เรียนทำเพลง หนทางสู่ศิลปิน

หนทางสู่การเป็นศิลปินอาชีพ

Share via:

Krissaka Tankritwong

มีหลายคนอยากเป็นศิลปินเป็นอาชีพ ถ้าถามว่ามีหนทางอยู่จริงๆมั้ย มีครับ เอาคร่าวๆก็คือ

ขั้นแรกคุณก็อาจจะต้องพยายามฝึกฝนดนตรี ฝึกฝนการทำเพลง หรือร้องเพลง แล้วแต่ว่าคุณจะเป็นศิลปินแบบไหน

ขั้นที่สองคุณอาจจะพยายามสร้างผลงานออกมา และโปรโมทให้คนเห็นมากที่สุด

ขั้นที่สามคือ คุณอาจมีค่ายมาชวนไปอยู่ด้วย หรือไปเสนอค่ายแล้วได้เข้าค่าย หรือแม้แต่ทำเองจนโด่งดัง และสามารถทำเงินอยู่รอดเป็นอาชีพได้ด้วยตัวเองหรือมีทีม

ประมาณนี้ ถ้าจะให้ผมอธิบายนะ ซึ่งที่จริงรายละเอียดระหว่างทางมันมีมากกว่านี้อีกมาก

แต่!

ที่จริงแล้วผมไม่แนะนำ… ที่จะคิดว่าการเป็นศิลปินนั้นคืออาชีพ

ทำไมน่ะเหรอครับ? ลองสูดหายใจลึกๆแล้วลองอ่านบทความต่อไปนี้ดูนะครับ ผมเขียนจากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการมาเป็นสิบปี โดยแตะอยู่ระหว่างทั้งวงการดนตรีเบื้องหลัง และเบื้องหน้า ทั้งแมสและอินดี้นะครับ ฉะนั้นคิดว่า ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อผู้ที่อยากเป็นศิลปินทั้งในวงการระดับแมสกับอินดี้ ทุกแบบ

เชิญอ่านได้เลยครับ

ทำไมจึงไม่ควรคิดว่าการเป็นศิลปินคืออาชีพ

หลายๆคนที่ทำเพลง หรือเป็นศิลปิน ล้วนแต่มีรสนิยมทางดนตรีที่แตกต่างกัน กับดนตรีในโลกปัจจุบันที่มีอยู่เป็นร้อยแนว แต่ไม่ใช่ว่าทุกแนวดนตรีจะมีจำนวนผู้ฟังหรือโอกาสในการทำเงินเท่ากัน มันเป็นเรื่องจริงที่คุณควรตระหนัก เข้าใจ และยอมรับ

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า คำว่าศิลปิน ถ้าแบ่งประเภทกันตามลักษณะ segment ทางจำนวนกลุ่มผู้ฟัง จะมีอยู่สองประเภท คุณเป็นแบบไหน ระหว่าง

ศิลปินดนตรีแนวกระแสหลัก

  1. แนวกระแสหลัก (mass)
    คือแนวดนตรีปกติทั่วไปที่เราเห็นศิลปินเป็นกัน คือ popular music เพลง pop, rock , ลูกทุ่ง หรือแม้แต่ hip hop ที่ปัจจุบันนิยมแพร่หลายจนกลายเป็น pop ไปแล้วแบบหนึ่ง เนื่องจากเป็นที่นิยมมากในระดับมหาชน กลุ่มเป้าหมายของดนตรีแนวนี้จึงกว้างมาก และมีจำนวนมาก แต่โดยมากจะโฟกัสที่วัยรุ่น อายุไม่เกิน 30 ปีเป็นหลัก (มีงานวิจัยพบว่า คนส่วนมากที่ไม่ได้สนใจดนตรีเป็นพิเศษ จะเลิกฟังเพลงใหม่ๆ เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ทำให้เพลงใหม่ๆ โดยเฉพาะเพลงในหมวด popular music จะโฟกัสฐานคนฟังกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น)

ที่ใดมีคนที่นั่นก็จะมีเงิน เมื่อมีคนฟังมาก ก็มีจำนวนเม็ดเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมนั้นๆมากตามไปด้วย ทำให้เมื่อเป็นศิลปินอยู่ในหมวดนี้ ดัชนีวัดค่าต่างๆ จะมีสเกลตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ยอดวิวหลักล้าน – 10 ล้าน คือตัวบ่งชี้ได้ว่า ได้รับความนิยมเพียงใด และในบางตลาดที่อาจจะแมสมากๆ อย่างเพลงลูกทุ่ง อาจมียอดวิวถึงหลักร้อยล้าน เป็นเรื่องปกติ และเมื่อสามารถสร้างความนิยมถึงระดับนั้นได้ ย่อมแน่นอนว่า เม็ดเงินที่ตามมามันมหาศาลจนสามารถเป็นอาชีพได้ไปจนถึงสร้างความร่ำรวย

ทีนี้จะเกิดกรณีย่อยอีก 3 กรณี ดังนี้

1.1 คุณทำเพลงแมส เพราะคุณรักในดนตรีแนวนี้

ถ้าคุณเกิดมาชอบดนตรีแนวที่มีมหาชนคนนิยมเยอะ และพอคุณมาทำเพลง คุณก็ถนัด และชอบที่จะทำแนวนั้น มันเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว ชีวิตจะลงตัวอยู่แล้ว เพราะเมื่อคุณชอบสิ่งที่คุณทำ และคุณก็มีผู้ฟังจำนวนมากที่ชอบแนวดนตรีแนวนี้อยู่แล้ว เรียกได้ว่า กลุ่มเป้าหมายมันกว้างมากพอที่จะทำให้คุณทำเป็นอาชีพได้ ถ้าเพลงคุณได้รับความนิยม อาจจะมีเรื่องที่ยากบางอย่างคือ เนื่องจากเป็นแนวที่แมส จึงมีคู่แข่งเยอะไปตาม สิ่งที่คุณควรทำคือการพยายามหาเอกลักษณ์ตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นๆ และโดดเด่นขึ้นมาให้ได้

1.2 คุณทำเพลงแมส แต่จริงๆแล้วคุณรักดนตรีเฉพาะทาง

แต่ถ้าคุณไม่ได้โชคดีแบบนั้นล่ะ? ถ้าเกิดคุณดันไปชอบแนวเพลงที่ไม่เป็นที่นิยม หรือไม่เป็นที่รู้จัก หรือมีกลุ่มคนฟังที่น้อยมากๆ ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ และคุณก็ยังรักที่จะทำดนตรีแนวนั้น อยากเป็นศิลปินแนวนั้น มันไม่ผิดอะไรครับ แต่ต่อให้คุณไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นศิลปินในแนวนั้น จำนวนคนฟังที่เป็นกลุ่มเล็กมากๆเมื่อเทียบกับดนตรีแนวที่เป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ มันอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างเม็ดเงินให้คุณอยู่รอดเป็นศิลปินเป็นอาชีพหลักได้

ถ้าคุณเป็นกรณีที่กล่าวมา อาจด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ อาทิเช่น ดนตรีแนวที่คุณชอบ มันไม่ทำเงิน และคุณจำเป็นต้องอยู่รอดในอาชีพดนตรีให้ได้ คุณเลยต้องทำการบาลานซ์ชีวิต เอาสิ่งที่ชอบไว้ทีหลัง แต่ทำสิ่งที่ได้เงินก่อน กรณีนี้ชีวิตคุณจะยากกว่ากรณีแรกอยู่มาก ซึ่งแล้วแต่ระดับความเข้มข้นในความเป็นศิลปินของตัวคุณเองด้วย คุณจำเป็นที่จะต้องบาลานซ์ชีวิตทั้งสองด้านให้ได้ ทั้งการเลี้ยงปากท้องและเลี้ยงจิตวิญญาณตัวเอง ทางออกอาจจะมีหลายทาง อาทิเช่น รับจ้างโปรดิวซ์เพลง ทำเพลงโฆษณา เพลงประกอบสื่อ หรือทำเพลงแมสให้ศิลปินคนอื่นๆอีกที แต่ผลงานที่ตัวเองเป็นศิลปินจริงๆไม่ใช่แนวแมส หรืออีกหนทางหนึ่ง คุณอาจแบ่งแยกงานตัวเองเป็นสองส่วน สร้างแบรนด์ศิลปินสองแบรนด์ สองชื่อ ชื่อหนึ่งทำเพลงแมสเพื่อความโด่งดัง เพื่อเงิน ส่วนอีกชื่อหนึ่งทำเพลงในแบบที่ตัวเองอยากจะทำจริงๆ มันไม่มีคำตอบตายตัวสำหรับเรื่องนี้ อยู่ที่ว่าคุณจะหาหนทางในการปรับสมดุลย์ให้ชีวิตตัวเองอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วกรณีนี้ ผมไม่แนะนำเท่าไร ที่คุณจะทำเพลงแมสเป็นอาชีพ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะถ้าคุณไม่ได้ชอบมันจริงๆแล้วคุณฝืนตัวเองเพื่อทำมัน ส่วนใหญ่แล้วงานจะมีแนวโน้มที่จะออกมาไม่ดีเท่ากับคนที่เค้าอินแนวนี้จริงๆอย่างในกรณีแรกครับ ทางออกอื่นที่ดูจะดีกว่า คือการรับจ้างโปรดิวซ์เพลงแมสให้คนอื่นเป็นอาชีพ หรือทำพวกเพลงโฆษณา เพลงประกอบสื่อ จะดีกว่า ส่วนมากเป็นศิลปินแนวตัวเอง ให้เป็นงานอดิเรกเพื่อทำตามความฝันของคุณแยกกัน

ขอสรุปให้เข้าใจง่ายอีกทีนะครับว่า ถ้าใจคุณมันไม่ได้รักเพลงแมส คุณไม่ควร “ฝืน” ทำเพลงแมส เป็นศิลปินแมส ครับ (ยกเว้นในกรณีรับจ้างโปรดิวซ์ทำให้คนอื่นเป็นอาชีพนะ) คุณทำไปก็สู้คนที่เค้า born to be มาเป็นศิลปินแมสไม่ได้ หาหนทางอื่นดีกว่าครับ

(ซึ่งที่จริงแล้ว ต่อให้คุณเป็นประเภททำเพลงแมสด้วยใจรัก ผมก็อยากแนะนำแบบเดียวกัน คือไม่ควรทำให้การเป็นศิลปินเป็นอาชีพ เพราะอะไรเดี๋ยวจะขออธิบายตอนหลังนะครับ)

1.3 คุณทำเพลงแมส แต่จริงๆแล้วคุณชอบทั้งสองแบบ
ถ้าคุณไม่ได้ชอบดนตรีแบบไหนเป็นพิเศษ แมสก็ฟังได้ อินดี้ก็ดี ชีวิตคุณก็ง่ายขึ้นอีกครับ อิสระในชีวิตคุณจะสูง คุณจะเลือกทำเพลงแมสเล็งเป็นอาชีพเลยก็ได้ครับ แล้วว่างๆก็มาทำเพลงไม่แมสเป็นงานอดิเรกเล่นๆ อยู่ในวงการอินดี้ การที่เงื่อนไขในชีวิตน้อยลงมันดีมากๆแล้วครับ

ศิลปินดนตรีแนวเฉพาะทาง

  1. แนวเฉพาะทาง (Niche)
    แนวดนตรีเฉพาะทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อินดี้ นอกกระแส หรือดนตรีแปลกๆ แนวอื่นๆที่มีผู้ฟังเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็น Raggae , Metal , Electronic , Experimental , Post Rock ฯลฯ เป็นดนตรีที่มีจำนวนตลาดย่อยอยู่เยอะมาก มีผู้ฟังผู้ติดตามเฉพาะกลุ่มคนรักในดนตรีแนวนั้นๆ อยู่ แต่เป็นจำนวนที่ไม่เยอะแบบแนวแมสหรือมหาชน แน่นอนว่าเมื่อตลาดมันเล็กกว่า จำนวนเม็ดเงินมันก็ย่อมน้อยตามไปด้วย และบ่อยครั้งที่น้อยจนไม่สามารถทำเงินจนประกอบเป็นอาชีพได้ แต่ตัวศิลปินก็ยังทำด้วยใจรัก เหมือนเป็นงานอดิเรกที่เอาไว้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณศิลปินที่อยากสร้างและเผยแพร่ผลงานตัวเองมากกว่า และในบางกรณีบางเคส อาจทำเป็นอาชีพได้ ถ้าสามารถหาช่องทางให้มีกลุ่มผู้ฟังที่มากพอที่จะสร้างเม็ดเงินกับมัน เช่น อาจจะมีหนทางในการเปิดตลาดไปสู่ global หรือตลาดต่างประเทศ เพราะลำพังแค่คนฟังแนวดนตรีนี้ในไทยอาจจะน้อยเกินไป แต่พอเป็นทั้งโลกอาจจะมีมากพอที่จะทำเป็นอาชีพ แบบนี้เป็นต้น

และกรณีย่อย 3 กรณีที่จะเกิดขึ้น เป็นดังต่อไปนี้

2.1 คุณทำเพลงเฉพาะทาง เพราะคุณรักในดนตรีแนวนี้
กรณีนี้คือเหล่าคนที่มีความเป็นศิลปินจ๋าจริงๆ เรียกว่าเหมือนการทำศิลปะบริสุทธิ์ (Pure Art) ซึ่งคุณควรเข้าใจและยอมรับให้ได้ซะก่อนว่า โอกาสในการทำเงินของแนวดนตรีคุณมันจะไม่เท่ากับแนวแมสแน่นอน และมันทำเป็นอาชีพได้ยากกว่ามาก เพราะถึงแม้คุณจะประสบความสำเร็จเป็นเบอร์ 1 ในวงการของแนวดนตรีนั้นก็ตาม ก็ยังไม่สามารถการันตีได้อยู่ดี ว่ามันจะทำเงินมากพอที่คุณจะอยู่รอดทำเป็นอาชีพได้ไหม มันแล้วแต่ขนาดตลาดของแนวดนตรีนั้นๆด้วย ถ้าเป็นกรณีนี้ คุณควรคิดไว้เลยว่า “การเป็นศิลปินไม่ใช่อาชีพ”

คุณควรมีอาชีพอื่นเป็นหลัก มีเงินที่ตัวเองอยู่รอดได้แล้ว และพอมีเวลามาทำดนตรีที่ตัวเองรัก นั่นคือวงจรชีวิตแบบเดียวที่เป็นไปได้ อย่าไปคาดหวังว่าจะสามารถเป็นศิลปิน full time เป็นอาชีพได้ หรือถ้าคุณจะมีอาชีพดนตรีเป็นสิ่งอื่นๆ อาทิ สอนดนตรี รับจ้างทำเพลง โปรดิวซ์เพลง อะไรก็ได้เป็นอาชีพหลัก แล้วค่อยหาเวลาว่างมาทำเพลงศิลปินของตัวเองเพื่อเลี้ยงจิตวิญญาณ แบบนี้ก็เป็นทางออกที่ดีครับ

2.2 คุณทำเพลงเฉพาะทาง แต่จริงๆแล้วคุณดันชอบเพลงแมส
กรณีนี้อาจเกิดได้น้อยมากๆ อาจเป็นเพราะมีคนมาชวนคุณเล่นดนตรี ทำวงอินดี้ เป็นเพื่อนๆคุณ แล้วคุณก็คิดว่าสนุกดี แต่ก็รู้สึกไม่ได้อินกับสิ่งที่เล่น เพราะคุณชอบเพลงแมสๆมากกว่า ผมคิดว่าคุณทำไปสักพักก็จะคิดได้เองว่า ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะเงินก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ชอบหรือเอนจอยกับมันด้วย คำแนะนำง่ายๆคือ ผันตัวเองไปเป็นสายแมสดีกว่าครับ

2.3 คุณทำเพลงเฉพาะทาง แต่จริงๆแล้วคุณชอบทั้งสองแบบ
คล้ายกับกรณี 1.3 การที่คุณไม่มีเงื่อนไขอะไรในชีวิตมากมาย มันทำให้คุณมีอิสระสูงกว่า ไม่ค่อยมีความกดดัน ทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกต้องการเงิน หรือคิดว่าอยากทำเป็นอาชีพให้ได้ เดี๋ยวสักพักมันก็จะเป็นการบังคับกลายๆว่า ต้องปรับเปลี่ยนมาทำเพลงแมสไปเองโดยปริยายอยู่ดีครับ

สรุปทำไมจึงไม่ควรคิดว่าการเป็นศิลปินคืออาชีพล่ะ?

เท่าที่อธิบายไปทั้งหมด คุณคงเห็นภาพแล้วว่า หนทางของการเป็นศิลปินแนวไม่แมสนั้นมันไม่ควรทำเป็นอาชีพแน่ๆละ แต่ทีนี้หนทางของการเป็นศิลปินแนวแมสล่ะ?

ที่จริงแล้วผมก็ยังแนะนำแบบเดิม…

เพราะต่อให้คุณจะรักในสิ่งที่คุณทำมากๆ ทุ่มเทกับมันเต็มร้อย และเพลงของคุณดีมากๆแล้ว หน้าตาคุณก็ดี มีความสามารถ ร้องดี เสียงดีมาก เล่นดนตรีเก่งมาก มีอะไรๆหลายๆอย่างพร้อมกับการเป็นศิลปิน แต่คุณรู้ไหมครับว่า ต่อให้คุณมีทุกอย่างครบแบบนั้น มันอาจมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ มากกว่าคนอื่นที่ไม่ได้มีทุกอย่างพร้อมเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีอยู่ดีว่าคุณจะสามารถโด่งดัง ทำเงิน เป็นศิลปินดัง ที่สามารถทำเป็นอาชีพไปจนถึงร่ำรวยได้

การทำเพลงเหมือนซื้อหวย

ถ้าคุณได้มาเคยทำเพลงเองแล้ว อยู่ในวงการ คุณจะพบคำๆนึงที่ทุกคนพูดเหมือนกันว่า “การทำเพลงให้ดังนั้นเหมือนซื้อหวยแล้วถูก” ไม่ว่าคุณจะใช้สูตรหรืออัลกอริทึ่มตัวไหนมาวัด มันก็แทบไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่ามันจะดังชัวร์

นักแต่งเพลง หรือโปรดิวเซอร์หลายๆคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันไม่มีสูตรจริงๆ บางเพลงเน้นมากๆ พยายามแต่งแบบบรรจงสร้าง ทำโปรดักชั่นอย่างดี วางแผนการตลาดอย่างดี ดันไม่ดัง แต่ในขณะที่บางเพลง ปล่อยไปงั้นๆ ไม่ได้อะไรมาก ดันดัง

ความจริงมันเป็นเช่นนั้นแหละครับ… มันเป็นวงการที่คาดการณ์ยากมากๆ

หลายต่อหลายครั้งที่มีนักวิจารณ์หรือนักวิชาการมาพยายามวิเคราะห์ว่า เพลงไหนดังเพราะอะไร และมีเหตุผลมาอ้างอิงมากมาย แต่นั่นมันคือตอนที่เพลงมันดังไปแล้ว แต่ก่อนที่มันจะดังไม่เคยมีใครคาดเดาได้ถูกเลยสักครั้ง

ผู้จ้างทำเพลงหลายๆคน มักมีการคาดหวังให้เพลงที่จ้างทำออกมาดังเหมือนเพลงโน้นเพลงนี้ แต่ไม่มีใครจะการันตีได้หรอกครับว่ามันจะเป็นแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะเข้าใจตรงกันก่อน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดังไม่ดัง มันมีอยู่มากเกินไป นอกจากเรื่องคุณภาพของตัวงานเอง อย่าง เนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี หน้าตานักร้อง ตัว MV ฯลฯ มันยังมีปัจจัยทางการตลาด อาทิ แรงโปรโมท การซื้อ Ads ให้คนได้ฟังซ้ำ การดึงดูดด้วย Creative Marketing ฯลฯ และปัจจัยภายนอกอีกหลายอย่างมากๆ ที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ บริบททางสังคม ณ ช่วงเวลานั้นๆ , อัลกอริทึ่มของ platform เป็นต้น

การปล่อยวางจะทำให้คุณไปได้ยาวๆกว่า

สิ่งที่เราทำได้มากที่สุดคือ การพยายามทำเพลงให้ดีที่สุด และผลักดันด้วยการโปรโมทให้สุดแรงเท่าที่เราพอจะทำได้ เพื่อเพิ่มโอกาสที่คนจะเห็นผลงานให้มากที่สุด เพิ่มโอกาสดังให้มากที่สุด ที่เหลือคือเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ล้วนๆครับ การ work hard พวกนี้จะช่วยทำให้เกิดเปอเซนต์การ “ฟลุ๊คดัง” ที่มากขึ้น แต่ก็การันตีไม่ได้อยู่ดี และเราอาจน้อยใจได้ง่ายๆเมื่อเห็นเพลงบางเพลง “ฟลุ๊คดัง” แบบไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย

นั่นคืออีกสาเหตุหนึ่งครับที่ผมบอกว่า ทำไมคุณถึงไม่ควรยึดการเป็นศิลปินเป็นอาชีพ เพราะคุณอาจพยายามสุดตัวแล้ว แต่การ “ฟลุ๊คดัง” ก็ไม่เคยเกิดกับคุณ คุณจึงควรมีอาชีพอย่างอื่นรองรับ และทำเพลงแบบที่ตัวเองรักไปเรื่อยๆ เพื่อรอวันที่จะฟลุ๊ควันนั้น จะดีกว่าครับ และถึงมันจะไม่ได้ฟลุ๊คดังขึ้นมาจนทำให้คุณเป็นศิลปินเป็นอาชีพได้ อย่างน้อยๆคุณก็ยังได้ทำสิ่งที่คุณรัก คือดนตรีที่คุณใฝ่ฝัน และทำให้การเป็นศิลปินนั้น แม้จะไม่ตอบสนองด้านจำนวนเม็ดเงิน แต่ก็เป็นสิ่งเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ได้เช่นกันครับ

การปล่อยวางความดังหรือความประสบความสำเร็จให้ได้ เป็นสิ่งที่สำคัญ mindset นี้จะทำให้คุณไปได้ไกลว่าการพยายามกดดันตัวเองให้ประสบความสำเร็จให้ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกับการซื้อหวยแบบหมดตัวแล้วเก็งจะให้ถูก แต่มันไม่ถูก โดยคุณไม่ทำมาหากินวิธีอื่นเลย แต่จะหวังให้ถูกหวยอย่างเดียว โอกาสมันต่ำเกินไปครับ ผมจึงไม่แนะนำ

แต่ถ้าคุณหาทางออกให้กับอาชีพคุณได้แบบยาวๆแล้วล่ะก็ “หวยดนตรี” อันนี้ คุณก็ซื้อไปเรื่อยๆทั้งชีวิต แบบชิลๆ ได้นะครับ ไม่กดดันในชีวิตด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่กล่าวไปทั้งหมด มันคือกรณีที่คุณเป็นศิลปินแบบทำทั้งหมดนะครับ แต่ถ้าคุณพยายามจนไปเข้าตาแมวมอง มีค่ายจับเซ็นสัญญามันก็เป็นอีกเรื่อง โอกาสรอดของคุณก็จะมีมากกว่า เพราะค่ายโดยเฉพาะค่ายใหญ่ๆ มักจะมีสายป่านยาวพอที่จะทำให้เพลงดังได้มากกว่า และมีระบบที่เอื้อต่อการทำเงินอยู่รอดเป็นศิลปินได้ง่ายกว่าการทำเองอยู่มาก แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น คุณย่อมต้องการเงินที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเพื่อสามารถสร้างผลงานได้เรื่อยๆ ซึ่งมันก็จะกลับมาที่คำแนะนำเดิมที่บอกอยู่เสมออยู่ดีว่า คุณควรมีอาชีพอื่นรองรับ และ “ไม่ควรคิดว่าการเป็นศิลปินคืออาชีพ”

TheRealProducer

ถ้าคุณมีฝันอยากเป็นศิลปินหรือเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพ ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดที่กล่าวไปข้างต้น ข่าวดีคือ เรามีหลักสูตร The Real Producer ที่ช่วย support ทุกทางเลือกของชีวิตคุณที่ต้องการเดินทางสายการทำเพลง ทำดนตรี มีสอนทั้งกระบวนการผลิตดนตรีทุกระดับตั้งแต่ขั้นต้นแบบไม่มีพื้นฐาน ไปจนจบที่ระดับมืออาชีพที่เป็นความรู้ดนตรีของจริงที่จะทำให้คุณเหนือระดับ และอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการได้

นอกจากนี้ยังมีความรู้ของ Music Marketing ที่จะช่วยเสริมให้คุณสร้างความโด่งดัง เพิ่มจำนวนฐานแฟน และทำเงินกับอาชีพดนตรีได้ในระยะยาวได้อย่างมั่นคง หากสนใจสามารถติดต่อแอดมินที่ ไลน์ @verycatacademy หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่ link ด้านล่างสุดนี้ได้ครับ

————————

VERY CAT SOUND
Compose Your Dream
.
ถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่าดนตรีไม่มีทางลัด ถ้าคุณอยากเข้าใจ และเชี่ยวชาญ
ถ้ามีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน ผมไม่อยากให้คุณหลงทาง
มาคุยปรึกษากันได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
.
รับ demo คอร์สเรียนฟรี และข้อมูลหลักสูตรเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่
www.verycatsound.academy/funnel01
ติดต่อจ้างทำเพลง Line @verycatsound
ติดต่อเรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.