เมื่อวาน Day 25 : live @ Shinjuku Marz ผมเมาเละอ้วก และวันนี้ก็ตื่นมาแบบแฮ๊งๆ…
เช้า ออกไปชิบุยะกับนอย หนังสือสตรีทฯ ที่จะซื้อให้นอยก็ยังหาไม่เจอ… นั่งรถเมล์ มาแถวรปปงหงิ หาลุยด้าบาร์ เป็นร้านอาหารของ Pasela Resort เจ้าเดิม ที่ชอบ co กับพวกเกมส์หรือการ์ตูน แต่รอบนี้เป็นเกมส์ Dragonquest (เกมส์ที่ฮิตมากที่ญี่ปุ่น) ซึ่งพอไปถึงปรากฎว่ามันเต็ม… ที่นี่ฮอทกว่าที่คิดแฮะ จะมาต้องจองกันก่อนเลย รสชาติอาหารน่าจะแตกต่างกับตอน Capcom Bar นะ 555+ สรุปก็หากินเบอร์เกอร์อะไรง่ายๆ ซึ่งแถวๆบ้านก็มี T-T
นอยเล่าเรื่องต่างๆ จนเริ่มปะติดปะต่อหลายสิ่งในความเป็นย่านชิบุยะได้ มันมีทุกอย่างมารวมกันที่นี่นี่เอง ทั้งสิ่งดีและไม่ดีไหลมารวมกัน นอยชี้ให้ดูร้านอาหารที่ถ่ายเรื่องคิลบิล น่าไปจัง…. คงอดละสำหรับทริปนี้
หลังจากทริปลุยด้าบาร์ล้มเหลว ก็แยกย้าย เพราะนอยมีธุระต้องไป ชินจุกุ ผมเดินหาซื้อของขวัญให้นอยต่อ ไอ้หนังสือเล่มเดิมที่หายังไงก็หาไม่เจอซะที จนเริ่มปลง… สุดท้ายก็ซื้อหนังสืออาร์ทเวิร์คเกมส์ Monster Hunter ให้แทน…
ตอนเย็น ผมรีบมาร้าน Koenji High ที่ โคเอนจิ มางาน Square Sound Tokyo 2014 เป็นงาน แปดบิท Chiptune อีกงานที่จัดโดยฝรั่ง โดยปีนี้จัดที่โตเกียว ผมแจ๊คพอตพอดี มาโตเกียวในช่วงที่มีงานประเภทนี้ติดๆกัน
ผมมาไม่ทันวงแรกๆ และด้วยความที่ยังแฮ๊งจากเมื่อคืน บวกกับวันนี้ก็ซัดเบียร์ไปอีก ทำให้สลบเป็นช่วงๆระหว่างกลางงาน… มานั่งอยู่ห้องพักระหว่างรอการแสดงอีกวง ฟังฝรั่งเม้าท์อะไรกันไม่รู้… มันคุยกันเรื่องเกมส์ Final Fantasy ภาค 14 บอกว่า “อย่าไปเล่นใน ps3 นะ ภาพโคตรห่วยแตก ให้เล่นภาพ ps4 สิ เล่นเป็นแมวตัวผู้หญิง ปรับขนาดนมใหญ่สุด เวลาวิ่งนี่อย่างเด้ง…” แม่งโคตรเนิ๊ดเลย สมกับเป็นงาน 8-bits มีแต่เรื่องเกมส์ 555+ มาเข้าเรื่องวงที่เล่นวันนี้กันดีกว่า
นี่แหละที่รอคอยยยยยยยยยยยยยย เป็นหนึ่งในจุดประสงค์หลักๆของทริปนี้ ปลื้มใจมาก กว่าจะได้ดู โชว์ของโอโมดากะ คล้ายๆที่เคยเห็นในคลิป youtube แหละ แต่ได้ดูสดก็สนุกมาก เพลงของ โอโมดากะนั้นเป็นแนว Electro Chiptune ผสมกับ ดนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่น แบบ Japanese Traditional ที่รวมตัวกันได้อ่างกลมกล่อม มีลูกเล่นตลอดเวลา เอาของเล่นนู่นนี่มาล่อเด็ก(โข่ง) ให้ฮือฮา ได้ตลอด เดี๋ยวเกมส์บอย เดี๋ยว nintendo ds ,effect ต่างๆ, ขลุ่ยญี่ปุ่น , โครงกระดูกผีญี่ปุ่น , ผีสาวในจอ โอ้ยยยสนุกกกก ชอบมากกก ประทับใจ ไม่ผิดหวัง ผมนี้โดนไปทุกแผ่นทุกอัลบั้มอีกแล้ว T-T
มีเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ โอโมดากะ คือ Patrick เป็นคนบอกผมว่า ที่จริงแล้วเขาไม่ใช่ศิลปินหน้าใหม่แต่อย่างใด เมื่อก่อนเขาเคยทำงานเป็นเบื้องหลังของ Pizzicato Five มาก่อน เพราะแพททริคเคยเจอชื่อในปกซีดีของ Pizzicato Five อยู่หลายอัลบั้ม แต่ผมไม่รู้รายละเอียดที่มากกว่านั้นนะว่าทำอะไรบ้าง เห็นมะ ซื้อซีดีมันก็ดีเงี้ยแหละ ได้อ่านปก
website : http://www.fareastrecording.com/mt/
ชมคลิปการแสดงสด ของ Omodaka คลิปอื่นๆได้ที่ link 2 , 3
อีกศิลปินที่น่าสนใจจากต่างประเทศ นานๆได้ฟังแนวนี้จากฝรั่งบ้างก็เปลี่ยนบรรยากาศดีนะ มีหลายเพลงที่ให้อารมณ์ที่ต่างออกไปจากมุมมองแบบคนญี่ปุ่นบ้าง ลองฟังกันเลย
website : http://roboctopus.bandcamp.com/
หนุ่มลอนดอน กับซาวด์ที่ต่างออกไปจากศิลปินที่แล้วหน่อย คือเน้นไปทางบีทที่หนักแน่น มีความเป็น dance music มากขึ้น ผมชอบนะ มันส์ๆดี
website : https://www.facebook.com/ShirobonOfficial
วง Chiptune 8-bits ที่ดังที่สุด ที่หลายๆคนรู้จักกัน เป็นเหมือนหัวหอกของดนตรีแนวนี้ในปัจจุบัน เล่นสดเซตเดียวกันกับครั้ง Day 12 : Chip Union Festival เด๊ะ เคยพูดถึงกันไปแล้ว ครั้งนี้ก็เล่นดีเหมือนเดิม มาตรฐานดีมาก
website : www.ymck.net
อย่าถามผมเลยว่าชื่อวงอ่านว่าอะไร… รู้ไว้เพียงว่า วงสุดท้ายนี้ทีเด็ด! สองคน ชาย หญิง กับเพลงมันส์ๆ แต่ที่เด็ดมาก คือ Toriena ดีเจสาวของวงนี้น่ารักมากกกก เล่นเกมส์บอย เป็น MC , DJ 8-bits โอ้ยยยยยยยยยยย เจอละ แม่ของลูก นี่มันนางฟ้าของเหล่าเนิร์ดชัดๆ โอยยย ฟินนนน 55555+ คนดูก็เฮกันหนักเลย ผมว่าเค้าจงใจเอาวงนี้เป็นวงทีเด็ดท้ายสุด ดูแล้วน่าจะเป็นดาวรุ่งในวงการได้เลย
website : http://toriena321.bandcamp.com/
ชมคลิปการแสดงสดอื่นๆของ Toriena & NNNNNNNNNN ได้ที่ link 2 , 3 , 4 , 5
ที่จริงมีศิลปินคนอื่นที่น่าสนใจอีกในงาน แต่ด้วยสภาพร่างกายผมที่ไม่อำนวยให้ลุยดูทุกสิ่งทุกอย่าง… เลยถ่ายมาเท่าที่ไหวนะครับ ใครสนใจ ศิลปินคนอื่นๆ ลองไปตาม link นี้เลย
หลังจากจบงานผมรีบออกไปอีกที่ เพราะมีอีกอีเว้นท์หนึ่งรออยู่ นั่นคือ งาน Flash!!! ของเฮียนากาตะ (Capsule) ที่ Club Asia แถว ชิบุยะ
เอาจริงๆ ผมไม่มีพลังงานเหลือละ 555+ แค่ลากร่างพังๆมาต่อคิวเข้างานนี้อีกงานได้ก็ดีแค่ไหนละ รอต่อแถวยาว และตรวจเข้มมาก รูปถ่ายก็ห้าม กล้องห้ามเอาเข้า ค่าบัตรสามพันเยน อย่างแพง และไม่มีดริ๊งค์อีกตะหาก คือตอนนี้สภาพร่างกายก็ไม่พร้อมด้วย เข้าไปเลยเซ็งๆหน่อย ไม่สนุกเพราะว่าไม่กินเหล้าด้วย จงใจประหยัดพลังงานไว้ เดี๋ยวสลบก่อน กว่านากาตะจะมาน่าจะตีสาม กลัวฟุบไปอีกเหมือนอนหัวค่ำ
ระหว่างดูดีเจคนอื่น ก่อนหน้าจะเจอดีเจสาวสวย จะมีคนนึงเล่นดีมาก ชื่อ DJ ไลโตะรุ ยอมรับเลย เสียดายว่าไม่มีคลิปที่ถ่ายมา คนมามุงดูกันเต็มเลย ถ้าเอาเฉพาะลีลาการเปิดแผ่นนี่ให้เหนือกว่านากาตะอีก
พลังงานผมเหลือไม่มาก เพลงก็สนุกนะ แต่ไม่อิน เอื่อยๆไปเรื่อยๆ ง่วงด้วย จนสุดท้าย กว่านากาตะจะมาก็ตีสองครึ่งได้ เล่นอยู่ ชั่วโมงนึง รู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าตอน Asobinite นะ (ในตอน Day 11 : Towa Tei และ ASOBINITE!!) รู้สึกเซตเพลงไม่ลงตัวเท่า และเล่นเพลงตัวเองน้อยกว่ามาก เพลงนอยๆก็เยอะ
แต่เห็นชัดเลยว่า คนมารอดูนาคาตะเยอะมาก สาวๆนี่กรี๊ดกันเพียบ ได้ยินพูดชื่อ ยาสุทากะๆ บ่อยๆ อืม… เฮียตะนี่ดังจริง
พอละ ร่างพัง กลับ
ขากลับ ผมเดินจากโดเกนซากะ มีคนมาถาม มาสสาจจิมั้ยๆ เพียบ ตลอดทาง ผมแวะกินโอเด้ง ของ ลอวสัน ตอนแรกจะชมว่าน่ากินมาก พรีเมี่ยมกว่าไทยเยอะ ของแปลกๆเยอะ เลยสั่งของแปลกๆทุกอย่าง อยากรู้รสชาติมานานละ ผลปรากฎคือ…….
รู้ละว่า ของไทยที่มีแบบให้เลือกน้อยคือมันคงคัดมาให้แล้วว่า อันไหนที่คนไทยกินได้บ้าง…
วันนี้ตอนขากลับ คิดได้ อีกคือ
“บางทีการที่จะเริ่มดึงคุณค่าที่แท้จริงของอะไรสักอย่างออกมา มันคงต้องเริ่มจากเห็นสิ่งต่างๆมีค่าเท่ากันก่อน”
เหมือนกับอาหารญี่ปุ่น กับ อาหารไทยไง ถ้าอยู่แต่ที่ไทย กินอาหารไทย แล้วยกย่องว่าอาหารญี่ปุ่นดีกว่า หรูกว่า แพงกว่า แต่ดูถูกอาหารไทย เราไม่มีทางหันกลับมามองอาหารไทยและพัฒนามันให้ดีได้ แต่ในทางกลับกัน คนที่เคยลองมาหมดแล้ว ถึงรู้แล้วว่า ที่จริงมันไม่ได้มีอะไรดีกว่า หรือแย่กว่ากัน เป็นแค่ความต่าง ความไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง พอคิดได้แบบนั้น ถึงจะหันกลับมามองได้ว่าของเราจริงๆมันก็มีดีอยู่ (เพียงแต่นั่นแปลว่า กว่าจะรู้สึกได้แบบนั้น ก็คือต้องค่อนข้างมีตังค์ไปลองตระเวณมาแล้วทั่วโลกอยู่ดี อนิจจา… จะทำอะไรทุกอย่างก็ต้องใช้เงิน แม้แต่การคิดได้ก็ตามที)
จบวัน นอน พรุ่งนี้พบกับ Day 27 : Moshimoshi Nippon ฝรั่งนั้นบ้า Pamyu!