“ดนตรีไม่มีทางลัด” หลายๆคนคงเคยได้ยินประโยคนี้มาบ้าง แต่ก็ยังไม่กระจ่างแจ้งว่าทำไมกัน?
ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นยุคที่มีทางลัดอยู่เต็มไปหมดเพียงแค่คลิกนิ้วในโลก internet คุณสามารถเจอสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ช่วยสร้างทางลัดไปสู่สิ่งต่างๆ ซึ่งความรู้ความชำนาญก็เช่นกัน คุณอาจเจอคอร์สเรียนทางลัดที่สามารถทำให้คุณเนรมิตสิ่งที่ต้องการเพียงแค่การเรียนไม่กี่ชั่วโมง ใครที่หาสิ่งที่ต้องการเจอด้วยวิธีการทางลัดพวกนี้ แล้วพบคำตอบที่ตัวเองพอใจ ผมก็ดีใจด้วย
แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่พบว่า เมื่อใช้ทางลัดพวกนี้แล้วก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ เมื่อคุณอินกับสิ่งที่คุณทำมากกว่าแค่ทำให้มันแค่พอมีใช้ก็พอ แต่คุณอยากละเอียดลงลึกกับมัน และคุณมีคำถามมากมายว่า อยากทำแบบโน้นแบบนี้ทำยังไง? อยากทำแนวนี้ทำยังไง? นั่นแสดงว่าความต้องการของคุณมันมากกว่าที่วิธีทางลัดที่ผิวเผินพวกนี้จะให้คุณได้ มันหมดเวลาสำหรับเรื่องเบสิdพวกนี้แล้ว สิ่งที่คุณต้องการคือสิ่งที่ลงลึก Advance ที่อยู่เหนือพ้นเรื่อง Basic ไปอีกเยอะ
การศึกษาดนตรีที่จริงแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียนภาษา คือการเรียนที่สัมฤทธิ์ผลที่สุดต้องมีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ทั้งหมดไปด้วยกัน จึงได้ประสิทธิภาพ และสามารถต่อยอดได้ในระยะยาว สามารถใช้ภาษานั้นได้อย่างชำนาญ มิหนำซ้ำยังไม่สามารถเร่งได้ ลองคิดดูว่ากว่าที่คุณจะเรียนภาษาอังกฤษจนพูดกับเจ้าของภาษาได้กินเวลาเท่าไร เป็นปีๆใช่ไหมล่ะครับ ดนตรีเองก็เช่นกัน
ถึงคุณอาจสามารถเรียนรู้ได้ว่า ระบบของดนตรีมันเป็นยังไง มีคอร์ด มีโน้ต มีสเกลยังไงบ้าง ในระยะเวลาสั้นๆ แต่การจะนำไปใช้จริงคุณกลับใช้ไม่ได้ เพราะคุณยังไม่คุ้นเคยกับมัน คุณจึงไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนไปใช้ประโยชน์ได้ทันที แต่มันเกิดจากการฝึกซ้อม ลองใช้บ่อยๆ จนเกิดเป็นธรรมชาติใหม่ของคุณ นี่มันฟังดูเหมือนกับการท่องศัพท์ในภาษาอังกฤษยังไงอย่างงั้นเลยใช่ไหมล่ะครับ กว่าจะพูดกันได้ต้องผ่านการท่องศัพท์ทุกวันมาเป็นเดือนๆปีๆ
1. เรียนรู้ทฤษฎีดนตรี ให้เข้าใจว่าส่วนต่างๆประกอบกันยังไง
2. เรียนรู้การปฏิบัติเครื่องดนตรี ให้สามารถจำสิ่งที่เข้าใจแล้วด้วย Muscle Memory ให้ซึมซับได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการนำไปใช้อย่างคล่องแคลว
3. ฝึกการฟัง หรือ Ear Training ว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ไป มีเสียงออกมาแบบไหน เพื่อให้คุ้นเคยกับเสียงนั้นๆ
4. ฝึกการนำไปใช้แต่งเพลง ทำเพลง เอาสิ่งที่ได้มาทดลองสร้างสรรค์ดนตรีดู เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เห็นไหมว่ามันคือ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ไม่ต่างกับภาษาเลยใช่ไหมล่ะครับ
ถ้าคุณเรียนอย่างเป็นระบบ รับรองได้ว่าเพลงที่คุณทำจะมีความละเอียดละออกับตัวโน้ต เพราะคุณสามารถหลอมรวมศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ผ่านร่างกาย สองมือ หู ปาก และสมองของคุณ ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับดนตรี และทำให้เกิดเพลงที่ไพเราะ ลงตัว มีคุณภาพ จนกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นงานศิลป์ชั้นดี และผมรับประกันได้ว่า เมื่อคุณมองกลับมายังงานที่คุณเคยทำตอนที่คุณใช้แต่ทางลัดทำ คุณจะพบว่ามันช่างห่างชั้นเสียเหลือเกิน
ถ้าคุณสนใจการเรียนทำเพลง ทำดนตรี แบบของจริง แบบนี้ แล้วไม่อยากเรียนแต่ทางลัด หรือคุณพร้อม และอยากจะก้าวไปสู่การเรียนที่จริงจังเป็นมืออาชีพขึ้น และอยากพอกันทีกับการเรียนเบสิdย่ำอยู่กับที่เดิมๆแล้ว ผมไม่มีทางลัดใหม่จะนำเสนอ แต่ผมมีทางตรงที่สุดที่สร้างไว้ให้คุณแบบคุณ ติดต่อเข้ามาที่หลักสูตร The Real Producer ของทาง VERY CAT ACADEMY ได้ครับ
หลักสูตรโดย VERY CAT SOUND : Compose Your Dream
เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการทำดนตรีจริงๆ อยากเรียนรู้แบบลึก จริงจัง
นี่คือหลักสูตรที่เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
หลักสูตร The Real Producer
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร ติดต่อ admin ที่ line ด้านล่าง หรือ รับ demo คอร์สเรียนฟรี! และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
http://mkt.verycatsound.academy/mf2
——————
Contact
Line ID :
Tel. : 0856662425
Website : verycatsound