หน้าที่นี้ตกลงใครทำกันแน่
ปัญหาสากลที่ทุกคนที่ทำเพลงต้องเจอ

ปกติแล้วเวลาคุณไปหาเรียนทำเพลง วิชา Mix Master โดยทั่วไป สิ่งที่จะเจอคือ การเรียนรู้เรื่องการนำ Track ที่ทำเรื่อง Music Arranging หรือ เรียบเรียงดนตรีมาแล้วจากขั้นตอนที่แล้ว มาจัดการเรื่อง Sound อาทิเช่น การใส่ EQ , Compress ต่างๆ เพื่อนำไปผสมเสียงให้ออกมาลงตัว ไพเราะ

หรือถ้าขั้นตอนนี้คุณไม่ได้อยากทำเอง คุณก็สามารถไปจ้าง Sound Engineer ให้ทำให้คุณได้เช่นกัน

แต่ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นคือ คุณอาจทำ Arranging หรือเรียบเรียงดนตรีมาด้วยตัวเองเสร็จแล้ว แต่ซาวด์ยังฟังดูไม่ดีเท่าไร ฟังดูเหมือนคาราโอเกะ เสียงแข็งๆ แล้วคุณก็รู้สึกว่าหมดหน้าที่คุณแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวพอส่งไปให้ Sound Engineer เค้าก็คงเอาไปทำต่อให้มันดูดีขึ้นเอง

แต่ผลปรากฎคือมันไม่ใช่แบบนั้น พอเค้าส่งเพลงที่ทำกระบวนการ Mix, Master กลับมาให้คุณ พบว่า เพลงก็ยังแข็งเหมือนเดิม ซาวด์ทุกซาวด์ก็เหมือนเดิม จะฟังดูดีขึ้นก็แค่ตรงความบาลานซ์ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็เท่านั้น

นั่นก็คือว่า คุณคาดหวังว่า Sound Engineer เค้าจะทำบางอย่างให้คุณด้วย นั่นคือการเปลี่ยนเสียงเครื่องดนตรีที่ใช่ให้ การปรับตัวโน้ตต่างๆให้ไม่แข็ง ให้เกิดความธรรมชาติของดนตรี มีความนุ่มนวล เพราะคุณเข้าใจไปว่าขั้นตอนพวกนี้ เป็นหน้าที่ของการ Mix

แต่ในมุมมองของ Sound Engineer ที่คุณไปจ้าง เค้าก็มองว่า หน้าที่เค้าคือมี Track มาให้ยังไงเค้าก็จัดการ Mix จาก Track ที่ส่งมานั่นเลย โดยไม่ต้องจัดการเรื่อง MIDI หรือไม่ต้องเปลี่ยนเสียง เลือกเสียงใหม่ให้แล้ว

นั่นล่ะครับ มันมีขั้นตอนนี้ที่อยู่ระหว่างการ เรียบเรียงเสียงประสาน หรือ Arranging กับการ Mix Master อยู่ เรียกว่าขั้นตอน “Music Editing” ซึ่งมักเป็นที่เข้าใจไม่ตรงกันมาตลอดว่ามันเป็นหน้าที่ใครกันแน่ระหว่าง Music Arranger กับ Sound Engineer ต่างฝ่ายต่างคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง และแต่ละสำนักก็สอนมาไม่เหมือนกัน ไม่มีมาตรฐานตายตัว

Music Editing สิ่งจำเป็นที่คุณอาจไม่รู้ว่าจำเป็น

ถ้าคุณเป็นนักทำดนตรี แล้วทำงานกับ Sound Engineer ที่ทำเรื่องนี้ให้ด้วย ก็โชคดีไปที่เค้าเข้าใจเข้าขากะเรา หรือถ้าคุณเป็น Sound Engineer แล้วเจอ Music Arranger ที่ทำส่วนนี้มาแล้ว ก็โชคดีไปในทางกลับกัน แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นล่ะ? ซึ่งในการทำดนตรีก็มักจะเจอปัญหานี้กันบ่อยๆ วิธีที่ถูกต้องก็คือ คุณต้องหาจ้าง Music Editor โดยเฉพาะ ซึ่งหายากพอสมควร เพราะเป็นอาชีพที่คนไม่ค่อยเคยได้ยินกันเท่าไร หรือไม่คุณก็ต้องทำเองให้ได้

ขั้นตอน Music Editing ทำอะไรบ้าง

สิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนนี้ก็คือ การทำให้เสียงของทุกเครื่องดนตรีจาก “ดิบกลายเป็นสุก” พร้อมที่จะนำไป Mix รวมได้ เป็นการเปลี่ยนให้เสียงแข็งๆทุกเครื่องดนตรีที่ Composer , Arranger ทำไว้ กลายเป็นเสียงที่นุ่มนวล ธรรมชาติ น่าฟัง สมจริง พร้อมเป็นเสียงที่นำไปใช้ได้จริง โดยใช้วิธีการต่างๆ อาทิ

– MIDI Editing : จัดการโน้ตให้แต่ละเครื่องใหม่ ให้ไม่แข็ง มีน้ำหนักที่เป็นธรรมชาติ มีจังหวะการเล่นที่สมจริงเหมือนมนุษย์เล่น
– Sampling Selection : เลือกเสียง Sampling ของแต่ละเครื่องดนตรีใหม่ ให้เหมาะสม
– Wave Editing : จัดการเวฟเสียงที่อัดมา ให้เกิดความเนี้ยบ
– Layer and Dubblin : ซ้อนเลเยอร์เสียง เพื่อให้เกิดการผสมกลายเป็น Timbre เสียงแบบใหม่ที่เหมาะสม และเกิดมิติที่มากขึ้น
– Sound Designing : ปรับเปลี่ยนหรือสังเคราะห์ ออกแบบเสียง ให้เป็นไปตามลักษณะที่ต้องการ โดยใช้เอฟเฟคต่างๆ หรือกระบวนการเรื่องเสียง

วิชานี้หาเรียนยาก

ปกติแล้ว วิชานี้หาเรียนยากมากๆ เพราะอย่างที่ว่า หลายๆสำนักนิยามมันไม่เหมือนกัน และหลายๆสำนักก็โยนกันไปโยนกันมา ว่ามันอยู่ขั้นตอนไหนกันแน่ ระหว่าง เรียบเรียงดนตรี กับ Mix ฉะนั้นหลายๆคอร์สที่สอนมิกซ์ก็ไม่ได้สอนเรื่องนี้อย่างลึกพอที่จะนำไปใช้งานได้จริง แล้วครั้นจะไปหาวิชาที่สอนเรื่องนี้โดยเฉพาะก็หายากมากๆ ส่วนใหญ่แล้วคนที่ทำสิ่งนี้ได้มักมาจากประสบการณ์อันยาวนานในการแก้ปัญหาการทำเพลง

วิชานี้มีสอนใน The Real Producer

ข่าวดีคือ ในหลักสูตร The Real Producer ของเรามีสอนสิ่งนี้อยู่ โดยเป็นส่วนหนึ่งในวิชา VCA203 Modern Music Production ซึ่งรวมกระบวนการทำเพลงสมัยใหม่ ทั้งการใช้โปรแกรม การมิกซ์ มาสเตอร์ขั้นตอน การ Edit , Record การเข้าใจพื้นฐานของเรื่อง Sound รวมไว้ครบอยู่แล้ว หาข้อมูลเพิ่มได้ใน

VCA203 Modern Music Production

หากใครสนใจสามารถติดต่อ Admin เพื่อขอรับ Demo ทดลองได้ครับ
—————————————————

The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound