๆ

1. Song Writing (การแต่งเพลง)

คำเรียกอื่นๆ : การแต่งเพลง การเขียนเพลง การเขียนเนื้อเพลง การเขียนทำนองเพลง การประพันธ์เพลง Music Composition

คือกระบวนการแรกสุด ทำโดย Song Writer หรือนักแต่งเพลง คือคุณมีแค่ กีตาร์ หรือเปียโนคีย์บอร์ดสักตัว คุณด้นเพลงออกมา มีเนื้อร้อง มี Melody หรือทำนองหลัก (ที่เนื้อร้องเกาะอยู่) คุณอัดคร่าวๆด้วยมือถือ หรือคอมไว้ คุณเขียนเนื้อร้องลงกระดาษ พร้อมคอร์ด

แค่นี้ เสร็จกระบวนการนี้แล้วครับ ส่งต่อให้คนต่อไปทำได้เลย สิ่งที่จะได้จากขั้นตอนนี้คือ โครงเพลง เนื้อร้อง ทำนอง คอร์ด เป็น lead sheet ประมาณนี้

ในกรณีที่เป็นเพลงไม่มีเนื้อร้อง เราจะนิยมเรียกว่า Composing หรือ Composition ครับ

2. Music Arranging (การเรียบเรียงเครื่องดนตรี)

คำเรียกอื่นๆ : การเรียบเรียงเสียงประสาน การทำดนตรี การทำบีท

คือขั้นตอนที่เอาเพลงที่แต่งมาแล้ว มาใส่เครื่องดนตรีให้ครบ ทำโดย Music Arranger หรือนักเรียบเรียงเสียงประสาน ทำดีไซน์เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ทุกโน้ตลงไป ในสมัยนี้ก็จะใช้ DAWs หรือโปรแกรมทำเพลง เป็นสื่อกลางในการบันทึกตัวโน้ตพวกนี้ ในเพลงมีโน้ตของเครื่องดนตรีกี่ชิ้น กี่พันโน้ต ต้องใส่เองทั้งหมด คุณสามารถดีไซน์ได้อย่างกว้างไกล ว่าจะมีลีลาดนตรีแบบไหน ใช้เครื่องอะไรบ้าง ให้อารมณ์แบบไหน เป็นแนวไหน แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ การพลิกแพลง ฝีมือ ชั้นเชิง บวกกับความรู้ทางดนตรีที่มี ซึ่งยิ่งมีความรู้มาก ข้อจำกัดในการทำก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ

3. Sound Engineering (การทำกระบวนการเรื่องเสียง)

คำเรียกอื่นๆ : การ Mix , Master , การทำ Sound

หลังจากทำดนตรีเสร็จถึงส่งต่อให้ Sound Engineer หรือวิศวกรเสียง ทำการจัดการเรื่องเสียงให้เรียบเรียง ด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ EQ , Compress คือต้องเข้าใจก่อนว่า เพลงที่ออกแบบดนตรีเสร็จแล้ว จากขั้นตอนที่ 2 เนี่ย เสียงจะยังไม่ดีเท่าไร คือไม่เนี้ยบ ทีนี้ขั้นตอนที่สามจะเป็นการเก็บรายละเอียดเสียงให้ฟังดูเนี้ยบ ดูมีคุณภาพ ทำให้เสียงดีขึ้น โดยที่เค้าจะไม่ไปยุ่งกับ Design ของดนตรีที่ทำมาจาก ขั้นที่ 2 เลย

ซึ่งไอ้ขั้นที่ 3 นี่แหละครับที่คนเข้าใจผิดกันบ่อยๆ!

Sound Engineer ไม่ได้ออกแบบดนตรี

Mix Master ไม่ใช่การออกแบบดนตรี

ครับ ขั้นตอนที่ 3 มันไม่ใช่เรื่องของดนตรีเลย มันเป็นเรื่องของความเนี้ยบของ Sound ล้วนๆ

ฉะนั้นแปลว่าอะไร เวลาคุณจะเรียนทำเพลง คุณต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่า ใน 1 2 3 คุณอยากเรียนหรืออยากเป็นอยากทำอะไรกันแน่?

– ถ้าคุณคิดว่าอยากเป็นนักแต่งเพลง คุณก็เรียนเน้นเรื่องการแต่งเนื้อร้อง ทำนอง ครับ

– ถ้าคุณอยากเป็นคนทำดนตรี ออกแบบดนตรี คุณก็ต้องเรียนเรื่องการเรียบเรียงดนตรี เรื่องการทำดนตรี ขั้นลึก

– ถ้าคุณอยากเป็น Sound Engineer อยากทำงานด้านเสียง อยากเป็นช่างเรื่องเสียง วิศวกรเสียง (แต่ไม่ใช่คนออกแบบดนตรี) คุณก็ต้องเรียนเรื่อง Mix , Master

– ถ้าคุณอยากจะทำได้ทุกกระบวนการ คุณก็ต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่น โดยการเรียนทั้งหมด แต่ขอให้โฟกัสเรียนไปเป็นตามลำดับขั้นตอนทีละขั้นๆ ไม่งั้นคุณจะงง

และผมต้องบอกก่อนว่า ที่จริงแล้ว

คุณไม่ต้องทำทุกกระบวนการก็ได้

เค้ามีการจ้างงานกันเฉพาะส่วนอยู่ครับ

การที่คุณทำแค่บางส่วนที่ถนัดหรืออยากทำ และไปจ้างบางส่วน มันอาจย่นระยะเวลาและเงินที่คุณต้องศึกษาบางเรื่องไปอย่างคุ้มค่ากว่ากันเยอะก็ได้

โปรดิวเซอร์หลายๆคนทำได้ทุกอย่าง แต่บางคนก็ทำแค่บางอย่าง เป็นเรื่องปกติครับ

และในทีมทำงาน มันก็มีคำว่าทีม ถูกไหมครับ มันมีการแยกหน้าที่สามอย่างเป็นคนละคนแบ่งกันตามความถนัดกันได้ เป็นเรื่องปกติครับ

ฉะนั้นเนี่ยที่ผมอยากจะบอกตามหัวข้อเลยก็คือ

“คนเรียนทำเพลงส่วนใหญ่ ล้วนไปผิดทาง”

เพราะคนมักเข้าใจผิดและเรียนผิด

ผู้ที่สอน หรือหลักสูตรของเค้าไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ เค้าก็ทำไว้ดีอยู่แล้ว

เพียงแต่ว่า ส่วนใหญ่แล้วคือ คุณมักเข้าใจผิดว่า Sound Engineer หรือการ Mix,Master มันคือสิ่งที่คุณต้องการ ทั้งๆที่จริงๆแล้วมันไม่ใช่

เท่าที่ผมเจอมานะ ส่วนใหญ่เลย ที่อยากมาทำเพลงกัน

30% คืออยากทำเนื้อร้องทำนอง Song Writing

60% คืออยากทำดนตรี Music Arranging

มีเพียง 10% ที่อยากทำ Mix,Master หรือ Sound Engineer จริงๆ

(ประสบการณ์แต่ละคนต่างกัน ถ้าใครเจอไม่เหมือนกัน ขออภัยด้วย อันนี้เฉพาะส่วนตัวของผมครับ)

แต่ในการหาที่เรียนจริงๆแล้ว

คนกว่า 80% ไปเรียน Mix, Master กันหมดเลยครับ

มีอีกแค่ 20% ที่รู้ว่าไม่ได้ต้องการเรื่องนี้ และหาเรียนสิ่งที่ถูกต้องกับความต้องการของตัวเอง

ตามนี้แหละครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ

รีบรู้ตัวให้เร็วจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากไปกว่านี้

ดนตรีมันไม่มีทางลัด

อะไรที่ไม่ใช่ก็ตัดๆออกไปจะได้เอาเวลามาทุ่มกับเรื่องที่ใช่

หันหัวเสือให้ถูกต้องก่อนจะตั้งใจมุ่งหน้าไปทางไหนสักทาง

ขอให้เรียนอย่างประสบความสำเร็จนะครับ

The Real Producer มีอะไร?

สำหรับใครที่ชัดเจนกะตัวเองแล้วว่าอยากไปทางไหน อยากเรียนอะไรแน่ เราขอเสนอหลักสูตร The Real Producer หลักสูตรที่ทำให้คุณชัดเจน และเป็นตัวจริงในสายงานดนตรี มีสอนทุกขั้นตอนที่ได้กล่าวไป โดยเฉพาะเรื่องของการทำดนตรี การ Design ดนตรี ที่หาเรียนไม่ง่าย สนใจติดต่อ Admin หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ link ใต้นี้เลยครับ

https://mkt.verycatsound.academy/mf2

ผมหวังว่าสิ่งที่ผมทำ ที่ผมถ่ายทอดลงไปจะทำให้ปัญหานี้หมดไปจากวงการนี้ในไทยหรือน้อยลงได้ซักที เพราะผมก็เคยเสียเวลามาก่อนคุณมามากแล้ว ไม่อยากให้คนที่มาทีหลังต้องเสียเวลาเท่าที่ผมเคยเสียไปอีก ถ้าใครยังไม่เคลียร์ อยากให้อธิบายเพิ่ม หรือมีสิ่งที่อยากปรึกษา ผมยินดีครับ นัดปรึกษาได้ใน link เลยนะครับ


The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.