คงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดต่ออาชีพดนตรี คือ ฝีมือ และผลงาน ซึ่งนำไปสู่ชื่อเสียง ที่ทำให้ผู้จ้างเกิดความไว้วางใจจะใช้งาน ไม่ว่าในฐานะของนักดนตรี นักแต่งเพลง ศิลปิน หรือโปรดิวเซอร์ก็ตาม
แต่ก่อนที่คุณจะสามารถแสดงฝีมือในการสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ได้ คุณต้องได้รับโอกาสนั้นซะก่อน ซึ่งโอกาสที่ว่ามา ไม่ใช่ทุกๆคนจะมีเท่าๆกัน สิ่งที่สำคัญเลยคือ คุณต้องมีสายสัมพันธ์กับคนในวงการเดียวกัน หรือบางทีก็คนนอกวงการที่นำงานมาให้ได้ หรือที่นิยมเรียกด้วยทับศัพท์ว่า Connection นั่นเอง

ในชีวิตเส้นทางดนตรีที่ผ่านมา ผมเคยเห็นนักดนตรี นักทำเพลง อยู่มากมายที่มีฝีมือมากๆ หลายคน บางคนเก่งจนเรียกได้ว่าเป็นระดับ top หรือแนวหน้าของวงการได้เลย แต่ดันไม่เป็นที่รู้จัก หรือบางทีก็ไม่ได้มีงานดนตรีทำเยอะอะไรมาก จนต้องไปทำงานอย่างอื่นหาเลี้ยงชีพ ในทางกลับกัน หลายๆคนที่อาจจะฝีมือไม่ได้เก่งเท่าคนๆนี้ แต่มีงานเข้ามากมายตลอด ถ้าไม่นับเรื่องการตลาดแล้วล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เป็นตัวแปรทำให้เกิดความแตกต่างเลยก็คือ Connection นี่แหละครับ

ที่จริงไมว่าคุณจะทำงานสายอะไร Connection สายสัมพันธ์ หรือเส้นสาย ล้วนสำคัญหมด ทำไมมันถึงสำคัญมากเป็นพิเศษในวงการดนตรี เพราะเนื่องจากสายนี้สิ่งที่สำคัญน้อยมากๆคือ วุฒิ หรือใบปริญญา ส่วนชื่อเสียงหรือฝีมือและผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ เป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆอย่างที่บอก แต่ถ้าไม่มีคอนเนคชั่นเลย แปลว่าคุณต้องเริ่มทุกอย่างด้วยตัวเองหมด เมื่อคุณสร้างผลงานขึ้นมา ตั้งแต่การพยายามทำให้ผลงานเป็นที่รู้จักให้ได้ การโปรโมตตัวเอง การสะสมผลงานต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ฯลฯ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ ต้องมีการตลาดที่ดีเข้ามาช่วย จะทำให้ประสบผลดียิ่งขึ้น ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องค่อยๆใช้เวลา กว่าจะได้ทำงานจากเล็กๆ ไปจนถึงงานใหญ่ แต่บางคนอาจไม่ต้องพยายามขนาดนั้น เพราะเค้ามีคอนเนคชั่นที่แข็งแรง อาจจะรู้จักกับคนที่มีโอกาสนำงานมาให้ แล้วสนิทชิดเชื้อ เชื่อใจกัน อาจเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง คนรู้จัก เป็นญาติ ฯลฯ ก็เลยได้ทำงานจริงเลย Connection อาจช่วยทำให้เกิดความต่าง ที่เป็นทางลัดได้มากถึง 1-10 ปี

แต่นั่นไม่ได้แปลว่า มี Connection อย่างเดียวแล้วคือทุกอย่างนะครับ เพราะคุณควรจะเก่งจริงในสายงานด้วย ไม่งั้นโอกาสที่เค้าให้มา พอทำออกมาได้ไม่ดี เค้าก็รู้แล้วว่าคุณไม่เก่ง คุณก็อาจจะไม่ได้รับโอกาสนั้นอีก เป็นต้น ฉะนั้นตอนนี้ไม่ว่าคุณจะมีคอนเนคชั่นหรือไม่มี แต่คุณต้องทำตัวให้พร้อมกับโอกาสที่จะเข้ามาเสมอ

4 วิธีสร้าง Connection ในอาชีพดนตรี

1. Open mind

เปิดใจให้กว้างครับ ออกไปเจอคน คนดนตรีหลายๆคน เป็น introvert ผมเข้าใจนะ แต่ถ้าคุณต้องการงาน งานมันมาจากคนอื่น ทั้งคนนอกวงการ และในวงการ คุณต้องบังคับตัวเองให้เข้าสังคมให้มากครับ พยายามเอาตัวเองไปมีส่วนร่วมอยู่ในกิจกรรมหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะ workshop , สัมนา , รับน้อง ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่มีโอกาสที่จะจ้างงานคุณ หรือนำงานมาให้คุณ อย่ามัวหมกมุ่นอยู่แต่กับดนตรีของตัวเอง แต่เราต้องไปเชื่อมสัมพันธ์กับภายนอกด้วยครับ ต้องพยายามแยกแยะช่วงเวลาของโลกส่วนตัว กับช่วงเวลาพบปะสังคมออกจากกันครับ เปิดใจให้กว้างเข้าไว้ แล้วเปิดรับ ทำความรู้จักคนทุกสาย

2. Friendly

ต่อเนื่องจากข้อแรก รู้จักอย่างเดียวไม่พอ คุณควรดีกับทุกคนไว้ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า วันใดเราจะต้องทำงานกับใคร บางครั้งคุณที่คุณรู้จักอาจนำงานมาให้คุณในอนาคต แต่คุณดันมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเค้า เลยอดงานนั้นๆ ทางที่ดีไม่ควรสร้างศัตรูในทุกๆกรณีครับ คุณควรดีกับทุกๆคนให้มากที่สุด

3. Branding

รู้จักเฉยๆ อาจจะไม่พอครับ คุณต้องทำให้เค้าจดจำคุณได้ด้วยว่า คุณคือใคร ทำอะไร และเก่งเรื่องอะไร ถ้าคุณต้องไปงานรวมญาติ หรืองานที่พบปะคนเยอะๆ แล้วคุณไปตัวเปล่า โดยไม่ได้มีใครจำอะไรได้เลยว่าคุณทำอะไร รู้แต่ชื่อ นาย เอ เฉยๆ แบบนี้ถือเป็น Connection ที่ไม่มีประโยชน์ครับ แต่ถ้าคุณพกนามบัตรไปด้วย บอกว่าคุณทำอาชีพอะไร ทำอะไรอยู่บ้าง เก่งเรื่องอะไร หรือจะให้ดี ขึ้นไปร้องเพลงเล่นดนตรีบนเวทีของงานนั้นๆ ทีนี้ทุกคนจะจำคุณได้ว่า แบรนดิ้งของคุณคือ คนดนตรี ถ้าวันใดเค้าต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการดนตรี เค้าก็จะติดต่อหาคุณ

4. Deep Bond

ข้อนี้สำคัญมาก

คอนเนคชั่นที่จริงแล้วมีสองแบบ แบบหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลผลประโยชน์กัน เค้าอุดหนุนเรา เราอุดหนุนเค้า เค้าติดต่อเราไปเล่น เราได้ประโยชน์ เราก็ทำบางอย่างให้เค้าเป็นผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งมันอาจจะมาในรูปแบบต่างๆ อาทิ คนรู้จักกันเลยลดราคาพิเศษ อะไรแบบนี้เป็นต้น บางทีคนที่เรารู้จักแล้ว แล้วเค้าก้อรู้ว่าเราทำอะไร แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะใช้งานเราเสมอไป เพราะเป็นไปได้ว่า เค้าไม่รู้สึกว่าใช้เราแล้วเค้าจะได้อะไร และเค้ามีเพื่อนเค้าอีกคนหนึ่งที่เค้าสนิทมากกว่า ทำสิ่งเดียวกัน เค้าเลยเลือกใช้คนนั้น ไม่ใช่เรา

นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะบอก ว่าที่จริงแล้ว มีคอนเนคชั่นอีกแบบ ที่ไม่ได้เกิดจากผลประโยชน์ร่วมกันเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่ผลประโยชน์ ความสัมพันธ์แบบนี้ อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะอยากช่วยอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องมีผลประโยชน์อะไรตอบกลับเลย เช่น ญาติพี่น้อง ครอบครัว แฟน เพื่อนสนิท ที่มาอุดหนุนกัน โดยไม่จำเป็นต้องให้อะไรตอบแทน มันคือสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ที่ไม่ใช่ได้มาโดยง่าย ถ้าไม่ได้ผูกพันธ์กันด้วยสายเลือด

แต่ถ้าไม่ใช่การผูกพันธ์ด้วยสายเลือด มันก็มีเงื่อนไขในการสร้างสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอยู่ นั่นคือ การได้ใช้เวลาร่วมกันเป็นเวลาค่อนข้างมาก และการผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้มักเกิดขึ้นในกรณี แฟน คนรัก หรือเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมคณะ ร่วมก๊วน ร่วมรุ่น ร่วมมหาลัย

คนเราจะรู้สึกสนิทกันมากขึ้น เมื่อได้ผ่านความสุขทุกข์ หรืออุปสรรคร่วมกันมา ซึ่งอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ก็เป็นไปได้ อาทิ ดาราบางคนที่สนิทกันจากการเข้าร่วม reaility game show หรือเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่ผ่านรับน้องและประสบการณ์ 4 ปีในคณะมาด้วยกัน

อะไรคือสิ่งที่ผมกำลังจะบอก?

มันคือเทคนิคที่ทำให้คุณสร้าง Deep Bond เพื่อขยาย Connection ของคุณได้ นั่นคือการเข้าร่วมกิจกรรมอะไรก็ตามที่มีการสร้างสถานการณ์ความยากลำบาก และได้ใช้เวลาร่วมกับคนอื่นๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคนเหล่านั้นเป็นคนที่นำโอกาสมาให้คุณได้)

แล้วจะไปหาการเข้าร่วมกิจกรรมพวกนี้มาจากไหน?
มันก็ย้อนกลับไปข้อแรกแหละครับ คือต้องออกไปข้างนอก ร่วมกิจกรรรมกับผุ้คน อาทิ

• การเรียนในสถาบัน : เข้าร่วมกิจกรรมของสถาบันเพื่อสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นเยอะๆ
• Workshop ต่างๆ ที่ใช้เวลาค่อนข้างมากหน่อย
• การเข้าค่าย Camp ต่างๆ
• กิจกรรมทางสังคมอื่นๆ อาสาสมัคร ฯลฯ
• ทำวงดนตรีเล็กๆ เล่นในงานต่างๆ

กิจกรรมเหล่านี้นี่แหละครับ ที่สร้าง Deep Bond ที่สำคัญให้กับคุณ

และผมจะบอกว่าไม่ได้พูดเล่น และไม่ได้มั่วขึ้นมา จากประสบการณ์ส่วนตัวและคนรอบข้างที่อยู่รอดมาเพราะ Connection มีส่วนเป็นอย่างมาก ก็เพราะไปเข้าค่าย หรือกิจกรรมบางอย่างมา จนรู้จักคน หรืออย่างส่วนตัวผมเอง ก่อนจะมาเรียนคณะดนตรี ผมก็เรียนคณะนิเทศน์มาก่อน และสร้าง Deep Bond กับเพื่อนที่นั่น จนต่อมาเพื่อนแปรเปลี่ยนเป็นลูกค้าคนสำคัญที่มาใช้บริการกันอย่างเหนียวแน่นติดต่อกันมาหลายปี จนตั้งตัวได้

การเรียนในสถาบัน = ความรู้ + คอนเนคชั่น

ประเด็นสำคัญที่ผมอยากจะบอกอีกอย่างคือ การเรียนในสถาบันนอกจากมันจะเป็นทางตรงที่สุดเพื่อได้มาซึ่งความรู้และทักษะ โดยที่เสียเวลาน้อยที่สุดแล้ว มันยังได้คอนเนคชั่นเป็นผลพลอยได้ด้วย และในหลายๆครั้ง เฉพาะคอนเนคชั่นที่ได้ก็มีค่ามากกว่าราคาที่จ่ายไปไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ

การเรียนรู้การทำเพลง แต่งเพลง หรือการเป็นโปรดิวเซอร์ หลายๆคนอาจจะไม่มีโอกาสในการได้เข้าไปเรียนในวิทยาลัยดนตรี เนื่องด้วยติดปัญหาต่างๆ ไม่ว่าการต้องแลกมาด้วยเวลาเรียน 4-5 ปี แบบ full time หรือที่บ้านไม่สนับสนุน หรือไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่าย ต่างๆ และเลือกที่จะหาเรียนนอกระบบมหาวิทยาลัยเอาเอง ซึ่งแน่นอนว่า ต่อให้ได้ความรู้หรือวิชามา แต่มันก็ไม่สามารถทดแทนโอกาสในการสร้าง Connection แบบ Deep Bond ในมหาวิทยาลัยไปได้

TheRealProducer

ข่าวดีก็คือ ตอนที่ผมได้สร้างหลักสูตร The Real Producer ขึ้นมา ผมได้ตระหนักถึงปัญหานี้ไว้แล้ว เนื่องด้วยว่า ผมเล็งเห็นว่า นอกจากความรู้ระดับลึก ที่เป็นสิ่งที่ผู้แสวงหาดนตรีขั้นลึกแบบในมหาลัย ต้องการสิ่งนี้แล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ สังคมดนตรี หรือ Connection นี่แหละครับ

ในสถาบันเรา จะมีการจัดมีตติ้งกันทุกๆ 4 เดือน หรือทุกๆครั้งที่จบคลาสๆหนึ่ง เพื่อพบปะกันระหว่าง ผู้เรียนและผู้สอน มี Showcase ผลงานของแต่ละคน มีกิจกรรม และของรางวัล ที่พิเศษสุดในแต่ละครั้ง เปิดให้ทุกคนไม่ว่าลงทะเบียนเรียนวิชาไหนก็ตามเข้าได้หมด ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยนักเรียนสามารถมาเจอกัน ทำความรู้จักกัน แลกเปลี่ยนพูดคุย ได้มาเจอคนอีกหลายๆคนที่มีความฝันแบบเดียวกัน เป็นแรงกระตุ้นซึ่งกันและกัน

ที่สำคัญ ในแต่ละครั้ง จะมีเซอไพรส์พิเศษอยู่ตลอด และมีการเชิญบุคลากรทางดนตรี ที่เป็น Connection สำคัญในวงการมาเพื่อทำความรู้จักกัน และโชว์ผลงานให้พวกเค้าเหล่านั้นเห็น เป็นการผลักดันผลงานของนักเรียนในคลาส เพื่อให้เกิดการต่อยอดในอาชีพจริง และขยาย Connection ไปสู่อนาคตอาชีพดนตรีไดั โดยนักเรียนบางคนได้งานแจ้งเกิดเป็นนักแต่งเพลงจริงไปเรียบร้อยแล้วครับ

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้การทำเพลงขั้นลึก ในหลักสูตรที่เพียบพร้อม ครบทั้งเนื้อหาทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนระดับลึก และยังเพียบพร้อมด้วยสังคมดนตรีที่อบอุ่น และ Connection ที่แข็งแรง หลักสูตร The Real Producer จาก VERY CAT ACADEMY ขอต้อนรับครับ สนใจติดต่อได้ที่แอดมิน ไลน์ @verycatacademy หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ link ใต้โพสต์ล่างสุดนี้ได้ครับ

—————————

VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
โทร. 0856662425