เชื่อว่าคนดนตรีหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำเป็นอาชีพ หรือคนที่ยังอยู่ระหว่างเรียน หรือฝึกฝน ศึกษาอยู่ จะต้องเคยเกิดอาการ Burn Out หรือหมดไฟในดนตรีกันมาบ้างอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต (ที่จริงก็เกิดอยู่บ่อยๆแหละ) ซึ่งมันเป็นเรื่องเข้าใจได้

หลายๆคนอาจคิดว่าดนตรีเป็นเรื่องของความสนุก ความผ่อนคลาย ความบันเทิง เป็นงานศิลปะ นั่นก็ไม่ผิดครับ แต่เมื่อไรที่คุณจริงจังกับมันเป็นอาชีพ มากกว่าที่จะเป็นแค่งานอดิเรก การที่คุณจะเก่งกาจในสายดนตรี จำเป็นที่คุณจะต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับมันใหม่ เพราะคุณอาจต้องสัมผัสดนตรีในอีกมุมมองที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาทิ การอดทนซ้อมเรื่องซ้ำๆซากๆ วันละหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้มาเพื่อทักษะ หรือแม้กระทั่งการเรียนการศึกษาอันแสนยาวนาน ถ้าต้องการเป็นโปรดิวเซอร์หรือนักทำเพลงที่เก่งกาจ ที่ต้องเข้าใจดนตรีในระดับลึกเพื่อให้เกิดความแตกฉาน และสามารถสร้างมันได้อย่างเหนือชั้น ที่มันต้องแลกมาด้วยชั่วโมงบินนับร้อยนับพันชั่วโมง

มันเยอะ… และเหนื่อย… และไม่เห็นผลซะที ใช่แล้ว และผมเข้าใจนะ

ใครๆก็เคยหมดไฟมาก่อน

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงอยู่ตอนนี้ อยากบอกว่า ไม่ใช่คุณแค่คนเดียวที่รู้สึก เชื่อเถอะว่าคุณมีเพื่อนร่วมชะตาแบบเดียวกันเยอะ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาก่อน แล้วมีอยู่ทุกสาย ไม่ใช่เฉพาะดนตรีหรอกครับ

ซึ่งต่อให้คุณผ่านช่วงเวลาของการศึกษาร่ำเรียนฝึกฝนมาได้ แต่เมื่อมาทำงานจริง ก็จะมีความเหนื่อยอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องอยู่กับดนตรีตลอดเวลา และก็อาจจะเป็นการมาถึงของภาวะหมดไฟอีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนเคยชิน และนั่นผมก็เคยผ่านมาหมดแล้วอีกนั่นแหละ

วันนี้ผมเลยอยากมาแนะนำวิธีการที่เราจะจัดการตัวเองอย่างไรในช่วงเวลาของอาการหมดไฟ จากประสบการณ์การเป็นโปรดิวเซอร์ นับสิบปีที่ผ่านมาของผมนะครับ อาการหมดไฟในแต่ละครั้งอาจจะมีสาเหตุไม่เหมือนกัน ซึ่งบางวิธีอาจใช้ได้ในบางช่วงเวลา ถ้าวิธีหนึ่งไม่ได้ผล ก็ลองอีกวิธีดูนะครับ

เมื่อหมดไฟทำอย่างไร?

1. ทำอย่างอื่นบ้าง

คุณอาจจะอยู่กับดนตรีมากไป เช้าเย็นค่ำ ทุกๆวัน จนเลี่ยน มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่คุณเล่นมันเป็นแค่งานอดิเรก เพราะเมื่อคุณจริงจังกับมัน มันต้องการการทุ่มเทที่มากกว่าเป็นธรรมดา และโดยเฉพาะคนที่ทำงานในสายดนตรีมาหลายปีแล้ว มีหลายคนที่ผมรู้จัก หรือแม้กระทั่งกับตัวผมเอง เกิดอาการ “เลี่ยนดนตรี” เรียกว่าในเวลางานมันอยู่กับดนตรีพอแล้ว พอเวลาพักผ่อนคือไม่ได้เปิดเพลงฟังเลย อยากอยู่เงียบๆ ไปไหนมาไหนจากที่เคยติดฟังเพลงตลอด กลายเป็นขออยู่เงียบๆ ฟังเสียงธรรมชาติ รู้สึกโล่งหูกว่า ไม่เหนื่อย ซึ่งถ้าคุณเกิดอาการอย่างที่ว่า สิ่งที่จะอยากจะแนะนำคือ ลองทำอย่างอื่นบ้างครับ เช่นงานอดิเรกต่างๆ ที่ไม่ใช่ดนตรี

คุณอาจชอบทำอย่างอื่นด้วย หรือศิลปะประเภทอื่น อาทิ ภาพยนตร์ ภาพเขียน หนังสือ วรรณกรรม ฯลฯ หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ ออกกำลังกาย ทุกอย่างมีศาสตร์ของมันที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการดำดิ่ง การเสพย์ การทำมันได้หมด ลองหาอะไรใหม่ๆทำดูเพิ่มเติมได้ ลองเปิดใจดู มันจะต่างแค่ว่า ศาสตร์อื่นมันยังอยู่ในระดับงานอดิเรก ไม่มีความจริงจัง ความกดดัน ความรับผิดชอบเข้ามาเกี่ยว มันจึงเป็นพื้นที่ที่เราไม่เครียดได้ ต่างกับดนตรีที่มันกลายเป็นอาชีพ เป็นงาน เป็นความรับผิดชอบของคุณไปแล้ว

การทำอย่างอื่นบ้าง จะช่วยพักจากความล้าในดนตรีที่คุณรู้สึก หนำซ้ำยังมีอะไรหลายอย่างที่คุณจะได้จากการเข้าไปคลุกคลีกับสิ่งอื่นนอกจากดนตรี ที่คุณสามารถหยิบจับมาเป็นวัตถุดิบหรือแรงบันดาลใจในงานชิ้นใหม่ๆของคุณได้อีกต่างหาก

2. ท่องเที่ยว หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

บางจังหวะชีวิตที่เรารู้สึกหมดไฟ ไม่อยากทำงานที่ทำอยู่ รู้สึกเข็ดขยาด เฉื่อยชา คุณลองออกไปเที่ยวดู ถ้าจะให้ดีไปที่ๆคุณเลือกเอง ที่ๆเป็นเหมือนการแสวงบุญของคุณ ที่ๆคุณใฝ่ฝันมาตลอดว่าต้องไปให้ได้ และจะดียิ่งขึ้นเมื่อเป็นการไปด้วยตัวคนเดียว วางแผนเองหมด การได้พบเจออะไรใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆที่ต่างออกจากไปชีวิตประจำวัน ช่วยแก้โรคซึมเศร้า รวมถึงภาวะหมดไฟให้หลายคนได้แล้วอย่างชะงัก แปลกแต่จริง

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับการบำบัดภาวะหมดไฟด้วยการท่องเที่ยว และได้ผลดีมากเกินคาด เจ็ดปีหลังจากวันที่เริ่มจริงจังกับดนตรี มาถึงวันเวลาแห่งการหมดไฟครั้งแรก ผมตัดสินใจไปญี่ปุ่นด้วยตัวคนเดียว เป็นเวลา 1 เดือน และพอกลับมาทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลย มีไฟขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งดีๆขึ้นอีกเยอะ อยากให้ทุกคนลองดูครับ

หากอยากติดตาม blog เที่ยวโตเกียว 1 เดือน 1 แสนบาท เมื่อก่อนของผม อ่านได้ที link นี้
https://verycatsound.com/tokyoend/

3. เสพงานระดับเทพ

การได้เสพงานดนตรีดีๆ จากศิลปินหรือนักดนตรีเก่งๆ ถ้าจะให้ดีเอาแบบ เก่งมาก เก่งสุดๆ เก่งจนน่าทึ่ง มันช่วยเป็นแรงกระตุ้นผลักดันให้เรากลับมาขยันเพื่ออยากสร้างงานดีๆออกมาบ้าง แรกๆคุณเห็นแล้วอาจจะรู้สึกว่าอยากเลิกเล่นดนตรี แต่เมื่อความเก่งของพวกเขาเหล่านั้นทำให้คุณอินกับผลงานของเค้า ใจรักดนตรีของคุณมันจะครั่นเนื้อครั่นตัว คันไม้คันมือ อยากลงมือปั้นผลงานบ้าง และผลลัพธ์กลายเป็นแรงฮึดสู้ที่คุณอยากกลับบ้านมาซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม เลยทีเดียว

4. ออกกำลังกาย

เรื่องซิลเปิลๆ แต่ได้ผลจริง ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยอ่านจากไหน แต่คนกรีกเคยเขียนเรื่องนี้ไว้นานมากแล้ว เกี่ยวกับศิลปินและการออกกำลังกาย กล่าวว่า บุรุษผู้ใดที่เป็นศิลปินจะมีลักษณะอารมณ์ที่อ่อนไหวเหมือนอิสตรี ควรระวัง ไม่ควรงดการออกกำลังกาย เพราะโดยส่วนใหญ่ศิลปินมักมีแนวโน้มที่จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการซึมเศร้า เบื่อโลก หมดแรงใจ ไม่อยากทำอะไรได้ ซึ่งแก้ได้ด้วยการอย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟีนในสมองออกมาเพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตของศิลปิน

ผมอยากให้คุณลองดู ออกไปวิ่งเหยาะๆ ไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก สัก 30-45 นาที วันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี แรกๆอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นแตกต่างอะไรเลย แต่ลองทำไปสักเดือนนะครับ สุขภาพจิตจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย พิสูจน์มาแล้ว

5. อยู่เงียบๆเพื่อทบทวนตัวเอง

ลองอยู่เงียบๆ หาที่สงบๆ ใช้เวลาค่อยๆคิด เขียนลงบนกระดาษ เขียนบันทึกก็ได้ เพื่อสำรวจความคิดตัวเองว่ารู้สึกยังไงกันแน่กับสิ่งต่างๆ รวมถึงเรื่องดนตรีด้วย หาคำตอบให้ได้ว่า เรารู้สึกยังไง อะไรคือปัญหา แล้วเรายังอยากทำมันอยู่มั้ย หรืออยากทำอะไรกันแน่ตอนนี้ แล้วถ้าไม่ได้ทำมันแล้วจะทำอะไร อนาคตจะทำอะไรต่อ ฯลฯ ถามตัวเองและหาคำตอบให้ได้ในแต่ละเรื่อง ทำความเข้าใจ ความรู้จักตัวเองให้ละเอียดขึ้น ให้รู้จักใจของตัวเองดีพอ

โดยส่วนมากกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้พักผ่อนสงบๆ หรือระหว่างเดินทางท่องเที่ยวโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว เมื่อทำได้สักพักเราจะเริ่มตกตะกอนความคิด และรู้เองว่าจะทำยังไงต่อ

6. อดดนตรีสักพัก เพื่อให้หิวมันอีกรอบ

ถ้ามันเบื่อมากๆ อีกวิธีที่อยากให้ลอง คือคุณลองงดทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรีให้หมด เป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ฟังเพลง ไม่เล่นดนตรี ไม่แกะเพลง ไม่ทำอะไรเลย แล้วไปทำอย่างอื่น ไม่ว่าจะข้อ 1 – 5 ที่กล่าวมา เมื่อคุณอดมันได้สักระยะหนึ่ง คุณจะคิดถึงมัน ยิ่งอดยิ่งคิดถึงและยิ่งเพิ่มแรงส่ง เพิ่มไฟในการกลับมาทำมันอีกครั้ง เพราะว่าที่จริงแล้ว ดนตรีกับคุณมันแยกจากกันไม่ได้หรอกครับ ในท้ายที่สุดคุณก็ต้องกลับมาหามันอยู่ดี ไม่ว่าคุณจะหนีจากมันไปกี่ครั้ง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

ถ้าคุณยังกลับมาหาดนตรีอีก

คนหลายคนเป็นอย่างที่ผมบอก คือมันเหมือนเป็นคำสาป ต่อให้คุณหายจากมันไป ถ้าเดี๋ยวคุณก็กลับมาทำมันอยู่ดี มันเป็นแพทเทิร์นแบบนี้มาหลายครั้งมากๆแล้ว คุณก็เป็นเหมือนผม และเหมือนพวกเราอีกหลายๆคนที่รักดนตรี อาการหมดไฟมันมาเยือนเราเรื่อยๆเป็นเรื่องปกติแหละครับ แต่ถ้าคุณดูจากสถิติแล้วว่าที่ผ่านมา มันก็แค่หมดไฟเป็นช่วงๆ แต่เดี๋ยวคุณก็กลับมาหามันอีก ผมว่ามันก็ตอบอะไรได้บางอย่างแล้วล่ะครับ ว่าความรักในดนตรีของคุณมันระดับไหน

สำหรับคนที่หมดไฟแต่แล้วกลับมาเรียนมันต่อ ฝึกต่อ หรือคนที่ทำดนตรีเป็นอาชีพแล้ว กลับมาทำมันต่อ ผมคงไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะพวกคุณคงรู้และตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้เรียนหรือศึกษามันในขั้นลึกสักที แต่กล้าๆกลัวๆ เพราะทำๆเลิกๆมาหลายรอบ ผมอยากให้คุณมองอดีตก่อนครับว่า คุณเรียน เลิก เรียน เลิก หนีจากดนตรีและกลับมาหามันวนไปวนมากี่รอบแล้ว แล้วมันมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆในอนาคตเหมือนเดิมใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ลองจินตนาการหน่อยครับว่า ตัวเองในอีกสิบปีต่อจากนี้ครับว่าคุณอยากเป็นแบบไหนระหว่าง

– พยายามหาทางลัดในการเรียน แล้วก็พบว่าไม่สำเร็จ แล้วก็เรียน เลิก เรียน เลิก เรียน เลิก แบบนี้อีกไม่รู้กี่รอบ แล้วทุกครั้งที่เรียนก็กลับมาเริ่มเบสิคใหม่ ผ่านไปสิบปีไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย

หรือ

– เลิกคิดหาทางลัด แล้วเรียนแบบจริงจัง แบบลึก ตั้งต้นกับมันสักที นับตั้งแต่ 0 แล้วค่อยๆไต่ไปถึง 100 ให้ได้ โดยบางช่วงเหนื่อย จะหยุดไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอกลับมาก็ต่อจากจุดเดิมได้เลย โดยไม่ต้องถอยหลังไปเริ่มที่เบสิคใหม่ ผ่านไปสิบปี คุณอาจจะเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพไปแล้ว

ถ้าคุณตัดสินใจได้แล้วว่าขอเป็นแบบหลังดีกว่า เรามีทางเลือกที่ดีที่สุดให้คุณที่หลักสูตร The Real Producer ของ VERY CAT ACADEMY ครับ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อแอดมินทางไลน์ หรือ ทาง link นี้ได้เลย
www.verycatsound.academy/funnel01

—————————————————————————————

The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy
– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425
Website : verycatsound.com
FB : http://www.facebook.com/verycatsound
YT : http://www.youtube.com/c/verycatsound