หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำเรียกบุคลากรในการทำงานดนตรีอยู่อย่างมาก เอาเท่าที่ผมเจอมาตลอดทั้งชีวิตการทำงาน เช่นว่า คนส่วนนึงมักเรียกรวมๆคนทำเสียงว่า คนทำซาวด์ หรือ Sound Engineer แล้วก็หาคนทำตำแหน่งนี้
แต่พอต้องไปทำเนื้องานจริงๆปรากฏว่าเป็นเป็นการทำเพลง การแต่งเพลง หรือประพันธ์ (Compose) หรือเรียบเรียงดนตรี (Arrange) ซึ่งไม่ใช่หน้าที่จริงๆของ Sound Engineer แต่อย่างใด
ที่จริงแล้ววิศวกรเสียง ทำหน้าที่ในกระบวนการ Post ของ Music Production คือ รับเพลงมาจากนักแต่งเพลง นักทำดนตรี ที่ทำได้แต่งเพลง ประพันธ์เพลง หรือเรียบเรียงดนตรี ออกแบบดนตรีเสร็จมาเรียบร้อยแล้วครบทุกโน้ต ทุกไลน์ ไม่ว่าจะเป็น melody , chord , harmony รวมถึงไลน์ดนตรีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ หน้าที่ของซาวด์เอ็นจิเนียคือการทำให้เสียงทุกเสียงที่ส่งมานั้นฟังดูดี และประกอบรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ออกมาเป็นเพลงที่มีคุณภาพเสียงที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการ ควบคุมการอัด หรือการบันทึกเสียงไลน์ดนตรีเครื่องนั้นๆขึ้นมาใหม่ (Recording) การแก้ไขเสียงต่างๆให้ฟังดูมีถูกต้องสมบูรณ์ (Editing) การผสมเสียงทั้งหมดให้รวมกันอย่างกลมกล่อม (Mixing , Mix Down) การทำกระบวนการขั้นสุดท้ายของเสียง ปรับความดังที่เหมาะสม (Mastering)
โดยทั้งหมดนี้ทำผ่านเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียงโดยตรง อาทิเช่น EQ , Compress , Reverb รวมไปถึง Plug-in ต่างๆ โดยส่วนมากในยุคปัจจุบันจะเป็นการทำงานผ่านโปรแกรมทำเพลง หรือที่เรียกว่า DAWs (Digital Audio Workstation) เช่นเดียวกับ คนที่ทำหน้าที่แต่งเพลง หรือเรียบเรียงดนตรี เพียงแต่จะเอาตัวโปรเจคมาดูแลต่อในส่วนของการทำให้คุณภาพเสียงสมบูรณ์ มักให้เกียรติกับผู้แต่งโดยพยายามไม่ไปยุ่งกับตัว design ของดนตรี ที่ทาง Composer แต่งมาเลย
ว่าง่ายๆคือ Sound Engineer มีหน้าที่ทำให้ เสียงดีขึ้น ในเพลง
แล้วถ้างั้นใครเป็นคนทำดนตรีในเชิงการออกแบบกันแน่?
คนๆนั้นก็คือ Music Arranger หรือ นักเรียบเรียงเสียงประสานนั่นเอง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน ทำหน้าที่ ออกแบบดนตรีให้กับตัวเพลงที่นักแต่งเพลงแต่งเนื้อร้องกับตัวโครงเพลงทำนองหลักมา (Melody , Chord , Lyric) โดยนำมาใส่เครื่องดนตรีรายละเอียดทุกเครื่องให้ครบ อาทิ กีตาร์ กลอง เบส คีย์บอร์ด เป็นคนคิดตัวโน้ตทุกตัวที่ได้ยินอยู่ในเพลง เรียบเรียงว่าแต่ละเครื่องจะเล่นลีลาแบบไหน จังหวะแบบไหน ในอดีตหน้าที่นี้ทำงานโดยการกำกับใส่ตัวโน้ตไปบนกระดาษด้วยบรรทัดห้าเส้น แต่ปัจจุบันนิยมทำลงบน DAWs เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้การทำเพลงง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น เพราะสามารถแสดงผลสิ่งที่ทำออกมาให้ได้ยินเลย หน้าที่ของ Music Arranger จึงโฟกัสเฉพาะการออกแบบของตัวดนตรีล้วนๆ โดยไม่ได้ยุ่งกับคุณภาพของเสียงมากเท่า Sound Engineer
บางครั้งเพลงที่ส่งต่อไปให้ Sound Engineer อาจจะเป็นลักษณะเพลงบรรเลง หรือดนตรีประกอบ ที่ทำให้ไม่มีการรับตัวโครงเพลงมาจาก Song Writer หรือนักแต่งเพลงอีกที โดยเราจะเรียกคนทำดนตรีประเภทนี้ว่าหรือนักประพันธ์ดนตรีนั่นเอง ซึ่งบางทีก็จะเห็นคนนิยมเรียกด้วยคำนี้แทน Music Arranger ด้วยซ้ำไป เพราะมีเนื้องานในการทำงานที่คล้ายกันมาก แตกต่างกันที่เส้นบางๆเส้นเดียวว่าเป็นดนตรีบรรเลงที่ต้องคิด Melody กับ Chord เองหรือเป็นเพลงร้องที่มี Melody หลักของเนื้อร้องมาให้ใส่ดนตรีอีกที
ฉะนั้น Music Arranger มีหน้าที่ ออกแบบดนตรี นั่นเอง
จะเห็นได้ว่า ทั้งสองอย่างนั้น ระหว่าง Sound Engineer กับ Music Arranger (หรือ Composer) นั้นไม่เหมือนกันเลย มันไม่แปลกที่จะมีใครบางคนทำได้ทุกอย่าง ส่วนใครบางคนถนัดแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะทำเพลงให้สมบูรณ์ก็ต้องมีทุกขั้นตอนจนครบ เพียงแต่การศึกษาศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่งล้วนกินเวลาทั้งนั้น บางคนที่สนใจเฉพาะบางอย่าง สามารถมุ่งศึกษาเฉพาะสิ่งที่ตนสนใจและเลือกที่จะทำงานกับทีมที่เป็นอีกตำแหน่งหนึ่งได้ หรือจ้างเอาในกรณีที่มีงานส่วนที่ตัวเองไม่ถนัด
เป็นปกติที่บางคนที่เก่งเรื่องทำดนตรี จะไม่เก่งเรื่อง Sound Engineer เท่า Sound Engineer จริงๆ และ คนที่เป็น Sound Engineer อาจจะพอเรียบเรียงดนตรีได้ แต่ก็จะไม่เก่งเท่า Music Composer / Arranger ตัวจริง ในการทำงานระดับมาตรฐานก็มักจะแยกการทำงานสองส่วนนี้เป็นคนละคนกันครับ ฉะนั้นคุณไม่ต้องเครียดว่าต้องเรียนรู้ให้ได้ทั้งหมด แค่มุ่งตรงไปสิ่งที่ตัวเองสนใจและถนัดจริงๆก็พอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสตร์ของการเรียบเรียงหรือประพันธ์ดนตรี ที่หาเรียนค่อนข้างยาก
ทาง VERY CAT ACADEMY ก็มีเปิดสำหรับผู้สนใจครับ
หลักสูตร The Real Producer มีวิชาเรียนหลากหลาย
ครอบคลุมการเดินทางไปสู่เส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณตั้งแต่ 1-100 สู่อาชีพโปรดิวเซอร์
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
Tel. : 0856662425
Website : verycatsound