The Kid Laroi จากเด็กที่หลงไหลในเพลงสู่ศิลปินระดับโลก : Music Explore

The Kid Laroi จากเด็กที่หลงไหลในเพลงสู่ศิลปินระดับโลก : Music Explore

Share via:

Krissaka Tankritwong

The Kid Laroi จากเด็กที่หลงไหลในเพลงสู่ศิลปินระดับโลก : Music Explore

Music Explore วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของ The Kid Laroi ศิลปินและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ความหลงใหลในเสียงดนตรีได้นำพาเขาสู่เวทีระดับโลก ได้ร่วมงานกับศิลปินเบอร์ใหญ่อย่าง Justin Bieber ด้วย เขาทำได้อย่างไร? มาหาคำตอบกันครับ

The Kid Laroi มีชื่อจริงว่า Charlton Kenneth Jaffery Howard เขาเกิดในปี 2003 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเติบโตมากับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเขาต้องเผชิญกับความเหงาและความโดดเดี่ยวอยู่ที่บ้าน เพราะแม่ของเขาต้องออกไปทำงาน เขาจึงมีเพียงเสียงเพลงที่ใช้โอบกอดความโดดเดี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงฮิปฮอปของศิลปินอย่าง Kanye West ความรู้สึกอินและหลงใหลในทำนองเพลงแร็ปได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ

เขาเริ่มเขียนเพลงแร็ปตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี ถึงแม้จะไม่มีความรู้ด้านดนตรี ไม่มีเครื่องดนตรี หรือโปรแกรมทำเพลง แต่เขาก็ใช้เพียงแค่โทรศัพท์มือถือในการบันทึกเสียงเท่านั้น ซึ่งเขาก็สั่งสมประสบการณ์ผ่านการลองผิดลองถูกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้ปล่อยเพลงแรกออกสู่สาธารณะบน SoundCloud ในวัย 14 ปี ภายใต้ชื่อ The Kid Laroi ซึ่งชื่อ “Laroi” นั้น มีที่มาจากชื่อชนเผ่า Kamilaroi ซึ่งเป็นรากเหง้าของตัวเขา การเลือกใช้ชื่อนี้จึงเป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในตัวตนของตนเอง

ในขณะที่เด็กทั่วไปเลิกเรียนแล้ววิ่งเล่นสนุก หรือเล่นเกม แต่ The Kid Laroi เลือกใช้เวลาทั้งหมดเพื่อฝึกแต่งเพลง ทำเพลง และเรียนรู้ เขาฟังเพลงไม่ต่ำกว่าห้าชั่วโมงต่อวัน เพื่อวิเคราะห์โครงสร้าง ทำนอง และเทคนิคการแต่งเพลงจากศิลปินดังมากมาย เช่น Travis Scott และ Post Malone

The Kid Laroi ทำเพลงและปล่อยผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งสไตล์เพลงของเขาเริ่มชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีผลงานชิ้นหนึ่งไปเข้าหูศิลปินชื่อดังอย่าง Juice Wrld เหตุการณ์นี้ถือเป็นการเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

Juice Wrld ทึ่งในความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้ ที่สามารถทำเพลงที่มีเนื้อหาเข้าถึงอารมณ์ลึกซึ้งราวกับเป็นเพลงที่แต่งโดยผู้ใหญ่ ด้วยความที่เห็นแววศิลปิน เขาจึงชวน The Kid Laroi เข้ามาฝึกฝนภายใต้ค่ายเพลง Grade A Production จากเด็กที่เคยอยู่แต่ในออสเตรเลียต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ประเทศสหรัฐอเมริก 

ซึ่งเขาไม่ได้เผชิฐโลกใหม่จากการย้ายประเทศอย่างเดียว แต่ที่นี่เองเขาได้ค้นพบโลกที่เป็นของตัวเองผ่านเสียงเพลง เขาได้เห็น Juice Wrld แต่งเพลง แก้ไข และปรับปรุงเพลงเป็นร้อย ๆ รอบในแต่ละวัน แถมยังได้รับประสบการณ์สำคัญจากการไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกัน Juice Wrld ไม่เพียงแต่ฝึกฝนความรู้ด้านดนตรีเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์ทั้งหมดที่มีให้กับ The Kid Laroi อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม The Kid Laroi ก็ได้อยู่กับ Juice Wrld ไม่นานนัก เนื่องจาก Juice Wrld เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ซึ่งสร้างความโศกเศร้าให้กับเขาเป็นอย่างมาก The Kid Laroi มอง Juice Wrld เป็นมากกว่าศิลปินผู้ชี้ทาง แต่เป็นเหมือนโค้ชทางด้านดนตรี และพี่ชายที่คอยดูแลเขาเสมอมา เขาถึงกับร้องไห้แทบทุกคืน แต่เขาก็ผ่านความเศร้านั้นมาได้และแต่งเพลง “Tell Me Why” เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับ Juice Wrld และใช้เพลงนี้เป็นแรงผลักดันให้ความฝันด้านดนตรีของเขายังคงอยู่ต่อไป

 The Kid Laroi เดินหน้าสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง อัลบั้ม “Fuck Love” ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวความรัก ความสูญเสีย และการเติบโต ได้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถ เพลง “Without You” ในอัลบั้มนี้คือผลงานที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจชื่อ The Kid Laroi อย่างแท้จริง

ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2020 เขาก็ได้ระเบิดวงการเพลงด้วยเพลง “Stay” ที่ได้ซูเปอร์สตาร์อย่าง Justin Bieber มาร่วมร้องเพลงนี้ได้ขึ้นครองอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard Hot 100 หลายสัปดาห์อย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะที่เพลงกำลังดังเป็นพลุแตก The Kid Laroi ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 17 ปีเท่านั้นเอง แต่ถึงจะยังเด็ก เขากลับทุ่มเทให้กับเพลงนี้อย่างหนัก เขาเคยเล่าว่าได้แต่งเพลงนี้แล้วลบทิ้ง เขียนใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าหลายสิบรอบ เพื่อให้ทุกช่วงของเพลงสามารถสื่ออารมณ์ไปถึงผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งและดีที่สุด

สิ่งที่ทำให้ The Kid Laroi สามารถสร้างสรรค์ผลงานชั้นยอดและมีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์ แต่เป็น “ความหลงใหล” ในดนตรี และ “ความพยายาม” ที่เขาฝึกฝนและลงมือทำเพลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เขาไม่ได้สนใจแค่การแต่งเพลงเท่านั้น แต่ศึกษาไปถึงจิตวิทยาของผู้ฟังว่า ทำไมเราถึงชอบฟังเพลงเศร้า ทำไมคอร์ดดนตรีบางคอร์ดถึงทำให้รู้สึกเหงา เขาฟังเพลงเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อแยกองค์ประกอบทุกส่วนออกมา ทั้งคอร์ด เมโลดี้ Flow เพลง และอารมณ์เพลง เขาเรียนรู้ วิเคราะห์ และปรับเอามาใช้จนกลายเป็นสไตล์เพลงของเขาเอง

The Kid Laroi ไม่ได้อยากเป็นเพียงแค่แร็ปเปอร์ แต่เขาอยากเป็นศิลปินที่สามารถ “พูดแทนความรู้สึกของคนอื่น” ได้อย่างเข้าถึงหัวใจ นั่นทำให้ปัจจุบัน The Kid Laroi ในวัยเพียงยี่สิบต้น ๆ ได้กลายเป็นไอคอนของวัยรุ่นทั่วโลก และเขาก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงาน เก็บตัวทำอัลบั้มใหม่ และเตรียมตัวออกทัวร์ทั่วโลก

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น…เขาเป็นเพียงเด็กที่ไม่มีอะไร แต่เริ่มต้นจากความหลงใหลในดนตรี และสร้างสรรค์มันออกมาผ่านโทรศัพท์มือถือเท่านั้นเอง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความพยายามสำคัญกว่าพรสวรรค์ หรือความพร้อมในด้านอุปกรณ์อย่างแท้จริง และนี่คือเส้นทางดนตรีของ The Kid Laroi ที่เราขอหยิบยกมาเล่าสู่กันฟังครับ

หวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้นักทำเพลงทุกคนนะครับ สำหรับใครที่สนใจในการทำเพลง อยากเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี สามารถติดต่อ Verycatsound เรามีหลักสูตร The Real producer ที่ช่วยให้คุณทำเพลงได้อย่างมืออาชีพ รวมถึงยังยินดีให้คำปรึกษาสำหรับคนที่มีความฝันบนเส้นทางดนตรีครับ


เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
“ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง”
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official @verycatacademy
คลิก: https://line.me/ti/p/@verycatacademy
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE: @verycatsound

#VeryCatSound #TheRealProducer #สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #thekidlaroi #hiphop #rap

Leave a Comment

ベリーキャットサウンド ©2014 Copyright. All Rights Reserved.