6 วิธีสร้าง Portfolio งานเพลง ทำอย่างไรให้ปังและได้งาน

6 วิธีสร้าง Portfolio งานเพลง อย่างไรให้ได้งาน

Share via:

Krissaka Tankritwong

6 วิธีสร้าง Portfolio งานเพลง ทำอย่างไรให้ปังและได้งาน

หลายคนเรียนและฝึกทำเพลงมาถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มอยากที่จะรับงานเอง แน่นอนว่าเราต้องสร้าง Portfolio หรือแหล่งรวมผลงาน เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้รับงานจากลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Portfolio จะน่าสนใจอยู่ไหมก็อยู่ที่ผลงานที่เราคัดเลือกมาใส่ เรามาดู 6 วิธีสร้าง Portfolio งานเพลงให้ปังและได้งาน จะมีอะไรบ้างิ ไปดูกันครับ

6 วิธีสร้าง Portfolio งานเพลง ทำอย่างไรให้ปังและได้งาน

  1. โชว์สิ่งที่ดีที่สุด

เราไม่จำเป็นต้องโชว์ทุกงานที่เคยทำ แต่ให้เลือก 10 – 20 ชิ้นที่เราภูมิใจและคิดว่าดีที่สุดออกมา เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นงานที่ดีที่สุดของเรา และในจำนวน 10 – 20 ชิ้น เป็นจำนวนกำลังดีที่ลูกค้ายังชมผลงานของเราได้แบบไม่อึดอัด ถ้ามากกว่านี้อาจจะอึดอัด เกิดอาการปวดหัวเฉียบพลัน และไม่ได้วิเคราะห์ผลงานของเราในสภาพที่สมบูรณ์ได้นั่นเอง 

  1. โชว์งานจริง

ถ้างานที่โชว์ใน Portfolio เป็นงานที่ได้ใช้งานจริง จะแข็งแรงกว่างานที่เราทำเล่น ๆ ทำให้เพื่อน หรืออื่น ๆ ที่ไม่ใช่งานลูกค้า เรียกว่าลูกค้าเจ้านั้น ๆ บางทีงานที่เราโชว์อาจจะดี แต่ถ้างานชิ้นนั้นได้เอาไปใช้จริงด้วย ก็เหมือนว่าลูกค้าเป็นคนการันตีคุณภาพงานแทนเราได้เลยเหมือนกันครับ

  1. โชว์ความหลากหลาย

โปรดิวเซอร์ถ้าจะอยู่รอดได้ การทำหลายแนวได้ก็เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง จะป๊อบ ร็อค ฮิปฮอป หรืออื่น ๆ  ถ้าใน Portfolio เรามีงานหลากหลายกว่า ก็มีโอกาสที่งานจะเข้ามามากกว่าคนที่งานไม่หลากหลาย บางทีลูกค้าเห็นงานชิ้นแรกแล้วยังไม่ตรงจริต แต่งานที่สองหรือสาม อาจจะตอบโจทย์เขาก็ได้ครับ

  1. โชว์สิ่งที่คนคุ้นเคย

ยิ่งถ้างานของเราได้ไปอยู่กับแบรนด์ดัง ๆ แบรนด์ใหญ่ ๆ หรือแม้แต่การได้ไปใช้งานในศิลปิน นักร้องดัง ได้ featuring เป็นต้น จะช่วยให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น เพราะเขาคุ้นเคยและรู้จักกับแบรนด์ที่เราเคยทำงานให้ด้วย แบรนด์ไหนน่าเชื่อถือก็จะการันตีได้ว่างานของเรามีคุณภาพมากพอให้เขาเลือกใช้งานได้ครับ

  1. โชว์ตัวเลข

ยอดวิว ยอดแชร์ ยอดดาวน์โหลด ฯลฯ ข้อมูลสถิติทั้งหลายช่วยให้ลูกค้าเข้าใจง่าย ว่างานของเราเอาไปใช้งานได้จริงมากแค่ไหนครับ 

  1. โชว์ของ

นี่ก็สำคัญครับ โชว์งานที่คิดว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของเรา ไม่จำเป็นต้องดังหรือประสบความสำเร็จที่สุดก็ได้ แต่มันคืองานโชว์ของ หรืองานส่วนตัวที่สะท้อนสไตล์เฉพาะตัว แม้งานอาจไม่ได้โด่งดัง แต่จะช่วยให้ผู้ฟังเห็นแพสชันและตัวตนเราชัดขึ้นครับ

จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่งานเพลง แต่งานในสายครีเอทีฟอื่น ๆ ก็สามารถเอา 6 ข้อนี้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้าง Portfolio ได้หมดเลย ยิ่งถ้าเรามีครบทั้ง 6 ข้อ ก็จะเป็น Portfolio ที่มีคุณภาพ แต่ถ้ายังไม่ครบก็ค่อย ๆ ทยอยเก็บไปทีละข้อ และหมั่นอัปเดท Portfolio บ่อย ๆ ให้เห็นว่าเรายัง active ในงานเพลงอยู่เสมอครับ

สำหรับใครที่สนในการทำเพลงและอยากเรียนรู้สู่การเป็น Producer มืออาชีพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหลักสูตร The Real Producer เราได้รวบรวมเนื้อที่จำเป็นไว้ในหลักสูตรอย่างครบถ้วนและเข้มข้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

The Real Producer

REAL / DEEP / EXCLUSIVE

หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง

ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง

นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ

หลักสูตร The Real Producer

เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล

สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link

http://mkt.verycatsound.academy/mf2

——————

Contact

Line ID :

– เรื่องเรียนทำเพลง @verycatacademy

– เรื่องจ้างทำเพลง @verycatsound

Tel. : 0856662425

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.